พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 960


    ข้อความนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบแก้ไข

    ตอนที่ ๙๖๐

    ณ มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

    วันอาทิตย์ที่ ๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗


    ผู้ฟัง เมื่อก่อนได้ยินท่านอาจารย์กล่าวตามมาว่าเห็นเผื่อจะลืมผมก็ยังไม่เข้าใจว่าที่ท่านอยากจะกล่าวนี่หมายถึงอะไรขอความเข้าใจเพิ่มขึ้นด้วยครับ

    ท่านอาจารย์ หลายคนนะคะ ชอบท่องเที่ยว ไปไหนอ่ะ ไปดู ใช่ค่ะท่องเที่ยวเนี่ยไปดูละแล้วจำได้ไหม

    ผู้ฟัง ก็ลืมแล้วครับ

    ดูแล้วก็เลย อุตส่าห์ไป นะคะ เห็นแล้วก็เลย หมายถึงว่าเราคลองในสิ่งที่มันไม่มีสาระอะไร เดี๋ยวนี้อะไรๆ ปรากฏค่ะ ๔กำลังปรากฏเลขอื่นแล้วใช่ไหมคะ ในขณะที่ซีรีส์ปรากฏลืมเองแหละ งั้นจุดประสงค์จริงที่จะน่าจะได้ความเข้าใจตรงนี้เนี่ยเพื่อจะให้ผู้ฟังเนี่ยมีความเข้าใจในส่วนใดของพระธรรม ไม่ค่อยความจริงเป็นอย่างดีค่ะทุกสิ่งทุกอย่างมีแล้วหามีไม่ แล้วไปติดข้องในสิ่งที่เพียงมีนิดเดียวแล้วก็หามีไม่ เสียงลงในปรากฏนะคะ เสียงยังไม่ปรากฏคเ๔ยงเกิดติดข้องในเสียง แล้วเสียงก็หายไปไม่กลับมาอีกเลย มีประโยชน์อะไร เพราะเหตุว่าก่อนมีเสียงก็ไม่มีเซียนแต่พอมีแล้วเสียงก็หายไปเหมือนตอนที่ไม่มีนั่นแหละ แปลว่าการมีได้ และทำให้เกิดความติดข้อง ทุกอย่างที่ปรากฏจากการที่ไม่เกิด แล้วก็เกิด แล้วก็หมดไป ทั้งนั้นเลย เพราะฉะนั้นประโยชน์อะไรที่จะติดข้องในสิ่งที่มีแล้วหามีไม่ ไม่เหลือเลย ประโยชน์อะไรที่จะติดข้องในสิ่งที่มีแล้วหามีไม่จากไม่มีใช่ไหมคะครับแล้วก็มีนิดนึง แล้วก็ดับไปไม่กลับมาอีกเลย แต่ตอนที่มีเนี่ยเป็นที่ตั้งของความยินดีติดคอ ปรากฏให้ติดข้อง ไม่ว่าจะทันตาทางหูทางจมูกทางลิ้นทางกายทางใจ คุณนิรันดร์ชอบรับประทานอะไรคะก็ชอบรับประทานอาหารอร่อยก่อนใครก็รู้ว่าชอบอ่ะฮัลโหลชอบเห็นไหมคะเดี๋ยวนี้ไข่พะโล้อยู่ใน ก็ไม่มีใครปฏิวัติซ้อนแต่ยังชอบไข่พะโล้ชอบเพราะฉันจะไม่มีไข่พะโล้ แล้วก็กำลังลิ้มรสไข่พะโล้ด้วยความติดข้องถูกต้องใช่ไหมคะเพราะเมื่อกี้บอกว่าชอบแล้วก็ไม่มีไข่พะโล้อีก เพราะฉันมีไข่พะโล้ให้ติดคอ จะไม่มีแล้วมีให้ติดคอแล้วก็หายไป ไม่กลับมาอีกเลย มีประโยชน์ไหมในการที่จะมีให้ติดคอเหมือนเดิมคือเหมือนไม่มีเพราะไม่เคยมีมาก่อน ชาตินี้เกิดขึ้นนะคะ ตอนที่เป็นชาติก่อนรู้ไหม ว่าจะมีชาตินี้ ไม่มียังไม่เกิดใช่ไหมคะแต่เกิดแล้วติดคอในความเป็นบุคคลนี้ในชาตินี้จนกว่าจะตาย พอตายแล้วไม่มีคนไหนอีกเลยคะ ก็จากกรรมใหม่ที่ทำให้เป็นบุคคลไม่แล้วแต่ว่าจะเป็นคนที่จะเป็นสัตว์เดรัจฉานนี้จะเกิดในแอบใบ้ฝูงก็แล้วแต่นะคะ เลือกกรรมไม่ได้ว่าจะให้ผลอะไรชาติไหนเมื่อไรในลักษณะอย่างไรแต่เมื่อเหตุมีผลก็ต้องมีเพราะชาตินี้ทั้งชาติเมื่อถึงชาติหน้า หายไปหมดเลย มีสำหรับให้ติดคอให้เกิดเลิร์นให้เดือดร้อนให้วุ่นวาย แล้วก็ไม่มีอะไรเลย เพราะฉะนั้นถ้าไม่เข้าใจอย่างนี้จริงๆ นะคะ จากเท็จจริงไม่เกิดดีกว่า เพราะว่าเกิดมาทำไมเพื่อให้ติดคลองเท่านั้นเอง เพื่อให้ไม่รู้ และติดข้อง ตลอดชีวิตนะคะ แสวงหาตั้งแต่เกิด ไม่แพงตาก็หูจมูกลิ้นกายใจทุกขณะ เพื่ออะไรคะเพราะไม่รู้ด้วยความเป็นเราว่าแท้ที่จริงไม่มี เรื่องเกิดขึ้นให้รู้ว่ามีสิ่งนั้นนิดเดียวแล้วก็ไม่มีอีกเลยอีกเลยในสังสารวัฎ อาจารย์บอกว่าชีวิตนี้เนี่ยเกิดได้อยู่ก็เผื่อจะติดของอย่างงั้นนะครับ แล้วก็ติดข้อความไม่รู้ใช่ไหมคะใช่ครับอย่างไข่พะโล้ สวยค่ะคนที่ยังไม่เคยรับประทานไข่พะโล้ก็ไม่รู้ว่าไข่พะโล้เป็นยังไง แสวงหาไข่กะน้องนะคะ พอมีไข่พะโล้ลิ้มรสไข่พะโล้ตอนที่ยังไม่ได้ลิ้มรสก็ไม่รู้ว่าจะชอบรถนี้เลย ใช่ไหมคะแต่พอลิ้มรสก็เกิดความยินดีในรสที่เราใช้คำว่าไข่พะโล้แล้วรถมันก็หมดแล้วไม่เหลือเลย ไม่มีอะไรที่เหลือเลยสักอย่างเดียวค่ะ เกิดขึ้นแล้วก็ดับไปแล้วก็มีกลับมาอีกในสารสารวัตรไม่เจออีก วันนี้เจอคุณวิชัยนะคะ ก่อน มีคนมิใช่ไหมค่ะ ดิฉันก็ไม่มีใช่ไหมคะใครก็ไม่รู้ เจอกัน หรือเปล่าก็ไม่รู้รู้จักกัน หรือเปล่าก็ไม่รู้อาจจะไปเที่ยวด้วยกันเป็นญาติพี่น้องเพื่อนฝูงสหายเป็นพ่อแม่ก็ได้อะไรก็ได้ทั้งนั้นเลยใช่ไหมคะแต่พอถึงชาตินี้ไม่รู้เลยคนนั้นหายไปหมดเลยไม่เหลือค่ะทั้งสองคนนั่นแหละไม่ว่าจะกี่คนก็ไม่เหลือเลยสักคนนะคะ แล้วก็มีคนใหม่ เรื่องใหม่โลกใหม่ แล้วก็ใกล้ที่จะไม่เหลืออีกเลยถือว่าจะเป็นบุคคล ชาติก่อนไม่มีคุณวิชัย ฉากหน้าไม่มีคุณวิชัยเฉพาะชาตินี้มีธรรมนะคะ หลากหลายมากถ้าไม่เรียกชื่อก็ไม่รู้ว่าหมายความถึงใครแต่ก็เรียกมีชื่อแต่ละประจำตัวของธาตุนั้นสภาพนั้นเพื่อให้เข้าใจไม่ใช่สภาพธรรมดีสภาพธรรมนี่เกิดแล้วก็เป็นไปอย่างดี นะคะ เพื่อความที่จะเข้าใจกันได้ก็เรียกชื่อว่าชื่อ ให้รู้ว่าหมายความถึงชาติไหน เป็นธาตุซึ่งมีปัจจัยเกิดแล้วก็ดับขัตามความเป็นจริงเป็นอื่นไม่ได้นอกจากเป็นธาตุแต่ละอย่าง พอรวมกันก็เลยกลายเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งแต่ คาดเห็นภาพได้ยินถ้าคิดนึกธาตุแข็งคาดว่าน คาดโลกธาตุโกรธเป็นทาสหมดใจแล้วหายไปหมดด้วย ไม่เหลือค่ะ นี่คือเพราะไม่รู้ จริงอยู่มาในร่าโลก เพราะไม่รู้จริงเศร้าโศก แต่ถ้ารู้ก็คือว่า ความจริงเป็นเด็กนี่นะคะ แล้วก็ปัญญาเท่านั้นที่จะรู้ว่าไม่มีดีกว่าไหม ไม่ต้องเห็นเลยดีกว่าไหมไม่ต้องเกิดมาได้ยินเลยดีกว่าไหมไม่ต้องเดือดร้อนเลยสักขณะเดียวไม่มีความเป็นไปที่จะต้องเป็นแปลงเมื่อเกิดแล้วต้องเป็นไป เพราะฉะนั้นเมื่อไม่มีเลยนั่นแหละคือสิ่งที่ประเสริฐกว่าทุกอย่าง ไม่มีความเดือดร้อนนี่แหละเป็นความสงบสันติอย่างยิ่งไม่มีอะไรมาทำให้เกิดอะไรขึ้นบ้างจนสักอย่างเพราะหมดปัจจัยที่จะทำให้เกิดขึ้นอีกต่อไป ไม่เช่นนั้นจะไม่มีเรื่องอาหารก็สัมมาสัมพุทธเจ้าไม่มีพระสาวก แซ่ดพระเอกว่ามีปัญญาที่สามารถที่จะเข้าใจถูกเห็นถูกในสิ่ง แตกยากไม่ใช่เพียงฟังแค่นี้ก็สามารถที่จะเป็นอย่างนั้นได้ต้องเห็นความลึกซึ้งอย่างยิ่งของแต่ละคำแต่ละสภาพธรรมเช่นเหตุ เกิดแรงเห็นแล้วแต่ไม่รู้ว่าเห็นเกิดก็ เห็นเกิดเพราะอะไรคะ เห็นพระอะไรคะคุณอนงค์ ก็มีกับใช่มั้ยครับเนี่ยเป็นผลของกรรมแลกกรรมเนี่ยก็คือเจตนาที่เป็นกุศล และเจตนาอกุศลเจตนาจึงเป็นปัจจัยให้ต้องมีการเกิดนะฮะเมื่อเกิดแล้วมึงตาหูจมูกลิ้นกาย อย่างเช่นบีตาก็มีโอกาสที่กรรมจะให้ผลให้มีการเห็นขึ้นแล้วกำ เพราะอะไรคือกับเกาะเพราะยังไม่ได้ดับอวิชาความไม่รู้นั่นเอง ตอนนั้นยังมีความไม่รู้คือเอาวิชาอยู่ตราบใดนะฮะก็มีการทำอกุศลกรรมบ้าง หรือกุศลกลับบ้านที่เป็นไปในวัดจึงจะต้องเกิดมาแล้วก็มีตาหู กายใจแล้วก็มีการได้รับผลของกรรมหลังเกิดก่อนตายก็คือเห็นได้ยินดังนั้นก็มาจากการมาจากปัจจัยต่างๆ มากมายแต่ที่เป็น สาธารณะsจริงๆ ก็คือความไม่รู้ เห็นเคราะห์กรรมก็ไม่รู้ใช่ไหมค่ะ กำลังเห็นเดียวเนี่ยเพราะกรรมก็ไม่รู้ เพราะฉันสั่งเพื่อให้รู้ว่ากรรมให้ผลคณะแรกคือทำให้เกิดขึ้นขณะแรกเลยแล้วแต่ว่าจะเป็นใครสืบต่อมาจนกระทั่งเป็นอย่างนี้นะคะ แต่ว่าเกิดแล้วต้องเห็นก็กะต้องได้ยินก็กลับ ต้องได้กลิ่นเพราะกลับต้องริมแล้วเพราะกลับต้องรู้สิ่งที่กระทบสัมผัสเย็นร้อนอ่อน หรือแข็งก็กลับแต่ขณะที่กำลังเป็นอย่างนี้ไม่รู้ ถึงบอกก็ไม่รู้นะคะ แต่เริ่มเริ่มแล้วค่ะที่จะเข้าใจความจริงว่าเพราะ แต่ว่าไม่ใช่เพราะกรรมอย่าง เห็นไหมคะทรงแสดงถึงปัจจัยของสภาพธรรมที่เกิดได้แม้เพียงจะแกิดได้ช่วยหนึ่งคณะก็ยังต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง แล้วก็ดับไป คิดดูสิคะประโยชน์อะไรกว่าจะเห็นซะขนาดหนึ่งเนี่ยก็ต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างเพราะกรรมคือต้องมีจากครูภาษาถ้ารูปที่กรรมเป็นปัจจัยให้เกิดเป็นรูปที่สามารถกระทบกับสิ่งที่กำลังปรากฏให้เห็นถ้าไม่มีรูปนี้เพราะกรรมใหม่ทำให้เกิดรูปนี้ ตาบอดก็ไม่เห็น เพราะฉะนั้นต้องเข้าใจในช่วงนึงขนาดเห็นต้องอาศัยปัจจัยคือหนึ่ง๙ แล้วก็จักขุประสาทเกิดขึ้นเพราะกรรมนะคะ แล้วก็สิ่งที่กระทบตาสิ่งที่กำลังกระทบตาขณะนี้ต้องยังไม่ดับด้วยจักขุประสาทซึ่งเกิดดับอย่างรวดเร็วในขณะที่รูปกระทบตาทั้งรูป และจักขุปสาต้องยังไม่ดับด้วยทั้งที่ดับเร็วมากเลยค่ะ แม้กระนั้นก็ยังต้องอาศัยกุศล หรืออกุศลที่ได้กระทำแล้วเป็นเหตุให้เห็นเนี่ยเห็นสิ่งนั้นซึ่งถ้าเป็นสิ่งที่ดีที่กระทบตานะคะ อกุศลกรรมทำให้จิตเห็นเกิดสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่กระทบตามเป้าเป็นกุศล เป็นปัจจัยให้จิตเห็นสีมากพอใจปา แล้วก็ดับไปแล้วก็ไม่รู้จึงติดข้องในสิ่งที่ปรากฏ โยงใยกันไปหมดค่ะธรรมแต่ละหนึ่งขณะที่จะเกิดขึ้นเป็นไปด้วยความไม่รู้นะคะ จนกว่ารู้เมื่อไหร่ก็ไม่มีเราจักขุประสาทก็เกิดแบบเก่า สิ่งที่ปรากฏกระทบตาได้ก็ต้องกระทบในขณะที่ยังไม่ดับ แล้วทั้งสองอย่างเต๋ายังไม่ดับจึงจะเป็นปัจจัยให้กรรมหนึ่งทำให้จิตเห็นเกิดขึ้น ถ้าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่น่าพอใจอกุศลกรรมไม่สามารถทำให้จิตเห็นเกิด แต่กุศลกรรมเป็นปัจจัยให้เกิดขึ้นเห็นสิ่งที่กระทบตาซึ่งเป็นสิ่งที่น่ายินดีนะคะ บังคับบัญชาไม่ได้ไม่อยู่ในอำนาจของใครทั้ง เพราะฉะนั้นขณะนี้ทุกขนาดไหนคะถ้าศึกษาโดยละเอียดนะคะ ไม่มีเจ้าของสิ่งหนึ่งสิ่งใดเลยเป็นแต่เพียงธรรมมะซึ่งมีปัจจัยเกิดแล้วก็ดับดับแล้วอยากจะไปเป็นของใครได้ไหมครับในเมื่อไม่มีเลยไม่เหลือเลย อาจารย์ครับแม้จะได้ฟังโดยละเอียดอย่างนี้เนี่ย มันเป็นไปได้ไหมคะที่พอเราออกจากห้องนี้ไปเนี่ยเราก็จะติดข้องในสิ่งต่างๆ เพราะเห็นแล้วก็ลืมเราออกไปแล้วก็ไปติดเข้ามาทำไมพอเห็นแล้วก็ไม่มีสาระอะไรเราก็จะติดของน้อยลงงั้นป่ะยังไม่ได้เอาใจของนะคะ ดอกไม้นี้สวย สวัสดีค่ะยังไม่ต้องไปไหน เร็วอย่างนั้น เพราะฉะนั้นความติดข้องจะมากมายสักแค่ไหน งั้นการฟังเพื่อประโยชน์อะไร และเพื่อเข้าใจถูกเข้าใจถูกแค่ความจริงเป็นอย่างนี้แค่นั้นเองหรอครับแล้วก็รู้ความจริงแล้วจะติดของมั้งรู้แค่รู้จริงๆ จะมีเราไหม ก็ไม่มีค่ะ เพราะฉะนั้นสุดท้ายว่ายังไงคะ พร้อมคำกลอน พอรู้รักตัวตนจริงคน ต้องละการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน เพราะไม่จริงไม่มีตัวตนจริงๆ ก็ไปยึดถือว่ามี เห็นผิดแผนแมทก็ไม่รู้ว่าเห็นผิดแผนนัสซี่ใหญ่นั้น อาจารย์บอกว่ารู้จริงๆ นี่ก็หมายถึงว่าประจักษ์แจ้งในสภาพมา พระอรหันต์ประสานมาสำรวจเจ้าทรงตรัสรู้หมายความว่าอะไร ไม่ได้คิดไม่ได้ไตร่ตรองแล้วก็มาบอกเรา แต่บำเพ็ญพระบารมีนะคะ มากมายจนกระทั่งตรัสรู้ความจริงอย่างแรงกอดรัดอย่าง เราจะให้คนอื่นได้เข้าใจความจริงด้วย ท่านอาจารย์บอกว่าเห็นเผื่อจะลืมเนี่ยก็เพื่อให้ผู้ฟังเนี่ยได้เข้าใจถูกเห็นถูกตามความเป็นจริง ถ้ายังมีตัวตนอยู่ก็ยังมีภัย ความไม่รู้ถูกต้องแต่พอมีความไม่รู้นั่นเองจึงทำความ และต้องรับผลของ กราบเรียนท่านอาจารย์ครับก็ สืบเนื่องจากที่ได้ฟังพระธรรมตั้งแต่ตอนต้นที่ท่านอาจารย์ได้สนทนากับคุณนว เรื่องของความถี่ชีวิตก็ต้องเกิดขึ้นเป็นไปเพราะว่ายังมีเหตุมีปัจจัยที่ที่ยังต้องเกิดยังต้องเป็นไปซึ่งชีวิตในครบหนึ่งชาติหนึ่งก็เริ่มตั้งแต่ขณะแรกปฏิสนธิจิตแล้วก็สิ้นสุดที่จุติจิตเกิดขึ้นสิ้นสุดความเป็นบุคคลนี้แต่ว่าช่วงเวลาที่ประเสริฐขณะที่ประเสริฐก็คือโอกาสที่ได้สะสมความเข้าใจ ความจริงจากการได้ยินได้ฟังพระธรรมครับท่านอาจารย์ครับอาจารย์ครับพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงคมีมากมายทีเดียวครับทั้งหมดทั้งปวงก็เป็นไปเพื่ออุปการะเกื้อกูลให้ปัญญาให้คุณความดีทั้งหลายเจริญ ซึ่งสืบเนื่องจากเมื่อวานด้วยที่ที่ผ่านมาประการหนึ่งที่ทำให้ถึงความเป็นผู้มากความเป็นผู้ไพบูลย์ในธรรมว่าทั้งหลายก็คือเป็นผู้ไม่เพียงพอในกุศลธรรมทั้งหลายซึ่งถ้าจะพูดเป็นภาษาธรรมดาอย่างที่อาจารย์สนทนาเมื่อเช้าที่อ ยุคนะครับ ว่า๔เท่าไรก็ไม่พอจนกว่าจะถึงความเป็นพระอรหันต์ อาจารย์ครับแม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ก็ทรงแสดงว่าพระองค์ทรงรู้คุณของธรรมสองอย่างก็คือหนึ่ง ความเป็นคู่ไม่เพียงพอในกุศลธรรมทั้งหลาย และความผู้ไม่ย่อย้อนในความอีกอาจารย์ครับ ทั้งหมดที่ได้ฟังมาความเข้าใจในเรื่องของความเป็นจริงของธรรมจะเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลต่อความเข้าใจในเรื่องของคำดีเท่าไหร่ก็ไม่พอกับความเป็นลูกไม่ย่อย้อนในความเอียดอย่างไรครับ ฟังวันนี้พอมั้ง แล้วสั่งอีกเขียน หรือเปล่า ถ้าจะครับดูเหมือนว่า ก็ทำที่ทรงแสดงก็หลากหลายก็ยังชนะจริงๆ แต่ว่าทั้งหมดทั้งปวงก็ ไม่พ้นไปจากความเกิดขึ้นเป็นไปของธรรมแม่ที่ทรงแสดงว่าคำดีเท่าไหร่ก็ไม่พอก็ต้องเป็นทำมาที่เกิดขึ้นทำผิดหน้าที่ของทรัมป์มา ก็ต้องเป็นปัญญาที่รู้จริงๆ ว่าใครที่ยังไม่รู้ความจริงจนกระทั่งแบบกิเลสได้หมดก็ยัง ได้ฟังท่านอาจารย์ได้สนทนาในรายการแนวทางเจริญวิปัสสนาเหมือนกันครับท่านอาจารย์ครับว่าคำเนี่ยควรจะเป็นคติประจำใจจริงๆ ก็คือทำดีเท่าไหร่ก็ไม่พอเพราะเห็นว่าสิ่งที่ควร และสิ่งที่เป็นอกุศลธรรมทั้งหลายนั้นมีมากเหลือเกินครับอาจารย์ครับสร้างแล้วไงค่ะ ดีแค่ไหนก็ไม่พอก็ยังไม่ทำดี ใช่ค่ะ เพราะเชฟเจย์ยังไงคะได้ยินก็ได้ยิน และรู้ว่ามีประโยชน์แต่พี่งั้นธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา เพราะฉะนั้นจริงๆ แล้วสรุปก็คือว่านะคะ แม้แต่คำแรกที่ได้ฟังวัดธรรมก็ต้องเข้าใจจริงๆ และธรรมทั้งหลายไม่เว้นเลยนะคะ เป็นอนัตตาก็เลย พ่อไม่ดีก็เป็นยาวพอดีก็เป็นใหญ่เพราะฉันยังคง ไม่เข้าใจธรรมปรากฏจนกว่าจะรู้ชัดรู้แจ้งสามารถที่จะดับกิเลสได้ตามลำดับ อาจารย์คะดิฉันก็มีข้อความอีกอันหนึ่งที่เตรียมใจก็คือเห็นโทษแม้อกุศลธรรมเพลงด้วย โทษแม่พี่ ที่ไหนรู้จักเห็น อาจารย์ครับเฉยผ่านที่ว่าเห็นโทษแม้เพียงเล็กน้อยทาจารย์ท่านก้อเหมือนกับการที่อย่างเช่นการต้องอาบัติของภิกษุครับถ้าเป็นอาบัติคือภาษิตเนี่ยก็เป็นอาบัติที่เบาที่สุดแล้วแต่ว่ามันก็เหมือนกับแสดงว่าการต้องอาบัติทุกภาษิตเนี่ย เปรียบเหมือนกันต้องอาบัติปาราชิก โอกาสที่จะมีความรู้ที่จะเหมือนกับโดยปกติของชีวิตที่เป็นไปก็มีอกุศลว่าการที่แสดงว่าเห็นโทษแม้เพียงเล็กน้อยเนี่ยจะให้เข้าใจยังไงไม่ประมาทที่จะคัดกล่าว แม้กิเลสเพียงเล็กน้อย แต่ก็ต้องมีความรู้ความเข้าใจถูกทั้งหมดเป็นปัญญาถ้าถามที่ผู้มีพระภาคตรัสเป็นเรื่องของปัญญาทั้งหมดแต่ละคำเป็นปัญญาทั้งนั้น อาจารย์พระคลอดในที่นี้นะคะ จะหมายถึง คอร์ดไผ่ยังไงคะอาจารย์ ก็สิ่งที่ไม่เป็น นำมาซึ่งทุกข์แล้วก็จะหมายถึงรายละเอียดของคำนับที่เป็นโทษเป็นภัย ขอบคุณด้วยแบบความไม่รู้ค่ะก็เป็นโทษ ก็ไม่มี ทุกอย่างที่เป็นอกุศลเป็นโทษทั้งหมดเป็นภัย เชิญอาจารย์ธีรพันธ์ ยังอยู่กันได้นะครับ แน่นอนครับที่อยู่เนี่ยเพราะว่าอ่ะ ถ้าไม่มีการฟังพม่าไงก็ จะอยู่อย่างไร ยูครึ่ง ที่จะรู้ความจริง หรือว่าอยู่เพื่อที่จะไม่รู้ความคิด แล้วก็อยู่ไปอย่างนั้น แล้วก็อยู่ๆ ก็ต้องอยู่ เพราะว่ายังไม่ตายก็อยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของประเทศ จะไปก็เป็นไปตามสภาพธรรมแล้วก็อยู่กันมาแล้วนะครับ ในทางสารวัตรจะอยู่ด้วยการเกิดเป็นทุกข์ต่างๆ แม้ในชาตินี้ก็เป็นการอยู่ ครั้งหนึ่ง ลดระยะเวลา อาจารย์ทุกคนแล้วก็จะลาจากโลกนี้ไปแล้วก็จะอยู่อีกต่อไปแต่การอยู่ที่โดยเสริม คือการได้ยินได้ฟังว่าธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นการอยู่ที่เป็นไปเพื่อความรู้ความเข้าใจสิ่งที่ยังไม่เคยดีในความ จะเป็นการอยู่ยาวประเสริฐ เป็นการอยู่ยาวที่ไม่ไร้ค่านะครับ เพราะว่าเป็นไปเพื่อความงอกงามจะเดินขึ้นของความดีงามทั้งหลายเป็นไปเพื่อความรู้จริงเห็นจริงค่อยๆ รู้ขึ้นค่อยๆ อบรมขึ้น ก็ในสังสารวัฎคงไม่ได้เป็นการอยู่อย่างนี้ตลอดไปใช่ไหมครับบางชาติอาจจะเคยอยู่ในป่าของพญาเสือโคร่งพญาราชสีห์ก็ได้ หรือว่าจะอยู่ในวิมานต่างๆ แต่อย่างไรก็ต้องกลับมาเป็นอย่าง ขณะนี้ต่อไปจะเป็นการอยู่ที่ประเสริฐไม่ประเสริฐเกาะอยู่ที่ความไม่ประมาทนะครับ ในพระธรรมที่ได้ยินได้ฟังแต่ละคำแต่ละครั้งที่ได้ฟังเป็นไปเพื่อ มนุษย์ยิ่งเห็นจริงเพราะว่าสิ่งที่ควรคู่จิ้นก็คือสิ่งที่ได้ยินได้ฟังในขณะนี้เองเป็นไปเพื่อการรู้ความจริงที่ไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อนในสังสารวัฎด้วย ท่านอาจารย์ครับที่ท่านอาจารย์ให้ความเข้าใจว่าเห็นเพื่อลืม ในยุคนี้ก็คือว่าทั้งหมดไม่เหลือเลยไม่ว่าเห็นก็ตามธรรมที่เกิดกับเห็น หรือว่าสิ่งที่ปรากฏทางตาไม่มีอะไรเลย แต่เราก็ยังเหมือนกับว่ายังมีความติดข้องมีความผูกพันก็เลยเหมือนกับที่ถ้าจะกล่าวว่า ทรงย้ำว่ามี แล้วเวลานี้คุณวิไลกำลังติดของอะไร เยอะคะเลย สอบไว้เยอะแยะแต่เรื่องราวcคาดว่าติดของอะไรจริงสิ่งที่ปรากฏทางตาสวยงามก็ชอบค่ะเ๔ยงภัยแล้วเห็นแล้วล่ะ เสร็จแล้ว และติดคลองไปแล้ว เพราะฉะนั้นถามถึงที่เห็นแล้วติดข้องมาแล้วเห็นอะไรติดของอะไร ก็ไม่เหลือเลยมากมายจำไม่ได้ก็คือลืม เพราะฉะนั้นจริงๆ แล้วก็คือว่าแม้แต่สภาพจังซึ่งเป็นเจตสิกที่เกิดจากนะคะ บังคับไม่ให้จำก็ไม่ได้ต้องเกิดแล้วก็จำก็ดับไปพร้อมกับจิตทุกขณะ เพราะฉะนั้นสภาพธรรมที่ตึกถึงคิดถึงนะคะ สิ่งที่จำไว้แล้วไม่ใช่สภาพที่จำนะคะ สภาพที่จะมีหน้าที่อย่างเดียวคือจะจำเวลานี้ก็จำจำโหมดเลยนะคะ ที่จำ และดับไปก็จำอีกดับไปจำอีกแบบไปแต่ว่าจัดเรต หรือนึกถึงสิ่งใดที่ได้จาก มันก็ไม่ใช่สภาพของสภาพจำที่คิดนะคะ แต่ต้องสภาพเจตสิกอีกชนิดหนึ่งคือวิตรรก๗

    อ.กุลวิไล โดยสภาพธรรมก็เป็นจริงนะคะ เพราะว่าชีวิตดำรงชั่วขณะจิตเดียวดังนั้นแต่สัญญาเจตสิต หรือธรรมที่เกิดกับจิตขณะนั้นก็ต้องกลับไป


    ฟังธรรมจากหัวข้อย่อย

    หมายเลข 194
    25 ธ.ค. 2566

    ซีดีแนะนำ