พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 957


    ข้อความนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบแก้ไข

    ตอนที่ ๙๕๗

    ณ มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

    วันอาทิตย์ที่ ตอนที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๗


    ท่านอาจารย์ รู้ความจริงของทุกสิ่งไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไรเพื่อที่จะละการยึดถือสภาพนั้นว่าเป็นเรา

    พระคุณเจ้า ถ้าไม่รู้

    ท่านอาจารย์ ถ้าไม่รู้ก็เป็นเรา ไม่อยากมีอกุศล นายอกุศลก็เกิด แล้วก็เราก็ไม่อยากมีอนุสรณ์ไปเรื่อยเรื่อย และอกุศลก็เกิดไปเรื่อยเรื่อยเพราะไม่ใช่ความเข้าใจที่ ว่าอกุศลใดๆ หรือสิ่งใดๆ ก็ตามไม่ว่าสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เกิดสิ่งนั้นมีปัจจัยเกิดขึ้นแล้วก็ดับไปแล้วก็ไม่กลับ จนกว่าจะชินจนกว่าจะเข้าใจอย่างนี้จริงๆ ได้

    ผู้ฟัง กราบเรียนครับคือขอโอกาสคือได้ความสามารถแล้วก็สงสัยนะฮะที่บอกว่าการฟังพระธรรมเนี่ย ทำลายกิเลสนั้นไม่ได้แล้วแล้วที่เรามานั่งฟังเนี่ยฟังเพื่ออะไรล่ะถ้ามันทำลายกิจกรรม คนนี้อ่านฟังแล้วกิเลสหมดหรือยัง เต็มหมดแล้วยังไม่ก็คือคำกราบฉัน ก็คิดเพื่อนโหมดแต่ก็มีความตั้งใจที่จะให้มันโหมด เพราะฉะนั้นถ้าเข้าใจขึ้นถึงระดับที่จะดับกิเลสได้นั้นกิเลสจึงแบบจ่ายด้วยปัญญาระดับไหน ถ้าแบบกิเลสไม่ได้เลยจะไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่วันนี้มันก็ยังทำอะไรกันเปลี่ยนไม่ได้นะครับ เดี๋ยวนี้ค่ะกิเลสอยู่ในกิเลสเดี๋ยวนี้อยู่ใน ไม่ทราบไม่ทราบว่าจะทำรายได้ยังไง ก็ไม่ได้ก็ไม่ได้ งั้นอาจารย์กำลังจะบอกว่าการปรับจะทำให้เราเข้าใจ และทราบเข้าใจขึ้นเข้าใจขึ้นเข้าใจขึ้นไม่ว่าจะขณะที่เห็นได้ยินก็สามารถที่จะเริ่มเข้าใจลักษณะที่มีจริงๆ ไม่ใช่เพียงเรื่องราวพูดคำว่าเห็น ถามคุณนิรันดร์ว่าเหตุใดจริงไหมคุณนิรันดร์แต่ว่าเอสซีจีนั่นคือเรื่องราวของเห็ดใครเห็นก็เกิดขึ้น และดับไปเกิดขึ้น และดับไปแม้ขณะที่กำลังพูดเสียดสีเห็นจริงๆ ก็เป็น อย่างนี้ดับกิเลสได้ชัดเจนเข้าใจกัน ใช่ครับไม่ได้แต่ถ้าเข้าใจมากขึ้นเริ่มคลายการยึดเจ เห็นว่าเป็น กว่าจะขายได้คิดดูค่ะสะสมความไม่รู้มันนานเท่าไหร่ สังสารวัฎนับประมาณไม่ได้แสนโปรดกับที่ไม่รู้ความจริง แล้วเพียงใดฟัง และยังไม่ประจักษ์การเกิดขึ้น และดับไปซึ่งขณะนี้นะคะ เข้าใจจากการฟังแน่นอนว่าเห็นเกิดแล้วดับ ขั้นฟังก็เข้าใจ ความจริงเป็นอย่างนี้ใช่ไหมเมื่อความจริงเป็นอย่างนี้สามารถที่จะรู้ถึงขณะที่เห็นเกิดระดับใด ก็ไม่ได้ครับไม่ได้เลยสัมมาสัมเจ้าตรัสว่าอย่างไร เหตุเกิดขึ้นในระดับไปเพราะพระองค์คิดว่าพระประจักษ์แจ้งในขณะที่เห็นเกิดระดับ ประจักษ์แจ้งแล้วสอนให้คนอื่นเข้าใจถูกจนกระจ่างแจ้งได้จึงดับกิเลสได้เป็นพระอริยะบุคคลเมื่อดับกิเลสจากการที่ค่อยๆ ฟังค่อยๆ เข้าใจค่อยๆ ละคลายความไม่รู้ และความติดข้องจนสภาพธรรมปรากฏตามความเป็นจริงอย่างที่ได้กล่าวจริง กับบุคคลใดบุคคลนั้นก็กล่าวว่าสภาพสมาร์ทเป็นจริงโรงตามที่ได้ฟังทุกข์ เราเป็นวาจาสัจจะ จริงแต่ต้องเป็นปัญญาที่ประจักษ์แจ้งนะคะ เพราะฉะนั้นปัญญาจึงมีหลายขั้นค่ะขั้นฟังรอบรู้ในสิ่งที่ฝัน มีคนบอกคุณนิรันดร์ว่าเห็นไหมเจอเพจใหม่แบบเชื่อมั่น เชื่อค่ะ เพราะฉะนั้นการฟังก็คือเพื่อให้มีความเห็นถูกมีความเข้าใจถูกทีละเล็กทีละน้อยน์เมื่อเห็นจากไม่มี และก็เกิดเหตุลักทรัพย์ดับไป เป็นคนนิรันดร์รึเปล่า๑๗ไม่ใช่ครับไม่ใช่เพราะฉันไม่ว่าอะไรก็ตามทั้งหมดนะคะ ก็เป็นลักษณะของสภาพธรรมแต่ละเด็กซึ่งมีจริง เพราะฉะนั้นถ้าเห็นว่าเป็นเราเห็นเราได้ยินเป็นเราทุกเป็นราวสุขคนเราพูดถึงดาวศุกร์ไม่ผิดผิดไม่มีความเข้าใจถูกก็รู้ว่าไม่ใช่เราก็เข้าใจ ดั่งใจเลยทั้งสิ้น ใส่จริงกิเลสที่นอนใหม่เนื่องอยู่ในจิตมานานแสนนานนะคะ ต้องอาศัยปัญญาที่ฟังแล้วเข้าใจ และก็ปัญญาก็ค่อยๆ เจริญขึ้น จากปริยสิเจ๋งไปติดตัดสินใจปกติ ต์ประจักษ์แจ้งไม่รู้ว่าผมต้องนานเท่าไหร่ท่านอาจารย์ครับ รักความหวังไม่ต้องไปวัด ก็เดี๋ยวนี้คะปัญญาของพระอรหันตสัมมาสัมเจ้าแค ปัญญาของคนที่กำลังฟังแค่ไหน สุด แสนไกลสุดเอื้อมน้ำกับฟ้าก็ยังจะใกล้ฟ้าไม่มีที่สุดนะคะ เพราะฉะนั้นปัญญาของพระอรหันต์จะสัมมาสัมจะต่างกับคนซื้อเป็นสาวกผู้ฟัง และก็เพิ่งเริ่มฟังด้วย ถ้าเป็นผู้ที่สะสมมามาฟังแล้วเข้าใจยากในสมัยผู้จัดการก็ฟังแล้วก็มีผู้ที่รู้แจ้งเรียสถานเป็นจำนวนมากเพราะปัญญา ถ้าไม่มีความเห็นถูกมีความเข้าใจถูกสะสม ก็จะได้ความไม่รู้ และความติดข้องเกิดขึ้นปิดบัตรแม้ในขณะนี้นี้ไม่สามารถจะรู้ได้ก็เพราะเห็นว่ายังมีการติดของยึดเสด้วยความเป็นเรานานแสนนาน จนกว่าจะได้ฟังประกาศแล้วก็ค่อยๆ เข้าใจขึ้นเมื่อเป็นอย่างนี้ก็จะไม่ไปทำอะไรที่คิดว่าทำแล้วจะสามารถเป็นพระอริยะบุคคลดับกิเลสได้เพราะว่าเป็นเด็กนั้นไม่ได้ก็เห็นว่าความเข้าใจไม่มีพอที่จะรู้ว่าเดี๋ยวนี้จนขับมา ได้บุญแบบนี้ก็เสร็จทุกอย่างที่เป็นชีวิตประจำวันนะคะ แสดงความเป็นอนัตตาว่าไม่มีใครไปบังคับบัญชาได้ ต่างกัน เห็นแววเดียวกันคิดต่างกันเข้าใจจาก ทุกอย่างเลยค่ะที่๑๐หนึ่งขนาดเกิดระดับใบพัดเป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อไป ขนาดหนึ่งไปอีกนัดนึงสะสมกว่าเข้าใจเซตต่อไปที่ระลึก จนกว่า๓เข้าใจกันจัดมากพอที่จะเข้าใจถูกต้อง โดยความเป็น โดยฝาก ต่างมั่นคงจริงๆ ว่าทำไมเป็นหลาย๑๐หรอกเพราะเจ็บ ชั้นอยากได้สติ ฝากทั้งจากอีกรอบรู้ บอกเป็นสิ่งที่บอกปัญญาสามารถจะรู้ได้เพื่อเห็นว่าสิ่งที่แบบไปแล้วหมดแล้วค่ะสิ่งที่ยังไม่มาถึงยังไม่เคยจะเป็นรู้สึก สิ่งที่เธอเจ็บขนาดนี้ มีปัญญาจากการฟันจะค่อยๆ ไม่เข้าใจจนจริงปฏิบัติ จริงเฉพาะนักศึกษาพ้นสภาพมากเพียงไร ตามความ๑๐ สภาพธรรมนั้นปรากฏเป็นธรรมเด็กจะเป็นเราดู เพราะฉันก็ค่อยๆ แปลกฝันเพราะจนกว่าปัญญาขาดต่อไปจะเป็น ก็จะได้ให้ความเข้าใจว่าจุดเริ่มต้นเนี่ยคือการฟังเพื่อให้ค่อยๆ เข้าใจความมั่นคงไม่เป็น เป็นสัดอยากเมื่อไหร่ก็เป็นปัจจัยให้สติสัมปชัญญะเกิดโดยความเป็นอนัตตาไม่ใช่วันนี้เช้าระลึก ใครจะเล่นแล้วแบบเดียวกันอ่ะแบบไม่ใช้สติเลยถ้าสติเกิดมันก็เหมือนเดียวเนี่ยเสียงปรากฏไม่ได้มีใครเป็น แจกฟรีบัตรใจที่สติสัมปชัญญะจะเกิดสติสัมปชัญญะก็เกิดไม่มีใครไปตาม แซนดี้ปัจจัยคือความเข้าใจที่มั่นคง ว่าปัญญาที่จะรู้ความคิดเป้าในขณะที่ดีเซร่ากฎความเป็น ความตื่นเต้นมากไม่ใช้เป็น กับอาจารย์ครับงั้นถ้าขนาดนี้ คิดแต่ว่าจะทำรายเกษียณจัดทำกิเลสหมดไปเนี่ยอันนี้จะเป็นประโยชน์เลยครับ ใครคิด นะครับ แม่จะไปทำลายกิเลสอะไร เราต้องอีกแล้ว คิดถึงแทก็ยังเป็นเราคิด คิดเกิดระดับไปก็ไม่รู้แล้วจะไปทำลายกิเลส ด้วยความไม่รู้ มันเป็นเราความไม่รู้ก็ทำลายกิเลสไม่ได้งั้นก็ได้แต่ฟังเพื่อให้เข้าใจความจริงสาวกผู้ฟัง จะเปลี่ยนไม่เปลี่ยนเป็นผู้ไม่สั่น แล้วก็ต้องเป็นผู้ที่ฉัตรกล่าวว่าต้องอดทนที่จะฟังแล้วก็ใจเกลียดที่จะไม่หวังผลแล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจอะไรอย่างนั้นไปอย่างงั้นนะฮะขอบคุณมาก อาจารย์ครับเหตุปัจจัยที่จะทำให้ศึกษาไม่ผิดหรือว่าศึกษาถูกเนี่ย เข้าใจว่าไม่มีเรา และไม่ใช่ครับ แทนที่จะพยายามไปจากบทนะคะ ผู้แบกภาระเป็นใครอะไรต่างๆ เป็นเรื่อง แต่ว่าขณะนี้ก็ยังคงเป็นเราที่กำลังฟัง และพยายามที่จะเข้าใจคำต่างๆ แต่เรารู้ได้ค่ะฟังเพื่อเข้าใจความจริงสิ่งที่ดีจริงๆ ไม่ว่าจะกราบเลยคำว่าภาระหรือแบกอาระอะไรก็ตามแต่นะคะ ก็หมายความว่าขณะนี้มีสิ่งที่มีจริงซึ่งไม่รู้ความจริงของสิ่งนั้น จึงยังคงเป็นเราเทียบฝั่ง และก็เป็นเราที่คิด เพราะฉะนั้นประโยชน์จริงๆ นะคะ ก็คือเข้าใจว่าเป็นธรรม แบบพิสูจน์ถ้าไม่พูดถึงสุดเมื่อวานนี้สูตรวันก่อนไว้ ก็จับไม่ได้ก็จะไม่ได้ล่าสุดได้จะจำไปอีกนานเท่าไหร่ก็ไม่นานก็ไม่นานแล้วประโยชน์อีก ก็ต้องเข้าใจว่าทุกอย่างกล่าวถึงทำมาใหม่ขณะที่กำลังฟังนะคะ ถ้าได้สะสมมาแล้วนะคะ มีปัจจัยที่สติสัมปชัญญะจะเกิดเป็นปกติคิดถึง สามารถที่จะเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมมาโลความต่างของขณะที่หลงลืมสติกับขณะที่สติเกิด เพราะฉะนั้นที่กล่าวว่านะคะ ฟังแล้วก็มีความเข้าใจซึ่งเป็นปัญญาที่เข้าใจขึ้นเข้าใจขึ้นก็คือในขณะนี้เองสามารถที่จะ คาดอกหักความอบอุ่นโดยการเข้าใจถูกในลักษณะของสิ่งที่ปรากฏ หรือในสภาพธรรมเช่นเพศรู้สภาพธรรมเชลซีสู้ อย่าต้องออกไปกลับไปจนกว่าจะแจ้งตามวิปัสสนาญาณนะแต่ ขณะที่ในฝันไม่มีราวสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเรื่องของสภาพชาวบ้านนะคะ เราไม่คิดถึง ซึ่งไม่เป็นไม่ทำให้เกิดปัญญาฝากที่ถูกในส่วนที่ เพราะฉะนั้นไม่ว่าพระสูตรนั้นจะเป็น เรื่องของใครก็ตาม ต์นั้นก็เห็นโพสต์ของเราค่ะไม่รู้ว่าตราบใดที่ปัญญายังไม่รู้ความจริงของสภาพธรรมก็ยังคงส่องมีโลกอ่ะ เมื่อเข้าใจอย่างนี้นะค่ะจะไปยุ่งยากอะไรกับอะไรล่ะนอกจากค่อยเข้าใจในสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏนะ ไม่คำนึงถึงเรื่องราวต่างๆ ด้วย ขณะที่ฝั่งทำให้เห็นความละเอียดเห็นความลึกซึ้งแวะแยกที่จะขัดเกลา อาจารย์ครับที่ตั้งต้นว่าเป็นธรรม และเป็นอนัตตา ทันทีที่ลืมตรงนี้ก็แน่นอน และไม่มีทางที่จะนำไปสู่ความ ๖ว่าสามารถให้ปัญญาเจริญขึ้น ก็ไม่ใช่สัจจะญาติไม่มั่นคงที่จะรู้ว่าธรรม ถ้าไม่รู้ก็ละไม่ได้ เพราะฉะนั้นจะไปล่ะโดยไม่รู้ไม่มีทางเป็น เพราะฉะนั้นการศึกษาที่เริ่มต้นด้วยความเห็นถูกเข้าใจถูกที่การย้ำเนี่ยก็ต้องเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งอ่ะเพื่อแสดงมาฟังธรรมทำไม ที่เคยทำสิ มาฟังธรรมธรรม ก็ฟังเพื่อเข้าใจความจริง และไม่ลืมว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา พระรู้ว่าธรรมมีจริงก็รู้ยาก ถ้าไม่มีการฟังจะรู้ด้วยต้องฟังมากกว่าจะค่อยๆ เห็นจริงนะคะ ว่าไม่ใช่เราเป็นธรรมไม่เช่นนั้นไม่ทรงแสดงพระธรรมถึง๔๕พรรษาโดยประกาศ จรัมพร อาจารย์เคยมั่นใจธรรมภาพในขณะที่แฮนหมดความสงสัยในขณะที่แห่งนั้นหรือยังในขณะที่ใจเย็นๆ น่าโหมดความสงสัยในขณะที่ได้ยินหรือยังหมายความไปไหม หมายความว่าได้ยินไม่ใช่เราไม่ใช่ใครแต่เป็นศาสตร์ที่สามารถเกิดขึ้นได้อยู่เท่า ในขณะนี้ที่เสียงปรากฏต้องมีสภาพได้ยินใครก็บังคับให้ได้ยินเกิด ถ้าไม่มีโสตประสาท เพราะฉะนั้นดีธาตุรู้ซึ่งต้องอาศัยโสตะ คือหู ที่มีสิ่งที่กระทบหูเป็นปัจจัยพร้อมกันกับที่จะทำให้จิตได้ยินเกิดขึ้นในยุคเซน ได้ยินขนาดนั้นจึงเกิดได้ ไม่มีใครไปบรรดาได้เลยฟังให้เข้าใจความจริงต์ ต์ปัจจัยหลายอย่าง ไม่มีเรา เราไปทำให้ได้ยินไม่ได้ไม่ได้ยินเกิดระดับไปก็ไม่ใช่เราก็เป็นขาดหรือธรรมอย่างเด็ดซึ่งเป็นคารถหรู หนูว่าสีที่ปรากฏมีลักษณะอย่างนี้เป็นอย่างนี้ไม่เป็น เป็นธาตุชนิดเด็กเท่านั้น ซึ่งอาศัยการกระทบกันของโสตประสาทกับเสียง และก็ต้องมีกรรมเป็นปัจจัยที่จะทำให้แพทนี่เกิดขึ้นได้ยิน และก็ดับ ไม่มีเราไม่มีคนไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดในทั้งเสียง และนายได้ยินด้วย ฟังเสียงแล้วเสียงเสียงดิฉันก็เชื่อว่ายังสงสัยอยู่ยิ่งสงสัยเพราะว่าเสียงก็มีได้ยินก็มีแล้วเสียง เหมือนกับว่าทุกคนรู้จักเสียง เกษมปรากฏ และก็ได้ยินกับเหตุในขณะนี้พร้อมกันหรือเปล่า ไม่ต้องรู้ได้ยังไงก็ไม่พร้อมใครรู้ว่าไม่พร้อม ขนาดไหนเห็นขนาดไหนได้ยิน ไม่ได้ยินขณะที่ได้ยินสิทธิ์ก็ไม่เห็นเดี๋ยวนี้ที่กำลังปรากฏให้คุณเจ้าเลยตาแล้วก็เห็น และก็มีเสียงปรากฏด้วยใช่รึเปล่า ใช่แต่มันต่างก็แสดง๗กล่าวว่ารู้จักเสียงตามความเป็นจริงหรือเปล่าเข้าใจได้ยินตามความเป็นจริงหรือเปล่า เราว่าขณะนี้มีทั้งเห็นมีทั้งได้ยินมีทั้งเสียงมีทั้งสิ่งที่ปรากฏให้เห็น ร่วมเสร็จแล้วจะขาดจะกล่าวว่ารู้จักแต่ละหนึ่งจริงๆ หรือ ย๊ากยาก ครั้งแรกรู้แล้วจะถ้าสติกัดในขณะที่ไม่ต้องพูดเลยภาคสติเกิดไม่ได้ถ้าไม่มีความเข้าใจ อยู่ดีๆ สติจะเกิดโดยไม่เข้าใจเป็นไปไม่ได้เลย ไม่เข้าใจธรรมดาธรรมดานิดนิดหน่อยหน่อยก็ไม่เป็นปัจจัยให้สติสัมปชัญญะ โดยความเป็นธรรมนัสงานด้วย ยิ่งเข้าใจยิ่งเห็น ต์รู้สึกฟังมากแล้วนะตอนที่๔แล้วดันมาก็ฟังแล้วฟังประมาณหนึ่งชั่วโมงแล้วไปอาบน้ำแล้วไปเป็นบาทออกจากพันธบัตรมาก็ฉันเรียบร้อยแล้วฟังอีก คุณแจ๋วฝันมาก เวลาหลายชั่วโมงสรุปแล้วพระคุณเจ้าเข้าใจว่าทุกสิ่งเป็นธรรมหรือเปล่า ไม่เลยไม่เลยเพราะฉันสั่งมากแต่ทุกคำเนี่ยกล่าวถึงสิ่งที่มีจริง ซึ่งไม่มีใครสามารถบังคับได้ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะฟังต่อนายน้อยหรือมากต้องมีความเข้าใจที่ถูกต้องในคำที่กล่าวถึงสิ่งที่มีจริงตามความเป็นจริงของสิ่งนั้น เช่นพูดสิ่งเห็นก็กล่าวถึงเห็นที่มีจริงๆ ที่เห็นเกิดขึ้นเห็นแล้วก็ดับไป เพราะฉะนั้นไม่ใช่ราวเป็นสิ่งที่มีจริงซึ่งเป็นอนัตตาไม่ว่าจะฟังเมื่อไหร่มากน้อยเท่าไรก็เพื่อให้เข้าใจทุกอย่างที่มีจริงในชีวิตจะคิดเกิดขึ้นบังคับบัญชาไม่ได้ จะให้คิดเรื่องนั้นก็ไม่ได้จะไม่ให้คิดเรื่องนี้ก็ไม่ได้คิดเกิดแล้วตามเหตุตามปรัชญาก็ใช่เมื่อฟังธรรมมากก็มีความเข้าใจในความเป็นอนัตตาไม่ใช่เรามาก ไม่ใช่หมายความว่าฟังแล้ว ไม่สามารถอยู่จะเข้าใจในความเป็นพนักงานทำความจริงๆ ก็เข้าใจแต่ละคำด้วยจะมี ขออนุญาตกราบเรียนถามอาจารย์ธิดารัตน์นะครับ ว่าในการศึกษาปฏิบัติ โฆษกก็คือเพื่อเข้าใจในความเป็นจริงของสมาธิไม่ใช่ตัวตนนะครับ ซึ่งเมื่อกล่าวถึงธรรมนี้ก็มีมากมายทุกอย่างเป็นธรรมบ่อยครั้งเวลาสนทนาก็จะมีคำกล่าวว่าทุกอย่างเป็นอำนาจนั่นก็คือมากไปแล้วอะไรล่ะที่เป็นธรรมที่มีจริงในขณะนี้ที่ ไม่ใช่ตัวตนสัตว์บุคคลที่ควรจะศึกษาให้เข้าใจ เข้าใจว่าเนี้ยบสภาพกลับบ้านแต่ละอย่างหรืออย่างนะคะ เพราะว่าจิตนี้เกิดขึ้นทุกขณะด้วยนะคะ ที่เรายังไม่ตายนะคะ มีจิตเกิดขึ้น แล้วขณะทำกิจการเป็นใหญ่เป็นประธานในสภาพรวมทั้งเข้าใจสภาพธรรมขณะนี้นะครับ ว่ามีสภาพรู้ซึ่งเป็นใหญ่ซึ่งเป็นจิตนะคะ เราก็มีสิ่งที่ถูกรู้ซึ่งเป็นรูปนะคะ ๗ลูกในชีวิตประจำวันเป็นรูปหยาบนะคะ เป็นรูปที่ควรพิจารณาด้วย สามารถจะเข้าใจได้ การที่จะมีความเจริญขึ้นของความเข้าใจต้องอาศัยการคลังในขณะที่ฝั่งนั้นก็ต้องเป็นผู้ที่เลือกเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์ และก็ละทิ้งสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ น่าจะครับสองข้อความที่กล่าวถึงนี้จะเป็นประโยชน์เพื่อคุณอย่างไรในการศึกษาพระธรรมว่าฟังแล้วถือเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์ และก็ละทิ้งสิ่งไม่เป็นประโยชน์ ศิริศักดิ์ เข้าใจสิ่งที่ได้ยินได้ฟังถกเขมรประโยชน์ชีวิตค่ะมีประโยชน์อาสวะคืออะไร ไม่รู้ก็ฟังให้เข้าใจ โมฆะคืออะไรทุกคำมีประโยชน์ค่ะฟังเพื่อเข้าใจ นะครับ ถ้าพูดถึงในวันเป็นจริงของ ลูกค้ากับอาสวะก็คือเป็นธรรมชาติได้ดีที่เป็นอกุศลธรรม เดี๋ยวนี้มีอ่ะสวัสดิ์ ถามแล้วบอกว่าสิ นะคะ เพราะรู้ว่าอาสาวดีอะไรบ้างถ้าถามต่อมีอาสวะ ก็ได้ใช่ไหมคะแล้วแต่จะตอบว่ากามาสวะซีรีส์แน่เลยเพราะว่าเหตุเมื่อไรสิ่งที่เห็นคือลูกสิ่งที่ได้ยินคือเสียงสิ่งที่เป็นกลิ่นก็คือสาบาน เพราะฉะนั้นก้ามาซาวะก็ เ๔ยโป้จากผ้าจึงรู้ว่ามี แม่เดี๋ยวนี้ก็นี้ถึงฟังแล้วเข้าใจว่ามีไม่ใช่ฟังแล้วอาสวะมี๔ชื่อเสียแต่ว่าเดี๋ยวนี้เองนะคะ ก็มีอาสวะแล้วเป็นโอกาสอย่างไร มากขึ้นมากขึ้นมากขึ้น และได้ยินว่านะคะ ปัญญาฟังเชื่ออบรมความเห็นถูกความเข้าใจ แคร์ขนาดนั้นเว้นอกุศลทั้งนั้นเลยอาสวะก็มากทุกอย่างก็มากอ่ะ อกุศลทุกชนิดมีรอบแบบวิชานาความไม่รู้ ต์กว่าจะรู้ เพลงเดียวนี่คะบอกว่ามีสิ่งที่ปรากฏให้เห็นได้ ฟังให้เข้าใจคำที่ได้ยิน มีสิ่งที่ปรากฏจริงๆ เห็นได้จริงๆ กำลังปรากฏให้เห็นได้จริงๆ กว่าจะรู้ว่าสิ่งที่ปรากฏให้เห็นได้ไม่ใช่อะไรเลยทั้งสิ้นแต่เป็นสิ่งที่สามารถเกิดของจักขุประสาท ต์ แต่ว่าเป็นธาตุหรือธรรมมากอย่างหนึ่งซึ่งสามารถประทับตรา หน้าตาจะเป็นโรคซึมเศร้าทำให้เกิดไม่ได้แตกต่าก็เกือบแล้วเพราะจะเป็นปัจจัยนี้ก็แสดงให้เห็นว่าฝันให้เข้าใจสิ่งที่กำลังมี และกำลังฝันด้วยว่าขณะนี้อความจริงเป็นอย่างนี้คือเป็นธรรมได้ยินคำว่าเป็นธรรมชื่อเยอะแต่ว่าถ้าเราไม่กล่าวถึงธรรมแต่ละเด็กนะคะ ให้สั้นไปบอลให้เข้าใจไปบ่อยว่าแม้เพียงเห็นเป็นขนาดก็ยากที่จะเกิดได้ถ้าไม่พร้อมด้วยปัจจัยที่จะทำให้เกิดเห็นเห็นก็เกิด เพราะฉะนั้นเดี๋ยวนี้นะคะ ก็ถือว่าไม่ใช่เรา และเป็นธรรมซึ่งเกิดเพราะมีปัจจัยแต่ว่าเกิดแล้วดับไปเร็วมาก ยังไม่ทันจะรู้ยังไม่ทันจะเข้าใจนะคะ ก็ดับแล้ว เพราะฉะนั้นขนาดนี้ก็มีอีกนี่อีกอยู่เรื่อยๆ ตามเพจตามปัจจัยเห็น๒๕๐๐กว่าปีก็เกิดขึ้นเคสหนักสด้าเห็นขนาดนี้นะคะ ค่ะนะต่อไปก็เป็นแบบนี้แหละ เพราะฉะนั้นเมื่อสิ่งนี้มีเรื่อยๆ เพราะเหตุปัจจัย และสามารถที่จะฟังเข้าใจสิ่งที่กำลังฟัง จนกว่าจะมั่นคงว่าขณะนี้ค่ะ ความติดข้องในสิ่งถูกดันกฏให้เห็นไม่ใช่ขนาดsเห็นไหมคะค่อยๆ เข้าใจไปเรื่อยๆ ว่าแม่เห็นก็เป็นเพียงแค่เห็นแล้วก็ดับเพราะใช้เพียงแค่เห็นระดับ และการสะสมความไม่รู้ และความติดข้องมีมากจนกระทั่งวันเพ็ญ และดับแต่จิตที่เกิดต่อ ก็พอใจในสิ่งที่เห็นเช่นขนาดนั้นสิ่งที่ปรากฏทางตายังไม่ดับแต่เห็นแบบแล้ว นี้จะได้เห็นความต่างกันของสภาพธรรมว่าสิ่งที่เป็นรูปธรรมแบบช้ากว่าจิต และเจตสิกจิต และเจตสิกโดยการเกิดพร้อมกันดับพร้อมกันนะคะ แล้วจะรู้ว่าดับเร็วเพราะเห็นว่าเกิดทำกิจของตนแล้วแบบ กระแสแสดงความหลากหลายว่าช่วงขณะจิตที่เกิดขึ้นเหตุสั้นแค่ไหน ไม่ใช่สิ่งที่ปรากฏว่ามีอยู่ตลอดเวลาแม้ว่ากรุ๊ปซึ่งมีอายุมากกว่ายาวกว่าชิ้นก็ถือว่า๗เกิดแล้วดับไปนะคะ ๑๗ครั้งหรือ๑๗ขนาดรูปรูปเด็ก ฟังทำไมฟันให้เห็นว่าไม่มีสาระใช่ไหมคะฟังเฉยๆ ก็เออเจ๋งนะคะ จิตเกิดแบบเร็วเหมือนมายากลสิ่งที่ปรากฏทางต่างก็เกิดดับเร็วจนร่วงให้เห็นเป็นนิจจะรูปร่างสัตว์ฐานต่างๆ ก็แต่ว่าทางฝั่งที่เข้าใจสิ่งที่กำลังฝากไว้เดี๋ยวนี้ขณะนี้ และก็จะเป็นเราก็ไม่ได้เป็นอะไรก็ไม่ได้เพราะเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีจริงเป็นทาสซึ่งเกิดขึ้นทำกิจนั้นแล้วก็ดั แล้วก็ไม่กลับ มันจนกว่าจะมีความมั่นคงนะคะ ว่านี่คือสังสารวัฎถ้าไม่มีสภาพธรรมที่เกิดขึ้นแต่ และเด่นขนาดสังสารวัฎก็ไม่ดี


    ฟังธรรมจากหัวข้อย่อย

    หมายเลข 194
    12 ม.ค. 2567

    ซีดีแนะนำ