พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 898


    ข้อความนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบแก้ไข

    ตอนที่ ๘๙๘

    ที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

    วันอาทิตย์ที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๗


    เนื่องจากครับอภิธรรมลึกซึ้งโดนสภาวะอย่างไร และจะค่อยๆ เข้าใจในความลึกซึ้งนั้นได้อย่างไร ไม่ใช่ตามส่วนหนังสือ แตกต่างความเป็นจริง และความเป็นจริงก็คือขณะนี้เดี๋ยวนี้ค่ะเมื่อวานนี้โหมดแล้วเมื่อกี้นี้หมดแล้ว และสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นก็ยังไม่มาถึง เพราะฉะนั้นลึกซึ้งนะคะ ไม่ใช่ตามตัวหนังสือแต่ตามความเป็นจริงของสิ่งที่กำลังมีในขณะนี้ใครรู้ความจริงของสิ่งที่กำลังมีในขณะนี้บ้าง เห็นทุกวัน คิดทุกวัน ได้ยินทุกวันรู้ความจริงของอะไรคะแต่ละหนึ่งขณะซึ่งเป็นแต่ละหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้น และก็ดับไปอย่างรวดเร็วมากนะคะ ไม่มีใครสามารถที่จะรู้ความลึกซึ้งของสิ่งที่กำลังมีในขณะนี้ได้เลยท่าพระร้านก็สัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ทรงตรัสรู้ และไม่ทรงแสดง นี่คือความลึกซึ้งอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นเมื่อรู้ว่านะคะ ไม่สามารถที่จะรู้ได้ด้วยตนเองเกิดมาก็ไม่รู้ มาแล้วรู้บ้าง จีบมาแล้วก็ไม่รู้แล้วก็ไม่รู้มาเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ตัด ไม่ได้ฟังพระธรรมนะคะ ก็รู้ว่าศึกษาธรรมะจึงถือว่าเดี๋ยวนี้ในทางมีสิ่งที่มีจริงแน่นอนสภาวะสิ่งนั้นมีจริงจริงกำลังแปล แต่ไม่รู้นะคะ สัก แม้แต่คำว่าอนัตตาทรงแสดงไว้ว่าสิ่งที่มีจริงนะคะ ไม่ใช่ของใครไม่ใช่ใครแล้วก็ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร เพราะฉะนั้นการศึกษาธรรมะไม่ว่าจะฟังมาแล้วนานเท่าไหร่นะคะ ชาติก่อนคือครั้งหรือเปล่า ก็แสดงให้เห็นอยู่แล้วว่าสิ่งที่ผ่านไปแล้วเนี่ยไม่สามารถจะรู้ได้แต่ขณะที่กำลังฟัง และกำลัง สามารถเข้าใจสิ่งที่กำลังฟังก็แสดงว่าเพราะเคยได้ฟังมาก่อนเช่นคำว่าสิ่งที่มีจริง และใครจะคิดนะคะ ลึกซึ้งระดับ แจ้งสิ่งที่มีจริงในขณะนี้ที่กำลังเห็นนะคะ ก็เป็นสิ่งที่มีจริงซองยาคืออย่างนึงนะคะ เห็นมี และก็สิ่งที่ปรากฏให้เห็นมีแค่นี้ค่ะลึกซึ้งนะคะ เคยเป็นคนเคยเป็นเรื่องราวต่างๆ แต่ละอย่างนะคะ ต้องเป็นเพียงหนึ่งซึ่งมีปัจจัยเกิดขึ้น กับคณะอื่นจึงต่างกันเป็นแต่ละหนึ่งแต่ละหนึ่งแต่ละหนึ่งนะคะ จึงเกิดดับสืบต่อเร็วสุดที่จะประมาณได้จึงทำให้คนอื่นนอกจากจะสามารถสำรวจจ้าไม่สามารถจะรู้ แต่ต้องอาศัยฟังคำจริงนะคะ โดยรู้ว่าสิ่งที่ได้ฟังเนี่ยจริงหรือเปล่าเช่นบอกว่าขณะนี้มีเห็นกับสิ่งที่ปรากฏให้เห็นเท่านี้ค่ะจริง จริงแน่ๆ แล้วก็แทบไม่มีการเกิดขึ้นของเห็นจะมีเห็นไหมจริงหรือเปล่าคะก็จริง ใครแสดงสิ่งที่ขณะนี้เหมือนว่าเห็นอยู่ตลอดเวลาความจริงไม่ได้ยิน มีคลิปในค็อกซ์ซึ่งเป็นสภาวะที่ทำอยู่เนี่ยจะใช้สินะแบบเงียบฝ่าย และใครเคยสนทซ์วัฒนะจริงๆ นะคะ ก็เป็นแต่เพียงแต่ละเด้งสู้ไปจริงๆ เช่นเห็น เป็นอย่างงี้เหรอจะเกิดครับได้ยินไม่ได้แปลว่าในขณะที่เห็นมีเฉพาะสิ่งที่ปรากฏให้เห็นแถวนั้นนี้ค่ะพูดซ้ำซ้ำทุกวันเพื่อไม่ถึงนี่เป็นอะไร หึให้เข้าใจกับเป็นจริงว่ะ สองความเห็นถูกความเข้าใจถูกกว่าจะรู้พระธรรมที่ทรงแสดงว่าเป็นความจริงพวกเขา ซิ้งค์กำลังถูกเคสแย่ๆ ก็คุยสังคมต์ ฟังอย่างนี้แล้วจะว่าไหมเหล็กเส้นดรมั้ย ต์จะมีชีวิตเนอะรูปร่างสัณฐานต์ จีนที่สามารถที่จะรู้ได้ว่ามีใครบ้างเห็นชื่อเห็นรูปร่างสันนิษฐานว่าเป็นไก่ก็ยังจำชื่อในอิ ต์ จะมีต์ ไปซื้อทั้งหมดในชีวิตนี้ค่ะเออแต่เกิดจนตายเป็นธรรมดาต์ซินต์ด้วยถ้ามีความประมาทไม่ได้ซื้อด้วยฟังธรรมะไม่เท่าไรก็สามารถที่จะเข้าใจได้ และคล้ายกันนึกถึงสภาพธรรมะว่าเป็นตัวตนประจักษ์การเกิดดับได้คิดเสียเงินบ้างยังไงแต่ว่า นะฮะซื้อส้มแบบหนึ่งคือเอื๊อกครับสามารถกดรับ และสภาพเห็นก็ยังไม่รู้แค่หนึ่งทางแล้วแทงหูนะคะ จะมีได้ยินแล้วก็มีเสียงถังเส้าหยางก็เกิดแบบเร็วสุดที่จะประเมิน คือเร็วอย่างนั้น เพราะฉะนั้นก็จะเห็นได้ว่าแต่ละอย่างเนี่ยนะคะ ขณะนี้ก็ เป็นธรรมะทั้งหมดไม่ใช่ครับ แล้วก็ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาด้วยแต่มีสิ่งที่มีจริงๆ กำลังปรากฏให้ได้ฟังได้รู้ได้เข้าใจว่าความจริงเป็นอย่างนี้แล้วเมื่อไหร่สามารถที่จะละลายการที่เคยไม่รู้ และเคยยึดถือสภาพธรรมะว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด อีกนานไหมคะอีกนาน ๕มไม่ได้สะสมความคิดความเข้าใจที่ถูกต้องจะมีความสามารถรู้ความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏซึ่งเกิดแบบจริงๆ ได้ไหม เพราะเหตุว่าทุกคำที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงเป็นสีซึ่งปัญญาสามารถที่จะรู้ความจริงได้ต่อเมื่อเข้าใจตั้งแต่ขั้นต้นคือเดี๋ยวนี้สิ่งที่กำลังมีขณะนี้เช่นเห็น ไม่ใช่เราเกิดขึ้นเห็นแล้วแบบไป เมื่อไหร่จะไม่ลืม แล้วก็คิดนึกก็มีค่ะแล้วก็เกิดขึ้นตามสิ่งที่เห็น เห็นเป็นแต่เพียงรูปร่างสัณฐานต่างๆ นะคะ แต่ความจริงเร็วเกินที่จะเป็นรูปร่างไปได้ รูปหนึ่งในบรรดาเพราะเครื่องที่ใส่อยู่ตอนซือใหญ่ของอาเกะ ได้ยินกันไปเพราะเครื่องที่จะไปสอนนี้ขอให้เจ็บมีกรรม ไฟ๘ลบอสิวความมัน แต่เป็นเราต่างหากค่ะเป็นดอกไม้บานเป็นเต่าบ้างเป็น๙อี้บ้างไม่เห็นมีใครบอกว่าเป็นมหาพูดกับลูกในความจริงแล้วถ้าชื้อได้ที่มวลมหาภูติรูป พวกปืนแบบนี้นะคะ น้ำ อาโปธาตุธาตุไฟเตโจทาสแล้วก็พลาดล้มก็เป็นทาสที่เคลื่อนไหวหรือครึ่งตืดนะคะ เวลาที่รู้สึกตึงมีไหมคะมองแขนนั่นแหละค่ะขาดหรอ บางคนก็ถามว่านี่อะไร รอดีนะครับ เรียกใหม่ก็กำลังเป็นอย่างนั้นแต่ไม่รู้ตามความเป็นจริงว่านั่นไม่ใช่เราแต่เป็นสิ่งที่มีจริง เพราะฉะนั้นทั้งหมดที่มีจริงนะคะ จะเป็นอย่างนี้ ปล่อยเครื่องจะได้ดีนัก จริง โลกนี้โลกอื่นนอกมีในก็จะไม่พ้นจากสิ่งที่มีจริงซึ่งเป็นถ้าพี่ไม่รู้อะไรนะคะ ธาตุดินธาตุน้ำธาตุไฟทางออกแยกกันไม่ได้เลย กำลังฝันสิ่งที่ลึกซึ้งลึกลับ เพราะฉะนั้นลึกซึ้งทุกคำนะคะ มีภาพเปลี่ยนธาตุน้ำธาตุไฟธาตุลมไม่เห็นๆ ใช่ไหมคะใครเห็นธาตุดินธาตุน้ำธาตุไฟธาตุลงไปไม่มีค่ะไม่ว่าใคร พระอาจารย์สามารถสร้างโอกาสชนะส่ง ผู้เป็นน้ำใสๆ ล้มรึเปล่าคะ ถ้าเห็นไม่ทรงแสดงว่าเห็นไม่ได้หึแต่ว่ามีรูปนึงนะคะ ที่อยู่ที่มหาพุทธรูปทุกครั้งที่มีธาตุดินน้ำไฟลมเพราะวันนี้จะมีอีกอ๋อครับครับนั้นเป็นรูปพิเศษ๑๐ ๑๘วันที่๔ค่ะวันที่๔เดี๋ยวโดนเก็บเดือนรูปนั้นกูอยู่หัว คนที่แปลกนะครับ ปรากฏ ขอบคุณค่ะคุณในวันที่หนึ่งวันนี้วันที่๓๐ละอร์ที่หนึ่ง ออกอากาศจะนัดคุณหมอไปไหมครับ ลิปสี เพราะฉะนั้นเดี๋ยวนี้นะคะ รูปนั้นที่อยู่ที่มหาพุทธรูปนะคะ กำลังกระทบกับจักขุประสาท ลุกขึ้นสู้ อู๋ ต์ที่ได้กระทำแล้วในอดีตธรรมะพูดไม่รู้จบ อาวุธไปจึงร้างนี้ปัจจุบันจะได้ก็ ฮือ ๖๐,๐๐๐ก็ลืมเจ็บมาจากไหนอะไรทำให้เกิดโดยถ้อยคำจืดแทนต์ หมูกระเทียมนมปัดเล็กๆ ที่อยู่ในครรภ์ของมารดาจนกระทั่งมีตามีหู และมายังไงไปยังไงทุกวันนี้จนกระทั่งต้องเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยเรื่อยเปลี่ยนไม่ได้บังคับบัญชาไม่ได้เพราะมีเหตุมีปัจจัยที่จะบีบ เพราะฉะนั้นก็จะเห็นได้นะคะ ว่าถ้าสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกัดรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง และอนาคต และปัจจุบันซึ่งสามารถที่จะให้คนอื่นแนะได้เข้าใจในความไม่ใช่เราแต่เป็นสิ่งที่มีจริงใช้คำว่าธรรมะหรือใช้คำว่าทาตุคือธาตุซึ่งเปลี่ยนแปลงไม่ได้เลยนะคะ อย่างมาหาพุทธรูปก็คือแพทย์ สิ่งที่ใครเปลี่ยนแปลงไม่ได้ธาตุดินแข็ง แพตตินั่มซึมซาบก็กูค่าไฟเย็นร้อนคาดลงกระตือไว้เลยค่ะใครทำได้แต่มี แต่ว่าการได้ฟังพระธรรมเนี่ยก็จะทำให้คล้ายกันไม่รู้ และเคยยึดถือสภาพธรรมะว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดนะคะ แล้วต้องตรงเช่นขณะนี้ค่ะสิ่งที่กำลังปรากฏให้เห็นกำลังมี ฟังเรื่องนี้บ่อยๆ เพื่ออะไรคะกว่าจะรู้ความจริงว่าไม่ใช่ใครเลยเป็นไปเพียงรูปหนึ่ง ไม่แวะแพทย์เด่นธาตุน้ำธาตุไฟธาตุหลบอยุตรงไหนนะคะ จะต้องมีรูปที่สามารถกระทบต่อ แล้วก็เราวัดได้ไหมคะว่าท่าเต้นบิดปริมาณเท่าไหร่ ถ้าไม่มีสีสันวรรณะที่สามารถกระทบตาแสดงให้เห็นว่าธาตุดินตรงนั้นมีอยู่ เท่าไหร่สิ่งที่ปรากฏทางตาก็กระทบตาได้เท่านั้น ถ้าที่นั่นไม่มีธาตุเป็นธาตุน้ำธาตุไฟธาตุลมจะให้มีสิ่งที่กระท นี่คือความลึกซึ้งอย่างยิ่งของสภาพธรรมะไม่ว่าจะเป็นพาร์ทรู้ซึ่งกำลังเห็นกำลังคิดกำลังได้ยินกำลังจำนะคะ หรือว่าถ้าที่ไม่สามารถจะรู้อะไรได้เลยเช่นสิ่งที่กำลังปรากฏให้เห็น เสียงกลิ่นรสซินเป็นสิ่งที่มีในชีวิตประจำวันซึ่งพิสูจน์ได้ก็เป็นการศึกษาซึ่ง ทีมเซาธ์สำคัญก็คงจะไม่มีทางที่จะรู้ความจริงนะคะ ต้องอาศัยฟังแล้วฟังอีกแล้วเห็นประโยชน์ด้วย ว่าเกิดมานะคะ สายแน่ๆ ไม่ลืมเลยใช่ไหมคะต้องตายแต่จะตายเมื่อไหร่ ตายยังไม่รู้ความจริงยังไม่ลง สิ่งที่ปรากฏเป็นคนโน้นคนนี้เป็นเรื่องนั้นเป็นเรื่องนี้ทำให้พอใจบ้างไม่พอใจบ้างหรือสิ่งที่กำลังแปลก แม่หอบ เอาจริง อื่นๆ พระเอกแว๊กสีที่ปรากฎที ไม่มีอยู่มีที่จะเป็นของร้อนหรือยัง นี่จิตใจของพวกเปลี่ยนแปลงตามเหตุตามปัจจัยเดี๋ยวโกรธเดี๋ยวติดคอเดียวเมตตาเดียวขี้เกียจเดี๋ยวขยันทุกอย่างที่มีจริงในชีวิตประจำวันเป็นธรรมะนะคะ แต่ละหนึ่งซึ่งมีปัจจัยเกิดคาดเกิดจริงๆ จึงปรากฏว่ามีแล้วดับไปแล้วไม่กลับมา แต่เร็วสุดที่จะประมาณได้ทำให้หลงเข้าใจว่าขณะนี้ไม่มีอะไรหนักไปเลยแล้วก็ไม่มีอะไรเกิดด้วยเหมือนมีแต่ก็ไม่รู้ความจริงว่าสิ่งที่มีนี่แหละเกิดมีแล้วก็ดับ สมบัติพระมหาจักรพรรดิ แลกกับความเข้าใจได้ไหมคะ เจ้าชายสิทธัตถะยอมสละทั้งหมด เพื่อที่จะได้รู้ความจริงไม่ใช่เฉพาะพระองค์ ทรงแสดงสิ่งที่พระองค์ได้ทรงตรัสรู้ วิเคราะห์ให้คนอื่นได้เข้าใจถูกตามความเป็นจริงด้วยกว่าจะเห็นธรรมะตามความเป็นจริงตามลำดับนะคะ จนหมดละความยึดมั่นติดข้องในทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เกิดอีกเลย ยังไม่ต้องถึงอย่างนั้นก็ได้เพราะอ่านทักษิณไม่ได้อยู่แล้วค่ะเพียงแต่ว่าเกิดมาแล้วก็ได้ยินได้ฟังสิ่งซึ่ง สามารถจะทำให้เข้าใจความจริงได้นะคะ จนกระทั่งเข้าใจขึ้นเข้าใจขึ้น เพราะฉะนั้นจุดประสงค์ของการฟังเพื่อเข้าใจเท่าที่จะเข้าใจได้นะคะ แล้วก็เห็นประโยชน์จริงๆ ว่าถ้าไม่เข้าใจจะเป็นยังไงค่ะ ก็นึกๆ ไปก็แล้วกันนะคะ เกิดมาแล้วก็มากมายต่อไปก็ไม่พ้นก็ยังต้องเป็นเด็กนั้นต่อไปอีก ข้อสำคัญคือนานแสนนาน อภิธรรมลึกซึ้งโดยสภาวะแต่ถ้าคือสิ่งที่ปรากฏขณะที่มีลักษณะมีสภาพจริงๆ อยากไปรู้ อยากเป็นคนเป็นเรื่องราวต่างๆ ด้วยความรวดเร็วของสภาพธรรมะ และด้วยความไม่รู้ที่สะสมมาอย่างด้วย ก่อนเกิดแค่ก่อนก็มีระบบมากมายนับไม่ถ้วนนะคะ แล้วเกิดมาแล้วก็ยังมีโล่พระเอกเกรด ชัชชาติน่าจะเป็น ใช้จ่ายเขาก็เป็นลักษณะโคโลคะที่ยิงยิ่งมียิ่งเพิ่ม คลื่นเดลแนะนำมั้ยคะ ยังไม่ทันหรอกค่ะ ยากเลยครับก็คือว่าไม่รู้ถึง ความที่มีโรค เพราะฉะนั้นก็ขออนุโมทนาทุกท่านนะคะ ที่กุศลกรรมทำให้ได้มีโอกาสเห็นประโยชน์ของการฟัง เพราะว่า พรุ่งนี้อาจจะตายก็ได้ นานไปหรือเปล่าเครื่องนี้ กลับก็ไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไร ยากครับเมื่อวานก็สนทนาพระสุเมรุรับประกันสุข ก็แสดงลักษณะรู้มากว่าคนจำนวนมากเมื่อหญิงได้โขกสับก็ยิ่งมีความเด็กคล่องมากขึ้นมากขึ้นจนกระทั่งความติดข้องต้องการเป็นปัจจัยให้มีการประพฤติผิดซึ่งเป็นการรวมทุจริตกุศลตามต่างๆ ค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าตามคำในพระไตรปิฏกซึ่งไพเราะนะคะ คนนั้นก็คือคนทรามปัญญา หมายความว่าไม่มีปัญญา เนี่ยครับอาจารย์เมื่อวาน ก็ในพระสูตรซึ่งเห็นถึงความคิดของพระเจ้าเกษตรทิโมสสนะครับ ที่ท่านก็ปรารภกับพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วพระผู้มีพระภาคเจ้าก็ตรัสรับรองว่าถูกแล้วถูกแล้วมหาบพิตรสัตว์เหล่าใดใดโภคทรัพย์ที่ยิงแล้ว ย่อมไม่มัวเมาไม่ประมาท ไม่ติดอยู่ในกามคุณ และไม่ประพฤติผิดในสัตว์ทั้งหลายสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้นมีจำนวนน้อยในโลกแต่ตรงข้ามสัตว์เหล่าใดเมื่อยิงได้โภคทรัพย์แล้วก็มัวเมาประมาทติดในการมาคุณ และก็ประพฤติผิดในสัตว์ทั้งหลายสัตว์เหล่านั้นเนี่ยมีจำนวนมากมายในโลก และวิธีไม่ติดค่อนข้างที่จะไม่ติดดีมั้ยคะ ภาพบ้างแต่โทษแต่ไม่เบาคนเทางแล้วจะทำยังไง อาจารย์กรุณาบอกหนทาง หนทางคือปัญญาตั้งแต่ขั้นฟังจนกระทั่งถึงปฏิบัตติจนกระทั่งถึงปฏินินทาอย่าคิดนะคะ ว่าจะละหรอค่ะได้โดยไม่มีปัญญา จีนนะฮะอาจารย์เพราะว่าในตำรับที่พระองค์ท่านตรัสเป็นพระคาถาต่อไปเนี่ยก็ยิ่งชัดนะครับ สัตว์ทั้งหลายเป็นผู้กำหนัดกล้า ในโภคทรัพย์ที่น่าใครมากๆ หมกมุ่นในกามคุณย่อมไม่รู้สึกตัวว่าละเมิดย่อมไม่รู้สึกตัวคือประเภท ผิดอกุศลกรรมต่างๆ เพราะทรามปัญญา ไม่มีปัญญาจะไม่เป็นอย่างนั้นเรายังไงคะแต่เมื่อมีปัญญาก็รู้ค่ะไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาลนะคะ เพียงชั่วเห็น สำหรับคัยตาแล้วอยู่นั้นไม่รู้เลยว่าแท้ที่จริงแล้วนะคะ สิ่งที่ปรากฏเกิดแบบ และจิตก็เกิดดับด้วยไม่มีกำหนด๑๐คนแต่มีความติดข้อง สิวเจ็บมือ ให้ยังคงไม่รู้ต่อไป ถ้าจากคำว่าฟังให้เข้าใจในสิ่งที่กำลังฟัง ดูมันสั้น และง่ายแต่ในทางการที่ ผู้ที่เหมือนกับ ๓ปัญญาแล้วก็โรพระมาร์ทจะเข้าใจ ประโยคสั้นๆ ให้ทันเจ้านี่ยากนะ บางเรื่องเห็น เห็นกำลังมีค่ะ และไม่เคยรู้เลยว่าเห็นเนี่ยเราไม่สามารถที่จะทำให้เกิดได้ไม่มีใครสามารถที่จะทำให้เห็นเดี๋ยวนี้เกิดได้เลย แต่เห็นเกิดแล้วเพราะเหตุปัจจัย เพราะฉะนั้นถ้าไม่พูดถึงเห็นพูดถึงคิดพูดถึงอะไรทุกอย่างนะคะ ก็ให้ทราบว่าเกิดแล้วค่ะเพราะเหตุปัจจัยจึงจะค่อยๆ ละการยึดถือสภาพธรรมะว่าเป็นเราเพราะเหตุว่าตราบใดที่ยังยึดถือสภาพธรรมะว่าเป็นราวนะคะ มีความติดข้องในสิ่งที่เข้าใจว่าเป็นเราก็มีความติดข้องในสิ่งที่เข้าใจว่าเป็นนั่นเป็นนี่เป็น ทุกอย่างก็ไม่พ้นไปจากความติดข้อง เพราะฉะนั้นก่อนอื่นนะครับ แม้แต่คำว่าเห็นไม่ใช่เรา เห็นเป็นธาตุรู้ ไม่ให้เกิดค่าตรูไม่ได้ ไม่ให้เกิดแข็งไม่ได้ไม่ให้เกิดร้อนเย็นไม่ได้เพราะเป็นสิ่งที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยอาศัยปัจจัยเกิดขึ้นนะคะ กำลังมีให้รู้ว่าเป็นสิ่งที่มีแล้วเกิดแล้วเพราะมีเหตุปัจจัยแล้วก็ดับไปเลยค่ะเข้าใจทีละเล็กที่ละน้อยที่ละนึกไปเรื่อยเรื่อยจนกว่าจะเข้าใจยิ่งขึ้น จนกระทั่งคลายการยึดถือว่าเป็นเราหรือว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เที่ยง ฟังให้เข้าใจสิ่งที่กำลังมีในขณะนี้ มิฉะนั้นไม่มีทางที่จะรู้ยิ่งกว่านี้ค่ะ เพื่อเป็นขั้นต้นคือมีสิ่งที่กำลังมี จึงฟังแล้วฟังอีกกว่าจะไถ่ถอนความที่เคยยึดถือเห็นว่าเป็นเราเห็นเนี่ยจะแยกใส่ยากสักเท่าไหร่เพราะพูดเท่านี้ค่ะยังคงเป็นเราเห็นอยู่จนกว่าจะประจักษ์จีนจีนไหนเห็นซึ่งเกิดระดับซึ่งสามารถจะรู้ได้แต่ต้องค่อยๆ เข้าใจขึ้น เพราะฉะนั้นหมายความว่ายังที่จันทร์กนกเริ่มต้นว่า อภิธรรมลึกซึ้งโดยสภาวะเนี่ยก็หมายว่าผู้ตั้งต้นศึกษาไหนจะเข้าใจได้ก็ต้องเห็นว่าเห็นเนี่ยไม่ใช่เราเป็นทาสเมื่อมีปัจจัยก็เกิด ถ้าไม่เข้าใจเช่นนี้ก็ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถเข้าใจความเป็นธรรมะได้ ฟังแล้วเข้าใจสิ่งที่กำลังฝ่ายตาม จริงหรือเปล่า ถ้าเข้าใจถูกต้องก็คือค่อยๆ สะสมปัญญาความเห็นที่ถูกต้องทีละเล็กละน้อยจนกว่าสามารถจะประจักษ์คำที่เราฟังแล้วรู้ว่าจ เช่นเห็นด้วยจริงๆ จีนขนาดนี้แล้วเห็นก็ดับจริงๆ เพราะว่ามีสภาพธัมมะอึ และสิ่งที่ปรากฏนะคะ ก็เกิด ปัญญาสามารถที่จะรู้ว่าวาจาจริงเป็นอย่างนี้ค่ะไม่เปลี่ยนเลย และการที่จะเข้าใจได้จริงๆ ก็อาศัยกัน ซึ่งต้องเป็น ลำดับขั้นของปัญญานะคะ ปริญัตติถ้าไม่มีการฟังให้เข้าใจไม่ใช่แบบปริยาย ฟังไป๒๐ปีแต่ไม่เข้าใจเพียงคำหนึ่งสองคำ๓คำจะกี่คำก็ตามที่ได้ฟังให้เข้าใจขึ้นนะคะ ถ้าไม่เป็นเด็กนี้ก็ไม่เชื่อว่าปริยัติ เพราะฉะนั้นจะไม่เป็นปัจจัยให้เกิดสามารถเข้าใจสิ่งที่ได้ยินได้ฟังแม่เดี๋ยวนี้กำลังแต่ถ้าฟังแล้วค่อยๆ คล้ายกันยึดถือสภาพธรรมะเพราะเข้าใจขึ้นเรื่อยๆ นะคะ เมื่อไหร่ที่ขนาดนั้นนะคะ กำลังเริ่มเข้าใจสภาพเห็น กำลังเห็น ไม่เท่ากับอะไรเลย จะทำอะไร ค่ะไม่มีหนทางเลยคะนอกจากปัญญานั่นเองที่เข้าใจขึ้นทีละหน่อยว่าขณะนี้เนี่ยเห็นไม่ใช่คร่าวๆ ให้เห็นว่าเห็นเกิดแล้วก็ดับไป เราไม่มีมีแต่ธรรมะหรือถ้าทั้งหมด ยิงนี้เข้าใจได้ไหมคะ ปริยติพอหรือยังยังไม่พอพ่อแม่ ไม่สามารถเริ่มเข้าใจเห็นที่กำลังเห็น กำลังพูดเรื่องเห็นแล้วก็มีเห็นแต่กำลังคิดใช่ไหมคะ กระแสก็ไม่ใช่ขณะที่กำลังเข้าใจเห็น ละเอียดมากค่ะแล้วก็ต้องเป็นไปเพื่อการเข้าใจไม่ใช่จงใจจะรู้แต่รู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นอนัตตานะคะ แล้วตามปกติอย่างนี้ด้วยเมื่อเป็นปกติอย่างนี้ค่ะจะไปทำอะไรเกิดแล้วทั้งนั้น ทุกอย่างเกิดก่อนที่ใครจะไปคิดว่าจะทำให้เกิดได้ จะทำสติได้ จะใช้ปัญญาได้ไหม ก็ไม่ได้เมื่อมีความเข้าใจก็รู้ว่า เมื่อได้ฟังแล้วเข้าใจแล้วก็เลยฟังอีกก็เข้าใจขึ้นอีกแล้วก็ลืมอีกจนกว่าเมื่อไหร่มีปัจจัยที่จะเข้าใจลักษณะของ ตามที่ได้ฟังมานานมากนานมากนี่บอกได้ไหมคะกี่วันกี่เดือนกี่ปีกี่ชาติ

    ผู้ฟัง เพราะฉะนั้นก็คือว่าฟังจนกว่าจะเข้าใจว่าเป็นความจริงอย่าง เพราะฉะนั้นในการฟัง ไม่ใช่ฟังแล้วไปสนใจคำรู้เรื่องราว ไม่สนใจว่าขณะนี้อะไรกำลังเกิดก็ไม่สามารถเข้าใจในสิ่งที่พระจันทร์สื่อสารให้พวกเราฟัง

    ท่านอาจารย์ เรื่องราวทั้งหมดนะคะ เป็นเรื่องราวของสภาพธรรมะทั้งนั้น


    ฟังธรรมจากหัวข้อย่อย

    หมายเลข 193
    30 ม.ค. 2567

    ซีดีแนะนำ