พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 864


    ข้อความนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบแก้ไข

    ตอนที่ ๘๖๔

    ที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

    วันที่ ๑๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๖


    ท่านอาจารย์ การฟังธรรมะก็คือฟังให้เข้าใจสิ่งที่กำลัง ถ้าจะกล่าวถึงเรื่องกิจก็ได้หลายกิจแล้วนะก็ไม่ใช่เราด้วยนะคะ แต่เป็นกิจของจิต

    อ.วิชัย ดังนั้นก็พอที่จะทราบนะครับ ว่า จิตที่เกิดขึ้นนะครับ ก็มีจิตไม่ใช่เพียงจิตเดียวแต่ว่ามีถึง๑๔จุดนะครับ ซึ่งเราก็ได้สนทนาเกี่ยวกับเรื่องของปฏิสนธิหยิบ และก็พอบังคับจิตซึ่งจิตไม่ใช่เป็นจิตดวงเดียวหรือประเภทเดี่ยวนะคะ ที่เกิดขึ้น แล้วก็ทำกิจหลายอย่างเอียงจิ๊ดเดียวเพราะเห็นว่าจิตนะครับ เมื่อเกิดแล้วก็ดับทันทีเกิดเพราะมีปัจจัยปรุงแต่งมีเช่นปฏิสนธิจิตนะครับ ก็เกิดเพราะปัจจัยหนึ่งคือกรรมในอดีตที่กระทำไว้แล้วทำให้ปฏิสนธิจิตนะครับ เกิดขึ้นในภูมิต่างๆ อาจารย์ธิดารัตน์ครับถ้ากล่าวถึงจิตนะครับ ซึ่ง ภูมิภาคก็ทรงแสดงว่ามีหลายประเภทแต่ว่าจิตที่ทำกิจปฏิสนธินะครับ มีประเภทอย่างไรบ้างครับขอยกตัวอย่างขอบเขตว่าบุคคลแต่ละบุคคลก็มีการเกิด และก็มีความแตกต่างกันเกิดเป็นมนุษย์ก็มีเกิดเป็นสัตว์เดชาพัฒน์โรคต่างๆ นะครับ ด้วยจิตประเภทใดบ้างครับที่ทำกิจปฏิสนธิ

    อ.ธิดารัตน์ ถ้าพูดถึง จิกทำกิจปฏิสนธิได้นะคะ จะต้องไปจิตชาติวิบากนะคะ เพราะอาจารย์ได้กล่าวแล้วว่าปฏิสนธิเป็นผลของการ เพราะฉะนั้นนะคะ ผลของกรรมก็คือวิบัติ และวิบากจิตได้นะคะ ที่สามารถที่จะทำผิดปฏิสนธิได้จริงๆ ท่านก็แสดงไว้นะคะ โดยประเภทก็คือ๑๙ประเภทอันนี้โดยชื่อโดยจำนวนเพราะถึงแม้กับที่ เป็นมหากันะคะ ก็มี๙ประเภทนะคะ ที่จะให้ผลแต่ถ้าโดยภูมิที่มีขันธ์๕นะคะ หรือว่าปกติที่จะทำให้เกิดเป็นมนุษย์นะคะ ผู้ที่ปฏิสนธินะคะ จะต้องเป็นผลของกุศลกะใช่ไหมคะกุศลกรรมที่จะทำให้บังเกิดเป็นคนหรือว่าในสุคติภูมิยกตัวอย่างพวกเราเนี่ยนะคะ ต้องเป็นมหาวิบากรวมถึงดวงได้เพราะไม่ได้พิการ ถ้าผู้ที่มีการพิการนะคะ เช่นหูหนวกตาบอดแบบนี้เป็นต้นนะคะ ต้องพิการแต่กำเนิดด้วยอันนั้นก็ยังเป็นผลของกุศลละกรรมนะคะ แต่ก็ เพราะฉะนั้นขนาดหลังจากบริษัทที่แล้วจึงถูกเบียดเบียนได้ จิตที่มีกำลังอ่อนขนาดนี้นะคะ ที่ทำผิดปฏิสนธิก็คือ อุเบกขาสันตินะกุศลวิบาก ไม่มีเหตุใดๆ เกิดร่วมด้วยเลย และยังผู้ที่ปฏิสนธินะคะ ครบหมดนะคะ ก็จะมีสองเหตุ หรือสาเหตุก็คือ เป็นมหาวิบากนะคะ มีสองประเภทที่ประกอบด้วยปัญญากับไม่ได้ประกอบด้วย หน้าเป็นกุศลกรรมที่เราทำเนี่ยนะคะ มีกำลังมากนะคะ ประกอบด้วยความเข้าใจถูกผลก็ทำให้เบื่อสามารถที่จะทำกิจปฏิสนธิได้นะคะ ก็ปฏิสนธิเป็นมหาวิบากที่ประกอบด้วยปัญญาเรียกว่ามีปัญญามาตั้งแต่เกิดนะคะ เพราะว่าเกิดร่วมกับปฏิสนธิจิตหรือแม้เป็นกุศลที่มีกำลังเหมือนกันนะคะ แต่ไม่ประกอบด้วยปัญญา ก็เกิดเป็นมนุษย์ได้นะคะ ไหน ปูนี้นะคะ แต่ก็ ไม่ได้ประกอบด้วยปัญญามหาวิบากก็ไม่ประกอบด้วยปัญญาเพราะว่า กรรมนะคะ ที่จะเป็นปัจจัยให้ มีปฏิสนธิจิตเกิดขึ้นนะคะ ปาก กำลังของกรรมนั้นๆ จริงๆ นะคะ เป็นปัจจัยใหญ่ปัจจัยนึงเลยนะคะ กลับอาจารย์ครับเมื่อสักครู่ก็ได้ยินคำว่าวิบากครับท่านอาจารย์ก็ขอเป็นตัวแทนคนใหม่ซึ่งถ้าเป็นคนที่ได้มีโอกาสได้ฟังพระธรรมนะครับ ก็รู้ว่าจิตนะครับ ก็จะมีชาติของจิตด้วยก็คือชาติกุศลชาติอกุศลชาติวิบาก และชาติกิริยา อาจารย์ครับปฏิสนธิเนี่ยเหตุใดจึงเป็นเฉพาะชาติวิบากครับชาติอื่นทำกิจนี้ไม่ได้เลย ศึกษาธรรมะที่แหละค่ะแต่ก็เข้าใจคำนั้นชัดเจนส่วนใหญ่เราได้ยินคำว่ากรรมภาษาไทยก็ใช่เลยค่ะแต่ว่าไม่ตรง เวลาที่ใครได้รับอุบัติเหตุเนี่ยบอกว่าเป็นกรรมของเขา ใช่ไหมคะส่วนใหญ่ไม่มีคำว่าวิบากในภาษาไทยมีแต่คำเดียวพูดได้คำเดียวคือกรรมโน้นก็กรรมนี้ก็กรรมนะคะ แต่ว่าตามความเป็นจริงเลยค่ะกรรมใหม่ความถึง การกระทำที่จงใจนะคะ มีภาษาไทยเรียกว่าเจตนาแต่ภาษาบาลีจะใช้คำว่าเจตนา เป็นสภาพธรรมะที่จงใจ สิ่งที่เป็นอกุศลไม่ดีไม่งามกุศลดีงามเป็นประโยชน์แต่อกุศลก็เงินข้ามนะคะ เพราะฉะนั้นขณะใดที่ดีเอสเบลใครดีไหม เจตนาหรือเปล่าหรือจะบอกว่าไม่เจตนาค่ะ พูดเองแต่ว่าตามความเป็นจริงเจตนาเกิดกับจิตทุกขณะนี่คือการศึกษาธรรมะโดยละเอียดนะคะ แม้ว่าจะทีละคำแต่ก็สามารถที่จะเข้าใจความเกี่ยวเนื่องกันได้ว่าเจ็บจะเกิดโดยมีเจตนาเจตสิกเกิดไม่ได้เลยค่ะเพราะเห็นว่าสภาพธรรมะใดก็ตามที่จะเกิดขึ้น อาศัยปัจจาที่ทำให้สภาพต์เกิดขึ้นเลือกภาษาบาลีนี้ก็ต่างกับภาษาไทยแพทย์ใช้ เป็นเหตุที่จะให้สนับสนุนส่งเสริมอุปการะให้สภาพธรรมะได้เกิดสภาพธรรมะได้ที่เกิดเพราะปัจจัยเรียกว่าปัจจัยอยู่ปัดปัดจะยุบปั้นหน้าขอเชิญคุณคำปั่นให้คำแปลด้วยค่ะ ครับอ้อมาจากคำสองคำนะครับ คือคำว่าปัดยัดกับปลุกปั่นซึ่งเมื่อสักครู่ท่านอาจารย์ก็กล่าวถึง ปัจจัยนะครับ ก็คือในสิ่งสภาพสมาธิอุปการะเกื้อกูลให้สภาพธรรมะหนึ่งสภาพธรรมะได้เกิดขึ้นเป็นไปอันนี้คือความหมายของปัจจัยหรือว่าปัจจัยใส่วนธรรมะที่เกิดขึ้นอันเป็นผลของปัจจัยเชื่อว่าปัจจัยบัตรนะครับ กลับมาปลุกปั่นนซึ่งก็หมายถึงเกิดขึ้น เวลาแปลภาษาบาลีนะครับ เพราะแปลจะทั้งรักมาข้างหน้าบัตรจะยุบปัฏนาหรือปัจจุบันจึงหมายถึงกลับมาที่เกิดขึ้นเพราะปัจจัย เพราะฉะนั้นถ้าจะพูดถึงคนของเก่าโดยไม่พูดถึงกรรมได้ ไม่ได้นะคะ ถึงจะเป็นเรื่องยาวไปหน่อยก็ไม่เป็นรัฏฐะสามารถที่จะเข้าใจ ตอนนี้ก็มีข่าวว่าเจตนาเป็นสภาพธรรมะที่มีจริง ใครบ้างค่ะทำอะไรโดยไม่จงใจจะทำสิ่งนั้น เริ่มได้แต่ความดีความชั่วเจตนาที่จะทำทุจริต หน้าที่จะ ละเว้นทุจริตก็มีทั้งสองอย่างเป็นเจตนาที่ต่างกัน นั่นก็เป็นสิ่งที่เราเห็นจากการกระทำนะคะ แต่แม้เพียงเอื้อมมือไปหยิบแก้วมีเจตนาไหมคะจงใจตั้งใจที่จะให้มีการเคลื่อนไหวไปที่จะให้สิ่งนั้น เพราะฉะนั้นถ้าทำละเอียดมากค่ะก่อนอื่นถ้าจะศึกษาธรรมะต้องรู้ว่าธรรมะคืออะไร คือคำสอนของพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าสอนเรื่องอะไรสอนให้เข้าใจความจริงถึงที่สุดของสิ่งที่มีจริงๆ ทุกอย่าง เพราะฉะนั้นต้องเป็นคำสอนที่ลึกซึ้งมากนะคะ ไม่ใช่ว่าเราฟังเครนเพียงชื่อเพียงจำนวนแล้วก็จะเข้าใจได้แต่ว่าคนที่จองเข้าใจจริงๆ เพื่อรู้จริงๆ เพื่อละความไม่รู้จริงๆ ด้วย ด้วยเหตุนี้นะคะ ภาษาไทยใช้คำว่าเจตนาหรือจงใจเจตนา แม้จะพูดภาษามารีค่ะเจตนาจงใจที่จะกระทำ เจอแอบจิตทุกประเภท และทุกคณะเนี่ยค่ะกรี๊ดขยายออกไปอีกว่าจิตหลากหลายกันไปแล้วจิตหนึ่งเกิดแล้วดับแล้วไม่กลับมาอีกจะเป็นจิตนั้นกลับมาไม่ได้เลยแม้เจตนานะคะ เกิดกับจิตใจจิต และเจตสิกที่เกิดร่วมกันดับไปแล้วเจตนานั้นจะกลับมา เกิดอีกได้มั้ย ไม่ได้ครับไม่ได้แค่ฟังธรรมะนี้ต้องเข้าใจโดยตลอดจริงๆ ทุกคำนะคะ ไม่คิด เพราะฉะนั้นกุศลเจตนาแต่ขึ้น อกุศลเจตนาเกิดขึ้น และดับไป และที่เราใช้คำว่ากรรมก็คือเจตนาสภาพที่จงใจที่จะ ไม่คิดว่าจะมีการกระทำใดๆ โดยไม่จงใจไม่มีเลย ต้องมีเจตนาเกิดร่วมด้วยทุกครั้งนะคะ เพราะฉะนั้นอกุศล และเจตนาวันนี้มีมากไหม ลืมตาขึ้นมา กำลังหลับอยู่นะคะ นี้อ่ะกุศล และเจตนา ศึกษาธรรมะเพื่อเข้าใจค่ะไม่ใช่เพื่อเราอยากจะไปรู้อะไรเยอะๆ นะคะ แต่พอได้ยินคำว่าเจตนา และได้เข้าใจบ้างลืมตาขึ้นมาเนี่ยมีอะกุศล และเจตนา วีแน่นอน เพราะว่าไม่ว่าจิตหรือเจตสิก อ๋อเกิดเป็นหนึ่งใน๔คือเกิดเป็นกุศล เกิดเป็นอกุศลด้วยเกิดเป็นผลของกุศล และอกุศลซึ่งใช้คำว่า คำนี้คนไทยจะไม่ค่อยได้ยินแต่ถ้าได้ยินนะคะ ก็เข้าใจผิดเช่นวิบากวิ่งวิบากเหมือนกับลำบากใช่ไหมคะแต่ความจริงวิปากะหมายความถึงจิต และเจตสิกซึ่ง จำที่ได้กระทำแล้วกุศลเป็นเหตุ เพราะฉะนั้นวิปากะเป็นผลแต่เราไม่รู้ว่าผลของใครก็ต้องบอกให้เต็มอะกุสะวิปากะหรืออกุศลวิบากส่วนตัวกรรมนะคะ คือกุศลกรรมหรืออกุศลกรรมเป็นเหตุเมื่อกุศลกรรมเป็นเหตุดับไปแล้วก็เป็นปัจจัยให้กุศลวิบากซึ่งเป็นจิตที่เป็นผลเกิด จึงเก็บจะมี๑๔เก็บนะคะ ฝั่งวันนี้ไม่ครบก็ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ ขอให้เข้าใจแต่ละกิจก็แล้วกันดีกว่าว่าเราไปจำชื่อไว้ครบหมดแต่ว่าเราก็ยังไม่ได้เข้าใจความละเอียดก็ฉันก็แต่ละเก็บ และมีความเข้าใจที่ถูกต้องมั่นคงหรือยังคะว่าปฏิสนธิจิตคือจิตที่ทำปฏิสนธิกิจเท่านั้นอย่างเดียวไม่ทำกิจอื่นเลยนะคะ แมวกิจนี่ไม่ใช่เหตุคือไม่ใช่กรรม แต่ว่าเป็นผลของกรรมจึงเป็นวิบากในเมื่อกรรมมีสองอย่างนะคะ กุศลกรรม และอกุศลกรรม เพราะฉะนั้นผลของกรรมจะมีเพียงหนึ่งได้ไหม กรรมมีสองที่ต่างกันนะคะ กุศลกรรมในสิ่งอกุศลกรรมหนึ่งเพื่อใช้เวลาที่กรรมให้ผล และจะให้ผลเพียงอย่างเดียวเป็นอย่างเดียวไม่เป็นสองได้ กุศลกรรมให้ผลเป็นที่ไม่ดีได้ไหมคะ ไม่ได้ครับแล้วอกุศลกรรมเป็นเหตุจะให้ผลที่ดีเกิดขึ้นได้ไหม ไม่ได้ครับไม่ได้ เพราะฉะนั้นนะคะ เมื่อเหตุมีสองคือกุศลกรรม และอกุศลกรรมผลจะมีสองdมีเน็ต หนึ่งครับ กุศลละกรรมให้ผลเป็นอะไรคะ ก็เป็นกุศลวิบากครับกุศลวิบากอกุศลกรรมให้ผลเป็นอะไร ใครก่อนเป็นอกุศลวิบากเป็นอนุสาวรีย์บ้าพระจันทร์กุศลกรรมให้ผลเป็นอกุศลวิบากได้ ไม่ได้ค่ะ เพราะฉะนั้นเมื่อเหตุมีสองคนก็ต้องมีแ เพราะฉะนั้นการเกิด เป็นผลของกรรมดีนะคะ ทำให้เราสามารถได้ยินเสียงที่สามารถจะทำให้เข้าใจความจริงของสิ่งที่มีจริงๆ แต่ถ้าเป็นผลของกุศลกรรมไม่ได้เกิดเป็นมนุษย์ เกิดในภูมิที่ไม่เจริญเลย แต่เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ที่เจ็บในนรกเกิดเป็นเปรตเกิดเป็นอสูรกายแต่ความละเอียดมากมายหลากหลายค่ะแม้แต่เปรตก็หลากหลายมากเหมือนมนุษย์ที่เกิดมาผิวพรรณวันหน้าก็ต่างกันสูงต่ำก็ต่างกันในเพียงเรื่องของรูปร่างใช่ไหมคะ ฝันต่างกันไหม ทุกอย่างหมดเลยนะคะ อย่างละเอียดค่ะนี่ก็เป็นสิ่งแสดงให้เห็นว่ากรรมละเอียดไหม ไม่มีใครทำอะไรได้เลยทั้งสิ้นนอกจากเก่า เพราะฉะนั้นจะกล่าวได้มั้ยคะว่ากรรมเป็นมือที่มองไม่เห็นค่ะ ตกลงไปใต้รางรถไฟไม่ตาย จริงๆ ค่ะเด็กตัวเล็กๆ พลาดตกลงไปอยู่ข้างใต้เลยก็ไม่ตาย ใครทำแผงจ่ายหรือไม่ตาย ไม่มีใครสามารถจะทำอะไรได้เลยทั้งสิ้นนะคะ เพราะฉะนั้นการได้ยินได้ฟังเรื่องเหตุ และผล และก็จะทำให้สามารถเข้าใจความจริงที่เป็นเหตุ และเป็นผลด้วยให้เข้าใจความจริงซึ่งเป็นความเห็นที่ถูกต้องนะคะ ว่าสิ่งที่ไม่ดีอกุศลกรรมโลพาร์กโทสะโมหะทุจริตกรรมต่างๆ เนี่ยต้องให้ผลที่ไม่ดี แน่นอนตั้งแต่เกิดด้วยนะคะ แล้วยังจะทำอกุศลกรรมใหม่ ถ้ามีความเข้าใจจริงๆ ค่ะเนี่ยค่ะ เพราะฉะนั้นการที่เราจะรู้ว่าแม้แต่การเกิดก็เลือกไม่ได้กรรมทำไว้มากมายในสังสารวัฎ ต์เปลี่ยนแม้แต่มากกันตะอีกชาติเดียวก็จะได้เป็นพระโสดาบัดแต่ก็ยังเกิดเป็นมาเพราะผลของกรรมหนึ่งที่ได้กระทำแล้ว พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงประชวร ก่อนที่จะปรินิพพานนะคะ ประชวรหนัก เพราะอะไรใครทำใครทำได้ไหม ไม่ได้แต่กรรมที่ได้กระทำแล้วในอดีตนานแสนนานมาแล้วก็ยังสามารถที่จะทำให้คนเกิดขึ้นมาซึ่งทรงแสดงไว้ด้วยพระองค์เอง คนดีซื่อสัตย์ขึ้นเนี่ยท้ายก็คิดว่าเพราะอย่างนั้นเพราะอย่างนี้แต่บอกเพราะเหตุที่ได้ทำไว้นานแล้วคือเหตุผลนั้นที่แดก ยังไม่สามารถที่จะรู้ ที่ทำให้วิบากในชาตินี้เกิด แต่ก็มีการที่จะรู้ได้ว่าเป็นผลของการประเภทใดเป็นผลของอกุศลกรรมหรือว่าเป็นผลของกุศล และการซึ่งคนอื่นทำไม่ได้เลยทำไม่ได้แน่นอนนะคะ ตั้งแต่เกิด เห็นไหมคะทำไม่ได้จริงๆ ตั้งแต่เกิด และเกิดแล้วก็ยังทำไม่ได้อีกนอกจากเหตุที่ได้กระทำแล้ว สามารถที่จะเป็นปัจจัยให้จิตหลากหลายประเภทต่างๆ เกิดขึ้นทางตาบ้างหูบ้างจมูกบ้างลิ้นบ้างกายบ้าง แม่ใจบ้างแต่ต้องเป็นเรื่องที่ละเอียดนะคะ ซึ่งการศึกษาธรรมะด้วยค่ะศึกษาครึ่งกันกลาง และทำให้เข้าใจผิด เพราะฉะนั้นบางคนนะคะ ไม่เข้าใจความหมายของคำว่าอนัตตาโดยถ่องแท้โดยมั่นคงก็คิดว่าตนเอง และสามารถจะทำได้ แต่ถ้ามีความเข้าใจจริงๆ ว่าเป็นธรรมะทั้งหมดแล้วก็แล้วแต่เหตุปัจจัยที่จะทำให้สภาพธรรมะหนึ่งสภาพธรรมะได้เกิดก็จะมีความเข้าใจที่ถูกต้อง และปัญญาแม้เพียงการรู้เรื่องกับก็ยังสามารถที่จะทำให้ลากทุจริตกรรมได้ด้วยด้วยเหตุนี้นะคะ ถึงจะกล่าวเรืองกิจของจิตแต่ก็ไม่พ้นจะชาร์จเกิดการเกิดของจิตว่าจิตเกิดแล้วต้องเป็นชาติหนึ่งชาติใดคือเป็นกุศลเกิดเป็นกุศล เรียกว่าเกิดเป็นแอบกุสอนหรือว่าเป็นผลของกุศลที่เกิด เพราะฉะนั้นจิตนั้นไม่ใช่ตัวเหตุแต่เป็นผลของกรรมที่ได้กระทำแล้วที่เป็นกุศล เพราะฉะนั้นจิตนั้นเป็นกุศลวิบากซึ่งเราก็รู้ค่ะขณะแรกที่เกิดไม่ได้ทำบุญทำบาปอะไรขณะที่เกิดเลยจะเป็นเหตุได้ยังไง แต่ว่ากรรมที่ได้กระทำแล้วต่างหากที่ทำให้จิตขณะแรกเกิดขึ้นในโลกนี้ รูปก่อนไม่แคร์ ก่อนเกิดรู้ไม่ว่าจะเกิดในโลกนี้ไม่รู้หน้าเลยใช่ไหมคะใครใครก็ไม่รู้แต่น่าอัศจรรย์นะคะ ถ้าคิดแล้วกรรมอะไรทำแล้วสำเร็จไปนานแล้วก็ยังเป็นปัจจัยทำให้เกิดที่นี่ ซึ่งที่เกิดเนี่ยมีมากกว่านี้นะคะ นรกก็มีเกรดก็มีอสูรกายก็มีสัตว์เดรัจฉานก็มีแต่นี้นะ กระที่นี่ เป็นอย่างนี้ โดยที่ว่าไม่รู้เลยว่าเป็นเท่าอะไร แล้วก็โลกอื่นก็มีค่ะแต่ว่ายังสงสัยใช่ไหมคะนรกสงสัยเปรตสงสัย แต่ผู้ที่ทรงตรัสรู้นะคะ ทรงแสดงเหตุ และผลไว้โดยละเอียดด้วยแม้แต่ว่าจิตที่เกิดในที่นั้นหลากหลายต่างกันเพราะอะไร เกิดเป็นมนุษย์เนี่ยค่ะเป็นผลของกรรมอะไร และเกิดที่อื่นเป็นผลของกรรมอะไร นักแสดงถึงความละเอียดของจิตที่ทำกิจปฏิสนธิด้วย เพราะฉะนั้นขณะนี้ที่เกิดเป็นมนุษย์ด้วยนะคะ ไม่มีใครที่การใช่ไหมคะทีนี้สมบูรณ์แขนขาอยู่ครบ เป็นผลของกุศลรายการ แน่นอนที่ไม่ทำให้พิการ แต่ถ้าเป็นผลของกุศลอย่างอ่อนเนี่ยเราก็เห็นคนที่เกิดมาพิการแต่ว่าความจริงทางธรรมะนะคะ ใช้คำว่าพิการตั้งแต่กำเนิดคือตั้งแต่เกิดหมายความว่าปฏิสนธิจิตนั้นนะคะ เป็นเหตุที่จะไม่ทำให้เป็นผู้ที่มีร่างกายตามปกติเพราะว่า กุศลละกรรมเบียดเบียนได้เพราะว่าเป็นกุศลกรรมอย่าง ด้วยเหตุนี้นะคะ ถ้าใครมีญาติพี่น้องลิเวอร์บุตรหลานหรือเห็นใครก็ตามที่พิการหรือว่าบ้าใบ้บอดหนวกอย่างหนึ่งอย่างใดก็ตามแต่นะคะ ก็รู้สึกว่าเป็นผลของกรรมที่ได้กระทำแล้วของตนเอง นี่ก็จะทำให้เข้าใจเหตุ และผลตรงที่จะรู้ว่าขณะนี้นะค่ะที่ทุกคนไม่พิการเป็นผลของกุศลกรรม จะเป็นผลของทานหรือศีลหรือการฟังธรรมะหรือการช่วยเหลือแขกก็ได้ทั้งนั้นนะคะ ซึ่งเป็นปัจจัยให้เกิดแล้วแต่ถึงกระนั้นมีปัญญาเจตสิกเกิดร่วมด้วยหรือเปล่า นี่ก็จำแนกบุคคลให้ต่างกันไปแม้ว่าเป็นผลของกรรมที่ดีมากเลยนะคะ ทำด้วยจิตโสมนัสวัตถุก็ดีถ้าเป็นท่านนะคะ ก็ทำให้เกิดเป็นผู้ที่มั่งคั่งเป็นเศรษฐีมหาเศรษฐีหรือเป็นพระราชาหรือเป็นอะไรก็ตามแต่นะคะ แต่กุศลนั้น ไม่ประกอบด้วยปัญญา เพราะฉะนั้นจะให้ปัญญาเกิดร่วมกับปฏิสนธิจิตไม่ได้เพราะว่าเหตุไม่ได้ประกอบด้วยปัญญา เพราะฉะนั้นผลจะประกอบด้วยปัญญาไม่ได้ เพราะฉะนั้นแม้เกิดมาแล้วนะคะ เราก็จะเห็นคนที่ไม่ประกอบด้วยปัญญา สามารถที่จะเรียนเก่งทำอะไรเก่งจบมหาวิทยาลัยประดิษฐ์อะไรก็ได้ทั้งหมดนะคะ แต่ไม่รู้ความจริงของสิ่งที่กำลังมีจริงๆ เพราะฉะนั้นจะถือว่าปัญญาไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นความหลากหลายของกรรมที่ได้กระทำแล้วนะคะ แล้วก็ให้ผลนะคะ ก็ทำให้ผลนั้นหลากหลายต่างกันไป และข้อสำคัญก็คือว่าสงบไม่ได้เกิดแล้วดับแล้วไม่เกิด เพื่อที่จะได้เข้าใจถูกต้องว่าไม่มีเรา แล้วก็มีเหตุปัจจัยที่จะทำให้สภาพธรรมะปรุงแต่งไปยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ตามเหตุตามปัจจัย ท่านอาจารย์ค่ะ ในชีวิตประจำวันเนี่ย ซึ่งแต่ละคณะก็จะมีเจตนาเจตสิกเกิดร่วมด้วยกับจิตทุกดวงใช่ไหมคะคราวนี้เวลาถ้าเราทำอะไรไปแล้วก็จะพูดว่าขอโทษค่ะไม่ได้เจตนาเยอะนะคะ มันก็ไม่เป็นพูดตรงใช่ค่ะพ่อศึกษาธรรมมะแล้วจะทราบว่าเจตนาเจตสิกเกิดกับจิตทุกดวง พี่เข้าใจว่าเป็นเรานะคะ ถูกหรือผิด ใช้คำว่าต้องเป็นเรื่องละเอียดจริงๆ ไม่ใช่ฟังแล้วมีสถานการณ์ที่เราจะมาคิดประมวลเอาง่ายๆ แต่ต้องเข้าใจถึงความเป็นธรรมะแต่ละอย่างชัดเจนว่าไม่ใช่เรา ดังนั้นการกระทำไปเนี่ยแล้วมากล่าวว่าไม่มีเจตนาอะไรก็พูดได้แต่เจตสิกเกิดดับสืบต่อทำกิจกัน ตรงด้วยผู้สอนเป็นครูสอนอากู๋ซ่อนแอบผู้สอนบางคนเข้าใจว่าอกุศลดี ใช่ไหมคะแต่อกุศลตรีไม่ได้เพราะเป็นอกุศลแต่ใครจะคิดยังไงจะเข้าใจยังไงก็แล้วแต่ความคิด แต่ธรรมะเปลี่ยนใหม่ได้ เพราะฉะนั้นถึงจะเจตนาแต่บอกว่าไม่เจตนาสภาพจริงๆ คืออะไร อาจารย์ครับปั่นครับก้อได้ยินคำว่าวิธีจิกแล้วก็วิธีมุดจิ คือจิตที่เกิดขึ้นเนี่ยก็จะมีเป็นไปอยู่ทั้งเป็นวิถีจิตก็มี และก็วิธีมุดแต่จิตก็มีคให้ความหมายของคำ ยิ่งสนทนาก็จะมีคำเยอะนะครับ แต่ว่าคำแต่ละคำแล้วก็มีความหมายแล้วก็มุ่งให้เข้าใจถึงความเป็นจริงของสภาพธรรมะที่มีจริงๆ นะครับ แม้แต่การที่จะกล่าวถึงจิต ซึ่งก็เป็นสภาพธรรมะที่มีจริงนะครับ เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้งซึ่งอารมณ์ ถ้าจะกล่าวโดยประเภทใหญ่ๆ ก็มีสองประเภทนะครับ ก็เป็นการกล่าวครบถ้วนนะครับ เพราะว่าหลายท่านก็ได้อ่านในหนังสือความว่าทำสังเกตบ้างได้ฟังรายการธรรมะ นี่เป็นรายการแนวทางเจริญวิปัสสนาบ้างนะครับ ก็จะมีความคุณ ก็ญี่ปุ่นก็โกรธมาก ในความถูกต้องความเป็นจริงยิ่งขึ้นนะครับ การจะแพร่จิตประเทศใหญ่ๆ สองประเภทคือวิถีจิตกับวิธีโหมดแต่จิตอันนี้คือกล่าวโดยคำก่อนนะครับ วิถีจิต อันนี้เป็นคำไทยนะครับ บาหลีก็คือวีซีจิตตนะครับ ก็หมายถึงจิตที่เกิดขึ้นโดยอาศัยทวารหนึ่งทวารใดใน๖ทวารคือทวารตาหูจมูกลิ้นกายใจในการรู้อารมณ์อันนี้คือกล่าวถึงจิตที่เป็นวิถีจิต ส่วนจิตอีกประเภทหนึ่งนะครับ เป็นประเภทใหญ่ๆ นะครับ คือจิตที่เกิดขึ้นโดยไม่อาศัยทวารได้เลยในการรู้อารมณ์เรียกว่าวิธีมุตตะจิต


    ฟังธรรมจากหัวข้อย่อย

    หมายเลข 193
    29 ม.ค. 2567

    ซีดีแนะนำ