อักโกสกสูตร (ความโกรธ)


    สังยุตตนิกาย สคาถวรรค อักโกสกสูตรที่ ๒ มีข้อความ

    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ในพระวิหารเวฬุวัน อันเป็นที่พระราชทานเหยื่อแก่กระแต เขตพระนครราชคฤห์ ฯ

    อักโกสกภารทวาชพราหมณ์ได้สดับมาว่า ได้ยินว่า พราหมณ์ภารทวาชโคตรออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตในสำนักของพระสมณโคดมแล้ว ดังนี้ โกรธ ขัดใจ เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นแล้ว ด่าบริภาษพระผู้มีพระภาคด้วยวาจาอันหยาบคาย มิใช่ของสัตบุรุษ ฯ

    เมื่อได้ทราบว่าพี่ชายไปบวชในสำนักของพระผู้มีพระภาค ผู้ที่อบรมความโกรธ ความขัดเคืองไว้มาก ก็ถึงกับ เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นแล้ว ด่าบริภาษพระผู้มีพระภาคด้วยวาจาอันหยาบคาย มิใช่ของสัตบุรุษ

    ถ้าท่านผู้ฟังบังเอิญมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น จะได้พิจารณาพระธรรมที่ พระผู้มีพระภาคทรงแสดง เพื่อประโยชน์ที่จะให้เมตตาเกิดแทนโทสะ

    ข้อความต่อไปมีว่า

    เมื่ออักโกสกภารทวาชพราหมณ์กล่าวอย่างนี้แล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะ อักโกสกภารทวาชพราหมณ์ว่า

    ดูกร พราหมณ์ ท่านย่อมสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน มิตรและอำมาตย์ ญาติสาโลหิต ผู้เป็นแขกของท่าน ย่อมมาบ้างไหม ฯ

    อักโกสกภารทวาชพราหมณ์ตอบว่า

    พระโคดมผู้เจริญ มิตรและอำมาตย์ญาติสาโลหิต ผู้เป็นแขกของข้าพระองค์ ย่อมมาเป็นบางคราว ฯ

    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

    ดูกร พราหมณ์ ท่านย่อมสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ท่านจัดของเคี้ยว ของบริโภคหรือของดื่มต้อนรับมิตรและอำมาตย์ญาติสาโลหิตผู้เป็นแขกเหล่านั้น บ้างหรือไม่ ฯ

    อักโกสกภารทวาชพราหมณ์กราบทูลว่า

    พระโคดมผู้เจริญ ข้าพระองค์จัดของเคี้ยวของบริโภคหรือของดื่มต้อนรับมิตรและอำมาตย์ญาติสาโลหิตผู้เป็นแขกเหล่านั้นบ้าง ในบางคราว ฯ

    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

    ดูกร พราหมณ์ ก็ถ้าว่ามิตรและอำมาตย์ญาติสาโลหิตผู้เป็นแขกเหล่านั้น ไม่รับ ของเคี้ยวของบริโภคหรือของดื่มนั้นจะเป็นของใคร ฯ

    อักโกสกภารทวาชพราหมณ์กราบทูลว่า

    พระโคดมผู้เจริญ ถ้าว่ามิตรและอำมาตย์ญาติสาโลหิตผู้เป็นแขกเหล่านั้นไม่รับของเคี้ยวของบริโภคหรือของดื่มนั้น ก็เป็นของข้าพระองค์อย่างเดิม ฯ

    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

    ดูกร พราหมณ์ ข้อนี้ก็อย่างเดียวกัน ท่านด่าเราผู้ไม่ด่าอยู่ ท่านโกรธเราผู้ไม่โกรธอยู่ ท่านหมายมั่นเราผู้ไม่หมายมั่นอยู่ เราไม่รับเรื่องมีการด่าเป็นต้นของท่านนั้น ดูกร พราหมณ์ เรื่องมีการด่าเป็นต้นนั้นก็เป็นของท่านผู้เดียว ดูกร พราหมณ์ เรื่องมีการด่าเป็นต้นนั้นก็เป็นของท่านผู้เดียว

    แล้วตรัสต่อไปว่า

    ดูกร พราหมณ์ ผู้ใดด่าตอบบุคคลผู้ด่าอยู่ โกรธตอบบุคคลผู้โกรธอยู่ หมายมั่นตอบบุคคลผู้หมายมั่นอยู่ ดูกร พราหมณ์ ผู้นี้เรากล่าวว่า ย่อมบริโภคร่วมกัน ย่อมกระทำตอบกัน เรานั้นไม่บริโภคร่วม ไม่กระทำตอบด้วยท่านเป็นอันขาด

    ดูกร พราหมณ์ เรื่องมีการด่าเป็นต้นนั้นเป็นของท่านผู้เดียว ดูกร พราหมณ์ เรื่องมีการด่าเป็นต้นนั้นเป็นของท่านผู้เดียว ฯ

    เป็นไปได้ไหม ในชีวิตประจำวันของท่านผู้ฟังที่จะเจริญเมตตา หรือทิ้งไว้ก่อน ตอนเหตุการณ์จริงๆ ไม่เจริญ แต่จะไปท่อง เพราะฉะนั้น ต้องเจริญ ไม่ใช่ท่อง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จะต้องพิจารณารู้ว่า สิ่งใดไม่มีประโยชน์ และสิ่งใดเป็นประโยชน์

    อักโกสกภารทวาชพราหมณ์กราบทูลว่า

    บริษัทพร้อมด้วยพระราชา ย่อมทราบพระโคดมผู้เจริญอย่างนี้ว่า พระสมณ-โคดมเป็นพระอรหันต์ ก็เมื่อเป็นเช่นนั้น ไฉนพระโคดมผู้เจริญจึงยังโกรธอยู่เล่า ฯ

    นี่แสดงว่า อักโกสกภารทวาชพราหมณ์ไม่เข้าใจความหมายของความเป็น พระอรหันต์จึงได้กล่าวเช่นนั้น ความจริงพระผู้มีพระภาคตรัสดีๆ แต่บุคคลใดมีความโกรธก็เข้าใจว่า ผู้พูดเช่นนั้น พูดด้วยความโกรธ ซึ่งพระผู้พระภาคตรัสว่า เรานั้นไม่บริโภคร่วม ไม่กระทำตอบด้วยท่านเป็นอันขาด ทำให้พราหมณ์เข้าใจว่า พระผู้มีพระภาคยังโกรธอยู่

    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

    ผู้ไม่โกรธ ฝึกฝนตนแล้ว มีความเป็นอยู่สม่ำเสมอ หลุดพ้นแล้ว เพราะรู้ชอบ สงบ คงที่อยู่ ความโกรธจักมีมาแต่ที่ไหน ผู้ใดโกรธตอบบุคคลผู้โกรธแล้ว ผู้นั้นเป็น ผู้ลามกกว่าบุคคลผู้โกรธนั้นแหละ เพราะการโกรธตอบนั้น บุคคลไม่โกรธตอบบุคคล ผู้โกรธแล้ว ชื่อว่าย่อมชนะสงครามอันบุคคลชนะได้โดยยาก ผู้ใดรู้ว่าผู้อื่นโกรธแล้ว เป็นผู้มีสติ สงบเสียได้ ผู้นั้นชื่อว่าย่อมประพฤติประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย คือ แก่ตนและแก่บุคคลอื่น เมื่อผู้นั้นรักษาประโยชน์อยู่ทั้งสองฝ่าย คือ ของตนและของบุคคลอื่น ชนทั้งหลายผู้ไม่ฉลาดในธรรมย่อมสำคัญบุคคลนั้นว่า เป็นคนเขลา ดังนี้ ฯ

    เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว อักโกสกภารทวาชพราหมณ์ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า

    ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ฯลฯ

    และอักโกสกภารทวาชพราหมณ์ก็ได้ขอบรรพชาอุปสมบทในสำนักของ พระผู้มีพระภาค ซึ่งไม่นานเท่าไรนักท่านก็บรรลุคุณธรรมเป็นพระอรหันต์รูปหนึ่ง ในบรรดาพระอรหันต์ทั้งหลาย

    ที่มา ...

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 900

    ฟังธรรมจากหัวข้อย่อย

    หมายเลข 148
    4 พ.ย. 2566

    ซีดีแนะนำ