ลำดับขั้นของวิปัสสนา - วิปัสสนาญาณที่ 13 ตอนที่ 14-18 [สนทนาธรรมกับชาวต่างชาติ]

 
wittawat
วันที่  3 ก.ค. 2562
หมายเลข  31004
อ่าน  3,465

วิปัสสนาญาณที่ 13 คือความรู้ชัดที่ข้ามโคตร โคตรภูญาณ

ความรู้นี้เกิดขึ้นต่อจากอนุโลมญาณ ซึ่งประกอบด้วยจิต 3 ขณะสำหรับผู้ที่รู้แจ้งอริยสัจธรรมได้อย่างช้ากว่าผู้ที่มีปัญญาคมกล้า และ 2 ขณะสำหรับผู้ที่มีปัญญาคมกล้า ปัญญาที่ข้ามโคตรนี้ เป็นมหากุศลจิตญาณสัมปยุตต์ และจิตประเภทนี้มีนิพพานเป็นอารมณ์ ซึ่งเป็นอาเสวนปัจจัยให้กับมรรคจิตที่เกิดต่อในขั้นของการรู้แจ้งอริยสัจธรรมเพื่อเป็นพระโสดาบัน ซึ่งเป็นโลกุตตรจิต มรรคจิตมีนิพพานเป็นอารมณ์และดับกิเลส

ในวิถีจิตชวนจิตทั้งสิ้น 7 ดวงทั้งหมดจะมีอารมณ์เดียวกัน แต่เฉพาะมรรควิถีเท่านั้นที่แตกต่าง จิตที่เป็นบริกรรม (การเตรียม) อุปจาร (เข้า) อนุโลม (น้อมไป) มีอารมณ์คือ 1 ใน 3 ของสามัญลักษณะของสังขารธรรม จิตดวงถัดไปในวิถีจิตนั้นคือ โคตรภู (ข้ามโคตร) มรรคจิต และ ขณะต่างๆ ที่ผลจิตเกิด (2 หรือ 3 ขณะ) นั้นจะมีนิพพานเป็นอารมณ์ โคตรภูเป็นมหากุศลจิตที่มีนิพพานเป็นอารมณ์เป็นครั้งแรก มีข้อความแสดงถึง โคตรภูจิต ว่าตั้งอยู่ในฐานะเดียวกับ อาวัชชนจิตก่อน มรรคจิตในขั้นของการรู้แจ้งเป็นพระโสดาบันว่าเกิดต่อจากโคตรภูและมีนิพพานเป็นอารมณ์ ข้อความในคัมภีร์วิสุทธิมรรคหน้า 1634 แสดงว่า

[อุปามรรคญาณอาศัยสัญญาจากโคตรภูญาณ]

"จริงอยู่ โคตรภูญาณนั้น แม้เป็นอนาวัชนะ (คือมิใช่อาวัชนะ) (แต่ว่า) ตั้งอยู่ในฐานแห่งอาวัชนะ ราวกะให้สัญญาแก่มรรคว่า "ท่านจงเกิดอย่างนี้" แล้วจึงดับไป"

มรรควิถีที่สืบต่อจากโคตรภูนั้น จึงสามารถที่จะรู้นิพพานและดับกิเลสได้ ข้อความจากคัมภีร์ [เล่มที่ 75] พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๑ หน้าที่ 631 และคัมภีร์วิสุทธิมรรค ภาค ๓ ตอน ๒ หน้า 210 แสดงข้ออุปมาของ อนุโลมญาน และโคตรภูญาน

"ยังมีบุรุษตาดีผู้หนึ่ง ใคร่จะทราบนักษัตรโยค (ความประจวบกันแห่งดวงจันทร์กับดาว) ออกไปแหงนดูดวงจันทร์ในเวลากลางคืน ดวงจันทร์ไม่ปรากฏแก่เขาเพราะถูกพลาหก (เมฆ) บัง พอลมลูกหนึ่งตั้งขึ้น กำจัดเมฆหนาๆ (ไป) อีกลูกหนึ่งกำจัดเมฆปานกลาง (ไป) อีกลูกหนึ่งกำจัดเมฆแม้บางๆ (ไปหมดสิ้น) ทีนั้นบุรุษนั้น ครั้นท้องฟ้าปราศจากเมฆแล้ว ก็เห็นดวงจันทร์ทราบนักษัตรโยคได้

ในข้ออุปมาและอุปไมยนั้น ความมืดคือกิเลสอย่างกลาง อย่างหยาบ และอย่างละเอียดทีปิดบังสัจจะ เปรียบเหมือนพลาหก ๓ ชั้น อนุโลมจิต ๓ เหมือนลม ๓ ลูก โคตรภูญาณเหมือนบุรุษตาดี พระนิพพานเหมือนดวงจันทร์ การบรรเทาความมืดที่ปิดบังซึ่งสัจจะของอนุโลมจิตแต่ละดวง เหมือนการกำจัดเมฆ ๓ ชั้นตามลำดับแห่งลมแต่ละลูก ความที่เมื่อดวงมืดบังสัจจะปราศไปแล้ว เห็นพระนิพพานอันหมดจดได้โดยโคตรภูญาณ (โคตรภูญานก็มีพระนิพพานอันบริสุทธิ์เป็นอารมณ์) เหมือนการที่เมื่อท้องฟ้าปราศจากเมฆแล้ว เห็นดวงจันทร์อันกระจ่างได้โดยบุรุษนั้น ก็แลลม ๓ ลูกย่อมสามารถกำจัดแต่เมฆบังดวงจันทร์ได้เท่านั้น หาอาจเห็นดวงจันทร์ไม่ ฉันใดเล่าอนุโลมจิตทั้งหลายก็อาจบรรเทาแต่ความมืดที่ปิดบังสัจจะได้เท่านั้น หาอาจเห็นพระนิพพานได้ไม่ ก็ฉันนั้น บุรุษนั้นอาจเห็นได้แต่ดวงจันทร์ (แต่) ไม่อาจกำจัดพลาหก (เมฆ) ได้ฉันใด โคตรภูญาณก็อาจเห็นพระนิพพานได้เท่านั้น ไม่อาจบรรเทาความมืดคือกิเลสได้ฉันนั้น โคตรภูญาณก็ย่อมอาจเพื่อทําพระนิพพานนั้นแหละให้เป็นอารมณ์ได้ แต่ไม่อาจกําจัดความมืดคือกิเลสได้ (ก็เพราะเหตุนั้นแหละ โคตรภูญาณนั้น ท่านจึงเรียกว่า อาวัชนะแห่งมรรค) "

ข้อความนี้แปลจาก ...The Stages of Vipassana - 13th stage of vipassana nana

อ่านตอนอื่นๆ ...กดลิ้งค์

1. วิปัสสนาญาณที่ 1 .....กดลิ้งค์

2. วิปัสสนาญาณที่ 2 .....กดลิ้งค์

3. วิปัสสนาญาณที่ 3-1 .....กดลิ้งค์

4. วิปัสสนาญาณที่ 3-2 .....กดลิ้งค์

5. วิปัสสนาญาณที่ 4 .....กดลิ้งค์

6. วิปัสสนาญาณที่ 5 .....กดลิ้งค์

7. วิปัสสนาญาณที่ 6 .....กดลิ้งค์

8. วิปัสสนาญาณที่ 7 .....กดลิ้งค์

9. วิปัสสนาญาณที่ 8 .....กดลิ้งค์

10. วิปัสสนาญาณที่ 9 .....กดลิ้งค์

11. วิปัสสนาญาณที่ 10 .....กดลิ้งค์

12. วิปัสสนาญาณที่ 11 .....กดลิ้งค์

13. วิปัสสนาญาณที่ 12 .....กดลิ้งค์

14. วิปัสสนาญาณที่ 13 .....กดลิ้งค์

15. วิปัสสนาญาณที่ 14 .....กดลิ้งค์

16. วิปัสสนาญาณที่ 15 .....กดลิ้งค์

17. วิปัสสนาญาณที่ 16 .....กดลิ้งค์

18. บทสรุป .....กดลิ้งค์


เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ