ธรรมทาน
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ดีละ มหาบพิตร ตถาคตบำเพ็ญบารมี ๓๐ ทัศ บริจาคมหาบริจาค ๕ คือ บริจาคอวัยวะ ๑ บริจาคทรัพย์ ๑ บริจาคบุตร ๑ บริจาคภรรยา ๑ บริจาคชีวิต ๑ แทงตลอดพระสัพพัญญุตญาณแล้ว ก็เพื่อตัดความสงสัยของชนผู้เช่นพระองค์นี่แหละ ขอพระองค์จงทรงสดับปัญหาที่พระองค์ถามแล้วเถิด
บรรดาทานทุกชนิด ธรรมทานเป็นเยี่ยม บรรดารสทุกชนิด รสแห่งพระธรรมเป็นยอด บรรดาความยินดีทุกชนิด ความยินดีในธรรมประเสริฐ ส่วนความสิ้นไปแห่งตัณหาประเสริฐที่สุดแท้ เพราะความเป็นเหตุให้สัตว์บรรลุพระอรหัต ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า
ธรรมทานย่อมชนะทานทั้งปวง รสแห่งธรรมย่อมชนะรสทั้งปวง ความยินดีในธรรมย่อมชนะความยินดีทั้งปวง ความสิ้นไปแห่งตัณหาย่อมชนะทุกข์ทั้งปวง [ตอนที่ 1496]
คำอธิบายต่อไปมีว่า
บทว่า สัพพทานัง เป็นต้น ความว่า ก็ถ้าบุคคลพึงถวายไตรจีวรเช่นกับใบตองอ่อน (คือ เป็นไตรจีวรอย่างดี) แด่พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และ พระอรหันต์ทั้งหลายผู้นั่งติดๆ กันในห้วงจักรวาลตลอดถึงพรหมโลก การอนุโมทนา ที่พระพุทธเจ้าเป็นต้นทรงทำด้วยพระคาถา ๔ บาทในสมาคมนั้นประเสริฐ
ก็ทานนั้น หามีค่าถึงเสี้ยวที่ ๑๖ แห่งพระคาถานั้นไม่ การแสดงก็ดี การกล่าวสอนก็ดี การสดับก็ดีซึ่งธรรม เป็นของใหญ่ ด้วยประการฉะนี้
อนึ่ง บุคคลใดให้ทำการฟังธรรม (คือ จัดให้มีการฟังธรรม) อานิสงส์เป็น อันมากก็ย่อมมีแก่บุคคลนั้นแท้ ธรรมทานนั่นแหละที่พระพุทธเจ้าเป็นต้นให้เป็นไปแล้ว แม้ด้วยอำนาจอนุโมทนา โดยที่สุดด้วยพระคาถา ๔ บาท ประเสริฐที่สุดกว่าทาน ที่ทายกบรรจุบาตรให้เต็มด้วยบิณฑบาตอันประณีตแล้วถวายแก่บริษัทเห็นปานนั้น นั่นแหละบ้าง ประเสริฐกว่าเภสัชทานที่ทายกบรรจุบาตรให้เต็มด้วยเนยใส และน้ำมันเป็นต้นแล้วถวายบ้าง ประเสริฐกว่าเสนาสนทานที่ทายกให้สร้างวิหารเช่นกับมหาวิหาร และปราสาทเช่นกับโลหปราสาทตั้งหลายแสนแล้วถวายบ้าง ประเสริฐกว่าการบริจาคที่อนาถบิณฑิกเศรษฐีเป็นต้นปรารภวิหารทั้งหลายแล้วทำบ้าง เพราะเหตุไร
เพราะว่าชนทั้งหลาย เมื่อจะทำบุญเห็นปานนั้น ต่อฟังพระธรรมแล้วเท่านั้น จึงทำได้ ไม่ได้ฟังก็หาทำได้ไม่ ก็ถ้าว่าสัตว์ทั้งหลายไม่พึงฟังธรรมไซร้ เขาก็ไม่พึงถวายข้าวยาคูประมาณกระบวยหนึ่งบ้าง ภัตประมาณทัพพีหนึ่งบ้าง เพราะเหตุนี้ธรรมทานนั่นแหละ จึงประเสริฐที่สุดกว่าทานทุกชนิด
ประโยชน์ของธรรมทานต่อไป คือ
อีกอย่างหนึ่ง เว้นพระพุทธเจ้า และพระปัจเจกพุทธเจ้าเสีย แม้พระสาวกทั้งหลายมีพระสารีบุตรเป็นต้นผู้ประกอบด้วยปัญญา ซึ่งสามารถนับหยาดน้ำได้ ในเมื่อฝนตกตลอดกัปทั้งสิ้น ก็ยังไม่สามารถบรรลุโสดาปัตติผลเป็นต้นโดยธรรมดาของตนได้ ต่อฟังธรรมที่พระอัสสชิเถระเป็นต้นแสดงแล้ว จึงทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล และทำให้แจ้งซึ่งสาวกบารมีญาณด้วยพระธรรมเทศนาของพระศาสดา เพราะเหตุแม้นี้มหาบพิตร ธรรมทานนั่นแหละจึงประเสริฐที่สุด เพราะเหตุนั้นพระศาสดาจึงตรัสว่า สัพพทานัง ธัมมทานัง ชินาติ [ตอนที่ 1497]
- ตอบคำถามที่มหามกุฏราชวิทยาลัย
- ทำไมต้องฟังธรรม
- เริ่มด้วยความเข้าใจถูก ตอนที่ ๑
- เริ่มด้วยความเข้าใจถูก ตอนที่ ๒
- เริ่มด้วยความเข้าใจถูก ตอนที่ ๓
- โลกในวินัยพระอริยะ ๑
- โลกในวินัยพระอริยะ ๒
- สนทนาธรรม ๑
- สนทนาธรรม ๒
- สนทนาธรรม ๓
- สังฆทานและบุญ
- พระเครื่อง คาถา กรรม
- ตัวอย่างมิจฉาสมาธิ
- ประสบการณ์สมาธิและเมตตา
- เดินจงกรมและเมตตา
- เจ้ากรรมนายเวรและการอุทิศส่วนกุศล
- อิทธิฤทธิ์และเทพ
- การเกื้อกูลต่อบรรพชิต
- ใครเป็นพระอริยะบุคคล
- ความเข้าใจเรื่องศีล ๑
- ความเข้าใจเรื่องศีล ๒
- สนทนาเรื่องความเห็น
- พื้นฐานพระอภิธรรม ๑**
- พื้นฐานพระอภิธรรม ๒
- พื้นฐานพระอภิธรรม ๓**
- พื้นฐานธรรม
- ความต่างรูปธรรมนามธรรม
- พื้นฐานรูปธรรม
- เข้าถึงรูปธรรมที่ไม่ใช่ชื่อ
- พื้นฐานพระอภิธรรม ๔
- พื้นฐานพระอภิธรรม ๕
- พื้นฐานพระอภิธรรม ๖ (เจตสิก) **
- พื้นฐานพระอภิธรรม ๗ (เจตสิก)
- เวทนาเจตสิก
- พื้นฐานพระอภิธรรม ๘ (เจตสิก)
- พื้นฐานพระอภิธรรม ๙ (เจตสิก)
- ปรมัตถธรรมกับบัญญัติ ๑
- ปรมัตถธรรมกับบัญญัติ ๒
- ปรมัตถธรรมกับบัญญัติ ๓
- พื้นฐานพระอภิธรรม ๑๐
- พื้นฐานจิต ๑
- พื้นฐานจิต ๒
- พื้นฐานจิต ๓
- ชาติของจิต ๑
- ชาติของจิต ๒
- กรรมและวิบาก ๑
- กรรมและวิบาก ๒
- กรรมและวิบาก ๓
- กรรมและวิบาก ๔
- กรรมและวิบาก ๕
- วิบากจิต
- ภูมิของจิต ๑
- ภูมิของจิต ๒
- ธรรมทาน
