เข้าใจธรรมะว่าเป็นธรรมะ


        ความลึกซึ้งของธรรมะต้องอาศัยการฟังให้เข้าใจว่า แม้สิ่งที่กำลังปรากฏทางตาขณะนี้ปรากฏเพราะจิตเห็น แต่ต้องมีรูปที่สามารถกระทบรูปนี้โดยเฉพาะ ไม่กระทบรูปอื่นเลย แล้วจิตเกิดขึ้นเห็นรูปที่กำลังปรากฏ รูปนั้นเราใช้คำว่า จักขุปสาท ในภาษาบาลี แต่ภาษาไทยเราก็พูดคำว่า ตา เมื่อพูดถึงตาคนก็เข้าใจแต่ตามีหลายอย่าง ตาที่เป็นตาขาว ตาดำ ตาทั้งหมด เราก็เรียกว่า ตา เหมือนกัน แต่นี่เป็นตา หรือปสาท รูปที่สามารถกระทบสิ่งที่ปรากฏ ไม่ใช่สีขาว สีดำ หรือรูปตาทั้งหมด แต่รูปนี้ไม่มีใครมองเห็นเลย เพราะว่าไม่ใช่สีสันวัณณะ แต่จะมีอยู่แน่นอน ตรงกลางตา ซึ่งสามารถกระทบกับสิ่งที่กำลังปรากฏในขณะนี้ แล้วจิตจึงเกิดขึ้นเห็น

        เพราะฉะนั้นรูปนั้นเป็นทาง หรือเป็นทวารในภาษาบาลี ที่จะทำให้มีจิตเห็นเกิดขึ้น แบบนี้พอที่จะเข้าใจไหม คือมุ่งที่จะให้เข้าใจธรรมะว่าเป็นธรรมะ รูปเป็นรูป และรูปก็มีหลากหลาย เพราะเหตุว่าจักขุปสาทรูปเป็นรูปอีกรูปหนึ่งซึ่งไม่ใช่สี เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ที่เรากล่าวถึงเมื่อครู่นี้ ๗ รูป ต่างกันแล้วใช่ไหม สิ่งที่ปรากฏทางตาเป็นทวาร หรือไม่ (ไม่เป็น) เสียงเป็นทวารไหม (ไม่เป็น) แต่จักขุปสาทรูปเป็นทวาร ถ้าไม่มีรูปนี้ ไม่มีการเห็นเลย อย่างไรๆ ก็เห็นไม่ได้ เพราะฉะนั้นรูปนี้จึงเป็นรูปที่เป็นทาง ในภาษาไทย ส่วนภาษาบาลี ก็คือเป็นทวาร เป็นทางที่จะให้จิตเกิดขึ้นเห็นสิ่งที่กำลังปรากฏในขณะนี้ จึงเป็นทวารรูป เมื่อพูดแค่ทางเดียว คุณเด่นพงศ์สามารถทราบถึงทวาร ๕ ได้ใช่ไหม ว่าหมายความถึงโสตปสาทรูป ฆานปสาทรูป ชิวหาปสาทรูป กายปสาทรูป

        เพราะฉะนั้นในรูป ๑๒ รูปที่เรากล่าวถึง คือ สิ่งที่ปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ทั้งหมด ๗ รูป ส่วนปสาท เช่น ตา หู จมูก ลิ้น กาย ก็เป็นอีก ๕ รูป รวมเป็น ๑๒ รูป ใน ๑๒ รูป รูปไหนเป็นทวาร ปสาท ๕ เป็นทวาร ก็ไม่สงสัยเลย ไม่สงสัยเพราะเข้าใจธรรมะ เพราะเข้าใจความจริงของสภาวะที่สามารถกระทบกับสิ่งที่สามารถกระทบได้ ไม่ใช่สิ่งที่ไม่สามารถจะกระทบได้ เช่น จักขุปสาทกระทบเสียงไม่ได้ กระทบกลิ่นไม่ได้ กายปสาทก็กระทบกลิ่นไม่ได้ กระทบสิ่งที่ปรากฏทางตาไม่ได้ นี่คือความเป็นธรรมะที่จะต้องเข้าใจ ไม่ใช่โดยจำคำ แล้วก็สงสัยแล้วสงสัยอีกว่า ทวารรูปคืออะไร หรือวิสยรูปคืออะไร โคจรรูปคืออะไร แต่ถ้ารู้ว่าจิตเกิดขึ้นต้องมีอารมณ์ และอารมณ์ที่เป็นรูปก็ปรากฏทางหนึ่งทางใดใน ๕ ทาง คือ ทางตา หรือหู หรือจมูก หรือลิ้น หรือกาย จึงใช้คำว่า “โคจรรูป” ต่างกับรูปอื่นซึ่งไม่ได้ปรากฏอย่างนี้ เพราะฉะนั้นชื่อนี้หมายความเฉพาะที่ปรากฏในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นอารมณ์ของจิต เมื่อจะมีรูปเป็นอารมณ์ ก็ไม่พ้นจากอารมณ์เหล่านี้เลย ส่วนทวาร หรือทางก็ไม่ใช่สิ่งต่างๆ เหล่านี้ แต่เป็นรูปที่สามารถกระทบที่จะให้จิตเหล่านั้นเกิดขึ้น ก็เป็นทวารรูป

        ที่มา ...

        พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 364


    หมายเลข 12851
    28 ธ.ค. 2566