ตามีจริงๆ เป็นธรรม ไม่ใช่ของใคร

 
สารธรรม
วันที่  11 ธ.ค. 2568
หมายเลข  51629
อ่าน  131

ผู้ฟัง ขณะที่พูดถึงตา ก็ยังมีเรา คิดว่าตาของเรา

ท่านอาจารย์ ต้องเปลี่ยนใหม่ ตาไม่ใช่ของใคร ตาเป็นธรรม การจะเข้าใจธรรมได้ ก็กล่าวถึงธรรมทีละอย่าง ตามีจริงๆ เป็นธรรม จึงไม่ใช่ของใคร เริ่มอย่างนี้ เวลาพูดถึงตา ไม่ได้พูดถึงอย่างอื่นเลย พูดถึงธรรมชนิดหนึ่ง ซึ่งทุกคนเข้าใจว่า มี แต่อยู่ที่ไหน ไม่รู้ รู้แต่ว่า ขณะนี้กำลังเห็น แล้วถ้าไม่มีตาทั้งดวง ทั้งหมดที่เป็นรูปของตา เข้าใจว่าไม่มีตา เห็นไม่ได้ แต่ความจริงที่ตา ที่เราเคยเข้าใจว่า ทั้งหมดสีขาว สีดำ แล้วก็มีขนตา

ตัวตาจริงๆ เป็นรูปที่มองไม่เห็นเลย แต่เป็นรูปที่สามารถกระทบกับสิ่งที่กำลังปรากฏขณะนี้ ไม่กระทบกับเสียง นี่เป็นรูปชนิดหนึ่ง ถ้าพูดถึงธรรมซึ่งเป็นรูปธรรม และนามธรรม ก็ต้องเป็นรูปธรรม แต่ละรูปไม่ปนกัน

ด้วยเหตุนี้ตานี้จะเกิดที่ไหน ในน้ำ บนบก อย่างปลาก็มีตา แต่เรามองเห็นเป็นรูปปลา และเป็นตาของปลา ซึ่งลักษณะก็ต่างกับตาของมนุษย์ แต่ถ้าจะกล่าวถึง ตัวตาจริงๆ ไม่ได้กล่าวถึงรูปร่างของปลา พูดถึงตา ไม่ได้กล่าวถึงรูปร่างของปลา และพูดถึงปลา ก็ไม่ได้กล่าวถึงรูปร่างของมนุษย์ ของนก ของงู ไม่ใช่เลย พูดถึงตา เพื่อจะกล่าวถึงธรรมอย่างหนึ่ง ซึ่งมีจริงๆ รูปนี้เกิดเพราะกรรมเป็นสมุฏฐาน เป็นรูปที่สามารถกระทบกับสิ่งที่กำลังปรากฏขณะนี้เท่านั้น เป็นรูปชนิดหนึ่ง แล้วเวลาที่รูปกำลังปรากฏขณะนี้กระทบกับจักขุปสาท ซึ่งเป็นรูปพิเศษ ซึ่งสามารถกระทบกับสิ่งที่ปรากฏ เป็นปัจจัยให้จิตเกิดขึ้นเห็น ไม่ใช่จิตอื่น แต่ธาตุชนิดนี้เกิดได้ เพราะเหตุว่าอาศัยปัจจัย คือต้องมีจักขุปสาท มีสิ่งที่กระทบ

ตาเป็นรูปธรรม รูปธรรม หมายถึง สภาพธรรมที่ไม่สามารถรู้อะไรได้เลย โลกไม่ว่าจะเป็นจักรวาลนี้ หรือที่ไหนก็ตามมีธรรม ๒ อย่าง คือ สภาพธรรมอย่างหนึ่งไม่สามารถรู้อะไรได้เลย แต่สภาพธรรมอีกอย่างหนึ่งเกิดเมื่อไร ต้องรู้ แล้วก็มีคนสงสัยว่า แล้วมีขึ้นมาได้อย่างไร ทั้งรูปธรรม และนามธรรม มีขึ้นมาได้อย่างไร ไปคิดสงสัยว่ามีได้อย่างไร แต่สิ่งนี้มีแล้ว เป็นอย่างนี้แล้ว ไม่เป็นอย่างอื่น

พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 458


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
มังกรทอง
วันที่ 11 ธ.ค. 2568

ธรรมมีมานัสพร้อม รับฟัง อันเกิดกุศลดัง ธาตุรู้ จิตเจตสิกเป็นพลัง เสริมส่ง หนุนแฮ กราบอาจารย์สุจินต์ผู้ เปี่ยมด้วยเมตตา

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ