ไม่รู้ความจริง ก็ยังคงติดข้อง

 
สารธรรม
วันที่  13 ธ.ค. 2568
หมายเลข  51641
อ่าน  64

การที่จะเข้าใจแม้แต่คำว่า จิต หรือสภาพรู้ หรือธาตุรู้ ไม่ใช่เพียงฟัง แล้วก็เข้าใจได้ทันที แต่ก็จะรู้ว่าสิ่งที่ต่างกัน คือ สิ่งที่ปรากฏทางตาเป็นอย่างหนึ่ง ปรากฏให้เห็น แต่ธาตุที่สามารถเห็น และกำลังเห็นต้องมี สิ่งนี้จึงปรากฏได้ เหมือนกับเสียง ถ้าไม่มีธาตุที่ได้ยินเสียง เสียงนั้นก็ปรากฏไม่ได้เลย

ในขณะใดที่สิ่งหนึ่งสิ่งใดปรากฏ ให้ทราบว่าสิ่งนั้นๆ จะปรากฏไม่ได้ ถ้าไม่มีธาตุที่กำลังรู้สิ่งนั้น กำลังเห็น ก็คือรู้ว่าสิ่งที่ปรากฏทางตาเป็นอย่างนี้ เห็นเดี๋ยวนี้เป็นอย่างนี้ นี่คือธาตุที่สามารถเห็นสิ่งที่กำลังปรากฏทางตา ไม่มีรูปร่างเหมือนอย่างที่เราจะเอามาจับ เอามาตั้ง เอามาพิสูจน์ แต่ว่าเมื่อธาตุนี้มี และลึกซึ้งยากแก่การที่จะรู้ เพราะว่าไม่มีรูปร่างใดๆ เจือปนเลย

สภาพอาการเห็น กำลังเห็นมี ตัวเห็นจริงๆ แต่ว่าไม่มีรูปร่าง เป็นเพียงธาตุที่เกิดขึ้นรู้สิ่งหนึ่งสิ่งใด แล้วก็ดับไป จนกว่าจะรู้ว่าธาตุนี้หลากหลาย กำลังเห็นทางตา เป็นธาตุชนิดหนึ่งซึ่งไม่ใช่คิดนึก กำลังได้ยินเสียง เสียงปรากฏ ธาตุที่ได้ยินขณะนั้นไม่เห็น และไม่คิด นี่คือความรวดเร็วของสภาพธรรม ซึ่งมีลักษณะเฉพาะแต่ละอย่าง ถ้ารู้ความจริงของลักษณะของธรรมแต่ละอย่างจริงๆ ไม่มีเรา แล้วก็จะประจักษ์การเกิดขึ้น และดับไปไม่กลับมาอีกเลย

ที่เป็นเราในชาตินี้ ตั้งแต่เกิดจนถึง ณ บัดนี้ ก็ผ่านทุกสิ่งทุกอย่างมาตามเหตุตามปัจจัย ซึ่งต้องเกิดเป็นไปเหมือนขณะนี้ต้องเกิดอย่างนี้ คือเห็นอย่างนี้ ต้องได้ยินเสียงอย่างนี้ คืออย่างนี้ทุกขณะเป็นอย่างนั้นเลย คือ มีเหตุปัจจัยที่จะให้เกิดขึ้นเป็นไปหลังปฏิสนธิเกิดแล้วต้องเป็นไป แต่ว่าไม่ได้กลับมาอีกเลยสักขณะเดียว

ถ้ารู้จริงๆ ว่าเราติดข้องในสิ่งที่ปรากฏ เพราะไม่รู้ความจริง ซึ่งหมดแล้วไม่กลับมาอีก ผู้ที่รู้อย่างนั้นจริงๆ จะติดข้องในสิ่งที่เพียงปรากฏแล้วหมดไปไหม เพราะยังไม่รู้จริง ก็ยังคงติดข้องอยู่ เพราะฉะนั้น กว่าจะรู้ว่ามีธาตุรู้ ซึ่งต่างกับสิ่งที่ปรากฏ และ ถ้าไม่มีธาตุรู้เลย สัตว์ บุคคล ไม่มี มีแต่รูปธาตุ แต่เพราะเห็นว่ามีธาตุรู้ ที่เห็น ที่ได้ยิน ที่จำ ที่คิดนึก ที่สุข ที่ทุกข์เกิดขึ้น โดยใครก็ยับยั้งไม่ได้ เปลี่ยนแปลงสภาพที่เกิดแล้วให้เป็นอย่างอื่นก็ไม่ได้

เพราะไม่รู้จึงเป็นเราตลอด ตั้งแต่เกิดจนตาย แต่ก็จะเป็นอยู่เฉพาะในชาตินี้ จะเป็นเราชาติหน้า เป็นคนนี้อีกต่อไปได้ไหม ไม่ได้ เปลี่ยนหมดเลยเหมือนชาติก่อน เป็นใครมาแล้ว ก็ไม่ทราบ เห็นอะไรมาแล้ว สุขทุกข์กับเรื่องราวต่างๆ เท่าไหร่ ก็ไม่ทราบ เป็นกรรมกร เป็นพระราชา เป็นพ่อค้าคฤหบดี เป็นหญิง เป็นชายเป็นอะไร ก็ไม่รู้เรื่อง จำไม่ได้หมดเลย แต่ก็ต้องเป็นตามเหตุตามปัจจัย และก็จบเป็นแต่ละชาติ ชาตินี้ใกล้จะจบหรือยัง มีคนตอบว่ายัง หรือไม่รู้ ไม่มีใครสามารถที่จะรู้ได้ เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น แต่ว่าการที่สามารถที่จะรู้ความจริง ในหลายๆ ชาติ ในแสนโกฏิกัปป์ที่จะได้ยินได้ฟังอีก ได้เข้าใจสภาพธรรมที่ปรากฏอีก แสนยาก เพราไม่รู้ว่าต่อไป เพียงแค่ขณะต่อไปนี้จะเป็นอะไร

@ ธรรมไม่ใช่เรา เป็นสิ่งที่เพียงปรากฏ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
มังกรทอง
วันที่ 13 ธ.ค. 2568

แต่ละคำองค์พระศาสดา จักศึกษาจนเข้าใจ หนักแน่นไม่หวั่นไหว ด้วยเข้าใจในอนัตตา กราบอาจารย์สุจินต์ให้ เมตตาได้ทุกเวลา อีกเปี่ยมความกรุณา น้อมศรัทธาอาจารย์เทอญ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ