คุณค่าของปัญญา

 
เมตตา
วันที่  20 เม.ย. 2568
หมายเลข  49798
อ่าน  251

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 81

ข้อความบางตอนจาก ...

อรรถกถานัตถิปุตตสมสูตร

ความรักเสมอด้วยตนไม่มี

ทรัพย์เสมอด้วยข้าวเปลือกไม่มี

แสงสว่างเสมอด้วยปัญญาไม่มี

ฝนเท่านั้นเป็นสระ อันยอดเยี่ยม ดังนี้.ชื่อว่าแสงสว่างเสมอด้วยปัญญาย่อมไม่มี ถึงแม้จะเป็นดวงอาทิตย์เป็นต้น ก็ย่อม ส่องแสงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือ ย่อมกำจัดความมืดอันเป็นปัจจุบันเท่านั้น. ส่วนปัญญาย่อมสามารถเพื่อทำโลกธาตุตั้งหมื่นให้เป็นแสงสว่างอันประเสริฐ หาสิ่งอื่น เสมอมิได้ ทั้งย่อมกำจัดความมืด (อวิชชา)


[เล่มที่ 38] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต เล่ม ๕ - หน้าที่ 308

ข้อความบางตอนจาก

วัชชิยสูตร

เราไม่กล่าวการเริ่มตั้งความเพียรทั้งหมดว่า ควรเริ่มตั้งความเพียร

เราไม่กล่าวการเริ่มตั้งความเพียรทั้งหมดว่า ไม่ควรเริ่มตั้งความเพียร

เมื่อบุคคลเริ่มตั้งความเพียรอันใดอยู่ อกุศลธรรมทั้งหลายย่อมเจริญยิ่ง กุศลธรรมทั้งหลายย่อมเสื่อมไป เรากล่าวการเริ่มตั้งความเพียรเห็นปานนั้นว่า ไม่ควรเริ่มตั้ง เมื่อบุคคลเริ่มตั้งความเพียรอันใดอยู่ อกุศลธรรมทั้งหลายย่อมเสื่อมไป กุศลธรรมทั้งหลายย่อมเจริญยิ่ง เรากล่าวการเริ่มตั้งความเพียรเห็นปานนั้น ว่าควรเริ่มตั้ง


อ.อรรณพ: ก็ เห็นคุณค่าของปัญญา ที่ท่านอาจารย์กล่าวเมื่อสักครู่กับ อ.ชุมพร แล้วก็ระลึกถึง ปัญญา กับโลภะ ก็มีข้อความใน จริยาปิฎก ที่เห็นคุณค่าของปัญญา มากๆ ก็ต้องกราบเท้าท่านอาจารย์ให้ความอนุเคราะห็ กล่าวอีกๆ ๆ ๆ พวกเราก็จะได้ ขณะนี้ จะได้ค่อยๆ เข้าใจ ย่ำๆ ๆ ๆ ๆ ความเข้าใจ ปรารถแล้วปรารถอีก ที่จะปรุงแต่งให้ความเข้าใจ และกุศลธรรมทั้งหลายขยับไ ป

มีข้อความใน จริยาปิฎกว่า ปัญญาเป็นปฏิปักษ์ของโลภะ เป็นต้น เพราะทำความมืดมนแก่โลภะ เป็นต้น และ เพราะทำความไม่มืดมนแก่ญาณ

กราบเท้าท่านอาจารย์ครับ คุณค่าของปัญญาตรงนี้ ความละเอียดเป็นอย่างไรครับ

ท่านอาจารย์: มืดจนโลภะเกิดไม่ได้

อ.อรรณพ: หมายความว่าอย่างไรครับ?

ท่านอาจารย์: ธรรมดา โลภะ เกิดได้ตลอดหมด

อ.อรรณพ: ใช่ครับ

ท่านอาจารย์: แต่ ขณะนั้นที่ปัญญาเกิด มืดสำหรับโลภะที่จะเกิด มืดจนโลภะเกิดไม่ได้ เพราะ ความจริงของปัญญา ทำให้โลภะมืดจนเกิดไม่ได้

อ.อรรณพ: เป็นอนุภาพของปัญญามากเลย กระทำความมืดมนแก่โลภะ เพราะว่า โลภะมืด เลยไม่รู้จะเกิดอย่างไร เข้าใกล้ไม่ได้

ท่านอาจารย์: หาทางเกิดไม่ได้เลย มืดมาก เพราะฉะนั้น เป็นคนละทางคนละโลก ปัญญาสว่าง แต่โลภะมืด ความมืดของโลภะทำให้โลภะทำไปได้ตามความมืด แต่พอเจอความสว่าง ไม่มืด โลภะเกิดไม่ได้

อ.อรรณพ: ครับ ท่านอาจารย์กล่าวลึกมากเลย เพราะว่า โลภะ เขาจะทำหน้าที่ด้วยความมืดของอวิชชา เพราะเกิดอวิชชา เมื่ออวิชชาปรุงแต่งเป็นเหตุให้เขาเกิด เขาก็ทำกิจติดข้องในความมืดนั่นครับ ติดข้องในความมืด สร้างใหญ่เลย ก่อใหญ่เลยในความมืด

แต่ ปัญญา เป็นสภาพที่สว่าง เพราะฉะนั้น เมื่อสว่างไม่มีโมหะ อโมหะ ลึกซึ้งมากเลยครับ อโมหะเกิดเป็นความสว่าง ทีนี้ โลภะก็เลยไม่สามารภอาศัยความมืดของโมหะทำหน้าที่ได้

เพราะฉะนั้น ก็เป็นสำนวนโวหารของท่านว่า ปัญญาทำความมืดมนกับโลภะ เพราะโลภะเคยอาศัยความมืดของอวิชชาทำงาน แต่ว่า เมื่อมีปัญญาที่สว่าง โลภะก็เลยไปไม่ได้ ไปไม่เป็นครับ กราบเท้าดีที่สุดเลยที่ได้กราบเรียนท่านอาจารย์

ขอเชิญอ่านเพิ่มได้ที่..

คุณค่าของปัญญา

ปรารถแล้วปรารถอีก​ [ธรรมสังคณี] ​

แสงสว่างอย่างที่สุด

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ

กราบยินดีในกุศลจิตของ อ.อรรณพ ด้วยความเคารพค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
swanjariya
วันที่ 22 เม.ย. 2568

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ขอบพระคุณและยินดียิ่งในกุศลทุกประการค่ะน้องเมตตา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
มังกรทอง
วันที่ 22 เม.ย. 2568

ธรรมมีมานัสพร้อม รับฟัง อันเกิดกุศลดัง ธาตุรู้ จิตเจตสิกเป็นพลัง เสริมส่ง หนุนแฮ กราบอาจารย์สุจินต์ผู้ เปี่ยมด้วยเมตตา

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 22 เม.ย. 2568

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
swanjariya
วันที่ 25 เม.ย. 2568

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

กราบขอบพระคุณและยินดียิ่งในกุศลของท่านอาจารย์อรรณพค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ