ณ กาลครั้งหนึ่ง (สด) จากประเทศเวียดนาม ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [วันที่ ๒ ดาลัด]

 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่  14 พ.ค. 2558
หมายเลข  26538
อ่าน  2,088

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

.........

สนทนาธรรมที่ K'Lan Eco Resort ดาลัด วันแรก

(๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘)

เข้าใจมากขึ้นๆ "ไม่ใช่คำ" แต่ "เข้าใจลักษณะ" โดยตรง เป็นขณะเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่ขณะอื่น !!!

สิ่งที่ปรากฏ คือ อะไร?

ตอบ เห็น ได้ยิน

ท่านอาจารย์ ดับไปแล้ว สิ่งที่เหลือ คือ สิ่งที่กำลังปรากฎ เดี๋ยวนี้ !!!

ซาร่าห์ เมื่อเห็น เหมือนกับเราเห็นคน ต้นไม้ แต่จริงๆ เป็นสิ่งที่เพียงปรากฏทางตา ปรากฏ "เสียง" ก็เช่นกัน ที่เป็นอย่างนี้ เพราะเรายึดถือสิ่งที่ปรากฏเป็นเรา "ไม่ใช่เรา" ที่ "เห็น"

ก่อนที่จะรู้ว่าเป็นคน ต้อง "เห็น" หลายขณะ ระหว่างเห็น ได้ยิน ต้องมีคิดนึก เมื่อคิด คิดด้วยอวิชชา โลภะ หรือ โทสะ? ส่วนใหญ่คิดด้วย "ความไม่รู้" ไม่รู้ว่า เห็นเพียงสิ่งที่ปรากฏทางตา เราอ่านเรื่องวิถีจิตว่า จิตเป็นจิต ไม่ใช่เรา จุดประสงค์ของการศึกษา คือ ให้รู้ว่า ไม่ใช่ตัวตน สัตว์ บุคคล

ถาม 2. โทสะเกิดพร้อมโทมนัสเวทนา ไม่สามารถแยกโทมนัสและโสมนัสเวทนาได้ ขอความกรุณาอธิบาย เวทนาเจตสิก 2 อย่างได้ไหม?

ท่านอาจารย์ เกิดคนละขณะ และ ไม่ใช่เรา

ซาร่าห์ สิ่งที่ปรากฏให้เห็นไม่ใช่เรา

ท่านอาจารย์รารู้ว่า คนนี้ คนนั้น เพราะอะไร? เพราะ "คิด" ไม่ใช่คุณ

ซาร่าห์ เพราะเหตุปัจจัยต่างกัน ไม่ใช่ คุณคิด ไม่ใช่เราเราคิด "ไม่ใช่เรา"

จอน จิตเกิดดับรวดเร็ว เช่นเดียวกับเจตสิก ที่เราคิดเกิดว่าพร้อมกันเพราะความรวดเร็ว เมื่อเจริญสติ ไม่ได้มีสติตลอดเวลา แต่มีธรรมะเกิดดับสืบต่อตลอดเวลา

ท่านอาจารย์ ทุกคนที่ยังมีกิเลส กิเลสสามารถเกิดได้ตลอดเวลา

พระภิกษุ เมื่อกิน รู้ว่ามีขณะต่างกัน อาหารก็ต่างกัน อย่างนี้ถูกไหม? จิตที่รู้รสมะม่วง ต่างกับจิตที่รู้รสขนุน

ท่านอาจารย์ คนละขณะ เป็นธรรมะที่ปรากฏตามความเป็นจริง

พระภิกษุ ทุกขณะที่คิด เป็นสัมมาทิฏฐิหรือไม่?

ท่านอาจารย์ ถ้าไม่รู้เดี๋ยวนี้ ก็ยังไม่ใช่ !!! เพียงคิดเรื่องราว ขณะที่ไม่รู้ โลภะทำให้อยากรู้ว่า นี่เรียกว่าอะไร?

ซาร่าห์ เห็นเป็นธรรมะ

จอน เมื่อพูดถึงเห็น ชอบ ไม่ชอบ เราหมายถึงเราชอบ เราไม่ชอบ เพราะไม่เข้าใจสภาพจิตในขณะนั้น เพราะเราไม่ใส่ใจจิตที่เปลี่ยนไป เราไม่เข้าใจสภาพจิตและธรรมะ ไม่เข้าใจสติและปัจจัยให้เกิดสติ

ท่านอาจารย์ สติ คือ อะไร? ไม่ใช่สติคืออะไร? ถ้าไม่ใช่ธรรมะเดี๋ยวนี้ ยังไม่มีปัจจัยพอให้สติเกิด สัมมาสติ ไม่ได้เกิดด้วยความตั้งใจ แต่เพราะเหตุปัจจัยที่เหมาะสม เช่น ถ้าไม่เข้าใจเห็นเดี๋ยวนี้ ก็ไม่สามารถระลึกได้ ไม่ได้หมายความว่าอ่านเรื่องสัมมาสติมากขึ้น แล้วสัมมาสติจะเกิดได้ ไม่ใช่เราหรือใคร จะควบคุมให้สัมมาสติเกิดได้ตลอดเวลา

ซาร่าห์ ต้องเข้าใจให้ชัดระหว่าง ปรมัตถ์และบัญญัติ เห็นสิ่งที่เพียงปรากฏ ไม่ใช่ คน ต้นไม้ "ได้ยิน" เพียงได้ยิน "เสียง" ไม่ใช่ "เสียงพูด" นั่นคือ "คิด" ที่จริงมีเพียงเห็น...ได้ยิน ... แล้วคิด.. เมื่อเจริญสติต้องเข้าใจความแตกต่างระหว่างปมัตถ์และบัญญัติ ถ้ายังไม่เข้าใจ สติเกิดไม่ได้ เมื่อรู้รสมะม่วง หรือไม่ว่ารสอะไร นั้นคือ"คิด" ไม่ใช่ "ระลึก"

พระภิกษุ เราควรหยุดคิด ระหว่างลิ้มรสหรือไม่?

ท่านอาจารย์ เราควรได้หรือ? พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนให้ละคลาย เมื่อได้ยิน สัมมาสติ ปัญญา สติ ยังไม่เข้าใจสัมมาสติ แต่เป็นปัจจัยให้ติดข้อง ที่จะมีปัญญา โดยไม่รู้ว่า สัมมาสติสามารถเกิดได้เดี๋ยวนี้ ถ้าเข้าใจพอ ทางลัดให้เกิดสติไม่ใช่คำสอนของ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะ เรา ไม่สามารถเข้าใจเดี๋ยวนี้ ต้องเป็นปัญญา ถ้าไม่ได้ฟังคำของ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ไม่สามารถเข้าใจอนัตตาได้

ถ้าเข้าใจ 1 คำ ก็สามารถเข้าใจคำอื่นได้ เช่น ธรรมะ มีธรรมะ เดี๋ยวนี้ไหม? อยู่ในหนังสือ? หรือเพียงคำ? แต่เป็นความจริงที่ปรากฏเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่มีเหตุปัจจัย จะไม่มีอะไรเกิดเลย

ซาร่าห์ สิ่งที่เกิดปรากฏเดี๋ยวนี้ เป็นธรรมะที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ที่เรียกว่ามะม่วง เป็นปัจจัยต่างกัน ที่คิดว่าเราจะหยุดคิด ขณะติดข้องมากขึ้น เช่น อยากมีสติ เพราะติดข้องอยากให้ตัวเองมีมากขึ้น ต้องเป็นการละคลาย ไม่ใช่ติดข้องมากขึ้น ไม่ใช่พยายามทำอะไร โดยไม่เข้าใจ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงเรื่อง "เห็น" สิ่งที่ถูกเห็น ไม่ใช่ภิกษุหรือคฤหัสถ์ ทั้งหมดเป็นสภาพธรรมที่เกิดปรากฏเพราะเหตุปัจจัย "ไม่ใช่เรา"

ถาม ขณะเห็น คิดรูปร่างสัญฐาน ทำไมจึงเป็นอกุศล?

ท่านอาจารย์ มี "คำ" มาก ที่ยังไม่เข้าใจ "คำเดียว" ของ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า "ลึกซึ้ง" ใครคิดว่าง่าย คนนั้นประมาท!!! เป็นคำสอนของผู้ตรัสรู้หรือไม่? เข้าใจพระคุณของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือไม่? ได้ยินคำว่า "เห็น" กี่ครั้ง? ตอนนี้ก็กำลังเห็น แต่ก็ยังไม่เข้าใจ!! เห็นความห่างไกลของปัญญาหรือยัง?

ก่อนฟังพระธรรม เข้าใจคำว่า "ธรรมะ" หรือไม่? เมื่อถามว่า ธรรมะ คือ อะไร? มีคนตอบได้ กี่คน? และ เข้าใจจริงๆ หรือไม่? ธรรมะ คือ อะไร?

ตอบ ความจริง

ท่านอาจารย์ ตอบอย่างเดียว?

ตอบ แข็ง

ท่านอาจารย์ ขณะ "แข็ง" กำลังปรากฏ รู้ไหม?

ตอบ ไม่

ท่านอาจารย์ เห็นไหมว่า ลึกซึ้ง แม้คำเดียว ก็ยังไม่เข้าใจ ขณะที่ "แข็ง" กำลังปรากฏ ขณะนั้นเป็นอย่างไร?

จากการฟังคำสอน ทำให้รู้ว่า ความไม่รู้ มากแค่ไหน? สามารถมีสัมมาสติ โดยไม่เข้าใจธรรมะทั้งหมด ได้ไหม? ถ้าคิดว่า "นั่ง" แล้วจะรู้สิ่งที่กำลังปรากฏ เป็นไปไม่ได้!!! เข้าใจจริงๆ ว่า ขณะนี้ มีสิ่งที่กำลังปรากฏ ไม่ต้องเรียกธรรมะก็ได้ นั่นคือจุดเริ่มเข้าใจ ไม่ใช่เรา พยายาม ไม่ใช่เราที่ฟัง ไม่ใช่เลือกด้วย เพราะมีเราตลอดเวลา

ซาร่าห์ เห็นเพียงเห็นสิ่งที่เห็นได้ ไม่ใช่เห็นรูปร่างสัณฐาน สัญญาจำ เช่น จำรสมะม่วงได้

ทาม ยากที่อาจารย์ให้ศึกษาทีละคำ แต่บอกว่าไม่ให้คิดมาก

ท่านอาจารย์ เป็นวิธีของแต่ละคน เช่น คำว่า "ธรรมะ" คิดเองหรือเปล่า? หรือ "สิ่งที่ปรากฏ" คิดเองหรือเปล่า? เป็น "ธรรมะ" ไม่ว่าจะพูดในภาษาอะไร ลองหลับตา เห็น "สี" หรือไม่? แต่ขณะเห็น ไม่เข้าใจเห็นและสิ่งที่ถูกเห็น ถ้าไม่เข้าใจคำสอน ยังไม่ใช่เห็นในขณะที่เห็น ก่อนนี้ ยึดถือสิ่งที่เห็นเป็นคน เพราะไม่รู้ เพราะติดข้อง เห็นก็ติดข้องทันที ก่อนที่จะรู้ว่าเป็นอะไร

ผัสสะ สามารถเกิดกับโลกุตตรจิตได้ กับโลภมูลจิตได้ ไม่ต้องรีบมีสติ อย่าคิดว่าคำสอนง่ายมาก แม้แต่ "คำเดียว" ก็ต้องเข้าใจจริงๆ เห็นดับไป แล้วหายไปไหน? ถ้าไม่มีรูปที่สามารถเห็นได้ เพียงเห็นก็เป็นธรรมะ ถ้าไม่ศึกษาให้เข้าใจว่าไม่มีเรา มีแต่สภาพธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่มีใคร มีแต่ "ความเข้าใจถูก" สะสม "ความเข้าใจถูก" ทีละนิด เดี๋ยวนี้!!!

ถาม อธิบายวิธีเจริญสติ

ท่านอาจารย์ ใครเจริญ? "เรา" เจริญไม่ได้ ต้องฟังวาจาสัจจะ ของผู้ตรัสรู้ จากพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่จากใครก็ได้!!

ซาร่าห์ ศึกษาเพิ่มขึ้น ต้องเข้าใจคำว่า "ศึกษา" พระโสดาบันต้องศึกษา พระอรหันต์ไม่ต้องศึกษา ศึกษา หมายถึง ระลึกรู้ขณะนี้ เราอาจอ่านหนังสือว่า จิตคืออะไร พูดถึงจิตติดข้อง แต่ "ศึกษา" ต้องเป็น "ขณะที่กำลังปรากฏ" ที่อ่านหนังสือ เพื่อเข้าใจธรรมะเพิ่มขึ้น ต้อง "ตรง" ที่จะรู้ว่า ศึกษาหรือยัง?

ท่านอาจารย์ ถ้ามีคนพูดว่ามีสัมมาสติเดี๋ยวนี้ เป็นไปได้ไหม? เราต้องพูดถึงธรรมะมากขึ้น

ทาม ถ้ามีจักขุปสาทก็สามารถมีจักขุวิญญาณได้ใช่ไหม?

ท่านอาจารย์ คิด ใช่ไหม?

จอน ต้องพิจารณาบ่อยๆ เนืองๆ เป็นปัจจัยให้สติเกิด

ท่านอาจารย์ ต้องเข้าใจเหตุที่ทำให้สัมมาสติเกิด

ถาม อธิบายสติที่เกิดไม่พร้อมปัญญา กับเกิดพร้อมปัญญา

ซาร่าห์ สติเป็นโสภณเจตสิก เกิดกับกุศลทั้งหมด เมตตากับเพื่อน ไม่เกิดกับปัญญาก็ได้ ปัญญาเกิดกับจิตบางดวง เมื่อมีปัญญาต้องมีสติ เมื่อเจริญภาวนาต้องมีปัญญา เช่น รู้ลักษณะสภาพธรรมที่กำลังปรากฏต้องมีปัญญา สมถะ ต้องมีปัญญาด้วย เช่น ระลึกถึงความตายว่าเกิดเมื่อไรก็ได้ แม้ขณะสนทนาธรรม ก็เป็นปัญญา สติและปัญญามีระดับต่างๆ กัน

ท่านอาจารย์ ตอนนี้มีสติไหม?

ตอบ ไม่รู้

ท่านอาจารย์ ถูก เพราะยังไม่ใช่สติปัฏฐาน

ซาร่าห์ ยังไม่เข้าใจพอที่จะเกิดสัมมาสติ บางคนคิดว่าสติเกิดตลอดเวลา เป็นไปไม่ได้

ท่านอาจารย์ มีปัญญา 3 ระดับ สัจญาณ มีศรัทธาในคำสอนของ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละคำ เพราะเป็นความจริง เช่น เห็นเป็นเห็น ไม่ใช่เรา มั่นคงพอหรือยัง? ถ้าพอ เป็นปัจจัยให้เกิดปัญญาต่อไป รู้ด้วยตัวเอง เข้าใจเห็นว่าเป็นเห็น ทีละเล็ก ทีละน้อย จนเป็นปัจจัยให้รู้ตรงตามที่ได้ฟังมา ตามเหตุปัจจัย ไม่ใช่เรา

ถาม สติเกิดตอนนี้ได้ไหม? ถ้าฟังอย่างตั้งใจ

ท่านอาจารย์ ไม่ใช่คุณ!! แต่เป็นสติและปัญญา ที่ทำกิจระลึกรู้

ทาม เมื่อยังไม่มีปัญญาก็ยังสงสัย

ท่านอาจารย์ ธรรมะต้อง "ตรง"

ซาร่าห์ ไม่ว่าจะสงสัย สติและปัญญาก็รู้ได้

...ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ K'Lan Eco Resort ดาลัด เวียดนาม...

๑๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘

.........

...ตอนนี้ก็กำลังเห็น แต่ก็ยังไม่เข้าใจ !!

เห็นความห่างไกลของปัญญาหรือยัง?

(ภาพถ่ายโดยคุณนภา จันทรางศุ ขออนุโมทนาครับ)

กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขออนุโมทนาในกุศลศรัทธาของสมาชิกชมรม บ้านธัมมะเวียดนาม ทุกท่าน

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาพี่แดง (พลอากาศตรีหญิง กาญจนา เชื้อทอง)

สำหรับข้อความการสนทนาธรรม ที่ถอดความสดขณะฟัง มาให้ประกอบเรื่อง ครับ

และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน ครับ


ท่านสามารถคลิกอ่านกระทู้ทั้งหมดในครั้งนี้ ตามลิงก์แต่ละหัวข้อด้านล่าง :

- ณ กาลครั้งหนึ่ง (สด) จากประเทศเวียดนาม ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [วันที่ ๑]

- ณ กาลครั้งหนึ่ง (สด) จากประเทศเวียดนาม ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [วันที่ ๒]

- ณ กาลครั้งหนึ่ง (สด) จากประเทศเวียดนาม ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [วันที่ ๓]

- ณ กาลครั้งหนึ่ง (สด) จากประเทศเวียดนาม ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [วันที่ ๔]

- ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ ประเทศเวียดนาม ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [วันที่ ๕ ดาลัด]

- ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ ประเทศเวียดนาม ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [วันที่ ๖ ดาลัด]

- ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ ประเทศเวียดนาม ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [วันที่ ๗ ดาลัด]

- ท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เยี่ยมไข้ผู้ป่วยหนักชาวเวียดนาม ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๘

- อันเนื่องมาจากการเดินทางไปเยี่ยมไข้ผู้ป่วยหนักชาวเวียดนาม ของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

- ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เดินทางไปร่วมในพิธีศพสมาชิกชมรมบ้านธัมมะเวียดนาม

- ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ ประเทศเวียดนาม ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [วันที่ ๘ ดาลัด-ญาจาง]

- ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ ประเทศเวียดนาม ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [วันที่ ๙ ญาจาง]

- ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ ประเทศเวียดนาม ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [วันที่ ๑๐ ญาจาง]

- ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ ประเทศเวียดนาม ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [วันที่ ๑๑ ญาจาง]

- ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ ประเทศเวียดนาม ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [วันที่ ๑๒ ญาจาง]

- ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ ประเทศเวียดนาม ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [วันที่ ๑๓ ญาจาง พักผ่อนและสนทนาธรรมก่อนกลับ]


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
Boonyavee
วันที่ 14 พ.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ขอกราบอนุโมทนาในกุศลวิริยะ ของคุณวัยชัย ภู่งามและทุกๆ ท่าน เป็นอย่างยิ่งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
tanrat
วันที่ 15 พ.ค. 2558

กราบอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
kanchana.c
วันที่ 15 พ.ค. 2558

เจตนาที่พิมพ์ในขณะฟัง เพื่อให้คนนั่งใกล้ๆ เข้าใจด้วย บางครั้งไม่เข้าใจภาษาอังกฤษบางคำ ต้องข้ามไป และบางครั้งพิมพ์ผิด พิมพ์ไม่ทันบ้าง พยายามสรุปใจความสำคัญ อาจจะไม่สมบูรณ์เหมือนแปลภายหลัง และไม่คิดว่าจะนำไปลงทันที เลยไม่ได้ตรวจทานก่อน ต้องขออภัยที่ต้องขอแก้ไขหลังคุณวันชัยลงกระทู้แล้ว เพราะของคุณวันชัยเป็นกระทู้สด ต้องทันเหตุการณ์ กระทู้แห้งอาศัยกระทู้สดจึงพ่วงไปด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
small
วันที่ 15 พ.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เมตตา
วันที่ 15 พ.ค. 2558

กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขออนุโมทนาในกุศลศรัทธาของสมาชิกชมรม บ้านธัมมะเวียดนาม ทุกท่าน

กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของพี่แดง และคุณวันชัยที่ทำให้เราที่อยู่ที่เมืองไทยเหมือนได้ไปฟังธรรมอยู่ที่เวียดนาม และขออนุโมทนาในกุศลจิตของน้องนภา จันทรางศุ และของทุกๆ ท่าน ด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
siraya
วันที่ 15 พ.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 15 พ.ค. 2558

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
j.jim
วันที่ 15 พ.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Tommy9
วันที่ 15 พ.ค. 2558

กราบอนุโมทนาในกุศลจิตครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
pat_jesty
วันที่ 16 พ.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
wannee.s
วันที่ 16 พ.ค. 2558

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 16 พ.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
pornchai
วันที่ 19 พ.ค. 2558

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
napachant
วันที่ 26 พ.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
napachant
วันที่ 26 พ.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ