ถ้าเราแต่งงานแล้ว แต่ยังพูดคุยกับผู้หญิง/ผู้ชายคนอื่นๆ อยู่ในเชิงชู้สาว
แต่ไม่ถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์ ถือว่าเป็นการล่วงอกุศลกรรมบถหรือไม่
การพิจาณาว่าล่วงศีลหรือกรรมบถหรือไม่ล่วงอยู่ที่การครบองค์ ตัวอย่างศีลข้อที่ ๓ มีองค์ ดังนี้
พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 549 กาเมสุมิจฉาจารนั้น มีองค์ประกอบ ๔ อย่าง คือ
เป็นบุคคลต้องห้าม ๑ จิตคิดจะเสพในบุคคลต้องห้ามนั้น ๑ การประกอบการเสพ ๑ การยังมรรคให้ดำเนินไปในมรรคหรือหยุดอยู่ ๑
พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๑ -หน้าที่ 291 ๑. อคมนียวัตถุ (วัตถุที่ไม่ควรเกี่ยวข้อง) ๒. ตสมึ เสวนจิตตํ (มีจิตคิดเสพในอคมนียวัตถุนั้น) ๓. เสวนปฺปโยโค (พยายามเสพ)
๔. มคฺเคน มคฺคปฏิปตฺติอธิวาสนํ (การยังมรรคให้ถึงมรรค)
สรุป คือ ถ้าไม่ถึงกับมีเพศสัมพันธ์ก็ไม่ล่วงกรรมบถ แต่ก็ไม่ควรกระทำ ควรซื่อสัตย์ต่อคู่ครอง
ถึงแม้ไม่ล่วงกรรมบท แต่จิตที่เป็นอกุศลนั้นก็จะสะสมสืบต่อจนเป็นอุปนิสัย และเมื่อมีกำลังมากขึ้น ก็ย่อมก้าวล่วงออกมาทางกายวาจาได้ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ไม่ควรประมาทกับกิเลสนะคะ เคยเห็นตะกรันในกาต้มน้ำมั้ยค่ะ ยิ่งหนาก็ยิ่งขัดออกยากใช่มั้ยค่ะ เช่นเดียวกับกิเลสค่ะ ควรเริ่มขัดเกลาเสียตั้งแต่วันนี้ เพราะพรุ่งนี้อาจจะไม่ได้อยู่ดูโลกก็ได้นะคะ...ใครจะรู้ ? ไม่ควรเห็นแก่ความสุขเฉพาะหน้าเพียงเล็กๆ น้อยๆ นะคะ เพราะว่ามีความสุขที่ประณีตงดงามเหนือชั้นกว่ารอท่านอยู่...
อย่าเลย ไม่ดีหรอก ประมาทกิเลสไม่ได้ ถ้ามีแฟนอยู่แล้วก็ไม่ควร ยุ่งเกี่ยวกัน ให้ความหวังกัน เพราะนั่นจะเป็นจุดเริ่มไปสู่การล่วงศีลได้ครับ ไม่ควรประมาทกิเลสแม้มีประมาณน้อยครับไม่ควรแม้เริ่มต้น ควรมีหิริ โอตตัปปะครับ ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ถ้าพูดกัน ติดต่อกัน ก็จะเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยง หรือพูดความจริงว่ามีแฟน เพื่อประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ไม่เริ่ม ดีกว่าเริ่มในทางผิดครับ
เป็นการสะสมโลภะค่ะ อาจกำเริบออกมาเป็นอกุศลกรรมได้ในวันหนึ่ง
และเมื่อไม่ได้อย่างที่หวังก็จะเกิดโทสะได้ง่าย
แต่สามารถคบกันเป็นเพื่อนได้ เพราะเมตตาไม่จำกัดว่าเป็นหญิงหรือชายค่ะ
คบกันเป็นเพื่อนได้นานตลอดชีวิต ถ้าคนนั้นเป็นคนดีมีคุณธรรม แต่แฟนบางที
คบกันไม่นานก็เลิกกันไป ไม่ยั่งยืนเหมือนเพื่อน และในชีวิตเพื่อนที่ดีหาได้ยาก
ถ้าเจอแล้วก็ให้รักษามิตรภาพนั้นไว้นาน ๆ เพราะเพื่อนที่ดีหาได้ยากกว่าสตรีงาม