รูปที่เกิดจากกรรมมี แม้ขณะที่นอนหลับ


    ท่านอาจารย์ กำลังนอนหลับ มีจักขุปสาทเกิดไหม

    ผู้ฟัง กำลังนอนหลับ ถ้าหลับสนิทก็ไม่มี

    ท่านอาจารย์ กรรมเป็นสมุฏฐานให้เกิดรูป เราไม่รู้เลย รูปทั้งตัวที่เป็นปสาทรูป เราไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่กรรมทำให้รูปเกิดพร้อมปฏิสนธิจิต อันนี้ก็จะไม่กล่าวถึงว่ารูปอะไรบ้าง แต่ให้ทราบว่ากรรมทำให้จิต เจตสิก ซึ่งเป็นวิบาก เกิดพร้อมกับรูปซึ่งกรรมทำให้เกิดขึ้น และกรรมจะทำให้รูปเกิดทุกอนุขณะของจิต เพราะว่าจิตหนึ่งขณะจะมี อุปาทขณะ คือขณะที่เกิด ภังคขณะ คือขณะที่ดับ ขณะที่ยังไม่ดับคือฐิติขณะ เพราะฉะนั้นจิตทุกดวงหรือทุกขณะ ไม่ว่าจะในภพไหน ภูมิไหน จิตของใคร แม้จิตของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้

    ปรมัตถธรรมเป็นเรื่องที่มีจริง จากที่ได้ทรงตรัสรู้ว่า ไม่มีใครสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงสภาพธรรมนั้นได้เลย เพราะฉะนั้นกรรมทำให้รูปเกิดทุกอนุขณะ ไม่ว่าจะจิตเกิดที่ไหน เมื่อไหร่ เวลาที่ปฏิสนธิจิตเกิด กรรมก็จะทำให้กัมมชรูป รูปที่เกิดจากกรรม เกิดพร้อมปฏิสนธิ แล้วยังไม่ดับด้วย ต้องมีอายุถึง ๑๗ ขณะจิต ในขณะฐิติขณะของจิตที่เป็นปฏิสนธิ กรรมก็ทำให้กัมมชรูปเกิดอีก และในขณะภังคขณะ กรรมก็ทำให้กัมมชรูปเกิด และแต่ละขณะ แต่ละรูปที่เกิดต่างขณะ จะมีอายุ ๑๗ ขณะจิต เราไม่รู้เลย กำลังนอนหลับ จักขุปสาท ก็มี โสตปสาท ก็มี เพราะกรรมทำให้เกิดขึ้น

    เพราะฉะนั้นเวลาที่ฟังธรรมจะสอดคล้องกัน ถ้าเป็นความเข้าใจที่ละเอียด แล้วก็ไม่ลืมก็จะรู้ว่า ถ้าพูดถึงกัมมชรูป หมายความถึงรูปที่เกิดเพราะกรรมเป็นสมุฏฐาน ไม่ใช่สมุฏฐานอื่นเลย เห็นกำลังของกรรมไหม ทำให้จักขุปสาทรูปเกิดได้ ซึ่งใครก็ทำให้เกิดไม่ได้เลย โสตปสาทรูปก็เกิดเพราะกรรม แต่ว่ารูปที่เกิดแต่ละกลาป แต่ละกลุ่ม จะมีสมุฏฐานต่างๆ กัน รูปที่เกิดเพราะกรรม ไม่ได้เกิดเพราะจิตเป็นสมุฏฐาน ไม่ได้เกิดเพราะอุตุเป็นสมุฏฐาน ไม่ได้เกิดเพราะอาหารเป็นสมุฏฐาน เพราะฉะนั้นถามอีกครั้งหนึ่ง ระหว่างที่เป็นภวังคจิตมีรูปเกิดหรือเปล่า

    ผู้ฟัง มีรูปเกิด

    ท่านอาจารย์ กัมมชรูปทำให้รูปเกิดทุกอนุขณะของจิต จะไม่มีใครลืมอีกแล้วใช่ไหม จะหลับจะตื่น เมื่อไรก็ตาม กรรมทำให้กัมมชรูปเกิดทุกขณะของจิต เว้นไม่กล่าวถึง แต่ว่าจะมี จักขุวิญญาณ หรือจุติจิตของพระอรหันต์ เหล่านี้เรายังไม่กล่าวถึงเลย เพราะว่าการศึกษาธรรม ถ้าจะให้ละเอียด ยึดตั้งแต่ต้นไปก็คงจะลำบาก สำหรับผู้ที่ยังไม่มีพื้นฐาน เพราะฉะนั้นพื้นฐานกว้างๆ ก็จะกล่าวโดยทั่วไป และก็จะค่อยๆ เพิ่มความละเอียดขึ้น ว่าจะเว้นขณะไหนบ้าง ขณะที่หลับสนิทมีรูปเกิด

    ผู้ฟัง โดยทั่วไปมักคิดว่าขณะที่เป็นภวังค์ จะไม่มีอะไรเกิด แต่เมื่อมาฟังแล้วไม่ใช่อย่างนั้น

    ท่านอาจารย์ แต่ต้องมีจิตเกิด มีเจตสิกเกิดทำกิจภวังค์ คนโดยทั่วไปจะคิดว่ากัมมชรูปหรือรูปใดๆ จะมีตอนที่มีการเห็น การได้ยิน แต่จริงๆ ไม่ใช่อย่างนั้น จริงๆ คือคนนั้นก็ยังนอน แล้วก็มีครบทั้งตัว และครบยิ่งกว่า นั่นก็คือ คนตายไม่มีจักขุปสาท โสตปสาท แต่คนเป็นมีจักขุปสาท โสตปสาท ซึ่งรายละเอียดยิ่งกว่านั้นที่ไม่มีใครรู้ ก็คือว่าเราเห็นคนหลับ และเราไม่รู้ว่าเขามีรูปอะไรบ้างที่ตัวของเขา แต่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ว่า แม้ขณะนั้นก็มีรูปที่เกิดเพราะกรรมเป็นสมุฏฐาน ทุกอนุขณะของจิต ยังไม่พูดถึงรูปอื่น เพราะรูปอื่นจะเป็นรูปที่เกิดจากจิตบ้าง เกิดจากอุตุบ้าง เกิดจากอาหารบ้าง แต่ให้เห็นตามความเป็นจริงถึงความละเอียด และยังรู้ว่ารูปที่เกิดแล้ว ที่เป็นสภาวรูปจะมีอายุเท่ากับจิตเกิดดับ ๑๗ ขณะ แล้วก็ดับเร็วแค่ไหน

    ผู้ฟัง จะพูดอย่างนี้ได้ไหมว่า ขณะที่จิตเป็นภวังค์ ทำภวังคกิจ รูปเกิดจากกรรมยังมีอยู่ต่อเนื่อง แต่ว่ารูปที่เกิดจากจิต จากอาหาร จากอุตุนี้จะไม่มี

    ท่านอาจารย์ จะต้องขยายต่อไปว่า จิตตชรูปคือรูปซึ่งเกิดเพราะจิต จะไม่เกิดกับจิตขณะไหนบ้าง คือจิตขณะไหนไม่เป็นสมุฏฐานให้รูปเกิด จิตเห็น จิตได้ยิน จิตได้กลิ่น จิตลิ้มรส จิตรู้สิ่งที่กระทบสัมผัสทางกาย ๑๐ จิตนี้เรียกว่าทวิปัญจวิญญาณ ไม่เป็นสมุฏฐานให้รูปเกิด เพราะฉะนั้นขณะที่กำลังหลับ ไม่ใช่จิต ๑๐ ประเภทนี้ มีรูปซึ่งเกิดเพราะจิตไหม มีจิต ๑๐ ประเภท ที่ไม่เป็นสมมุฏฐานให้เกิดรูป

    การศึกษาธรรม ไม่ต้องห่วงเรื่องจะไปท่อง หรือไม่ต้องห่วงว่าเราจะรู้อะไร ลืมอะไร แต่ขึ้นอยู่กับความเข้าใจ ความเข้าใจซ้ำๆ ทำให้เราเข้าใจสภาพธรรมซึ่งไม่ใช่ตัวตนเลย ทั้งนามธรรม และรูปธรรม


    หมายเลข 2548
    29 ธ.ค. 2567