ธรรมเจดีย์


        ท่านอาจารย์ เจติยะ ที่ควรระลึกถึงด้วยความเคารพ เราถึงได้มีเจดีย์ พอเห็นพระเจดีย์ก็รู้เลยว่า นี่เตือนให้ระลึกถึง ด้วยความเคารพในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ธรรมเจดีย์ ต้องไม่ลืมนะคะ ที่ควรระลึกถึงด้วยความเคารพ ไม่ใช่เพิกเฉย ไม่ฟังไม่รู้ และก็จะเคารพได้ยังไง จะเคารพได้ยังไงในเมื่อไม่รู้ แต่ว่าเมื่อมีความเข้าใจแล้ว เคารพไม่ใช่ด้วยดอกไม้ ธูปเทียน ไปนั่งกราบไหว้ แต่ไม่เข้าใจ แต่ต้องมีความเคารพในความจริง ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดง เพื่อให้บุคคลทั้งหลายที่ไม่สามารถจะเข้าใจได้ สามารถเข้าใจจนรู้แจ้งความจริงได้

        เพราะฉะนั้น เคารพโดยการศึกษาพระธรรม ด้วยความมั่นคง ด้วยความเคารพ ด้วยการไม่คิดเอง ด้วยการไตร่ตรอง ด้วยการสอดคล้อง ทั้งหมดไม่ใช่เรา และก็ความเคารพในธรรม ก็จะนำไปสู่การรู้แจ้งธรรม เพราะเหตุว่าเป็นผู้ที่ระลึกถึงธรรม ด้วยความเคารพ คือ ศึกษา และก็เข้าใจ ไม่ใช่เพียงกราบไหว้บูชา เพราะฉะนั้น ธรรมเจดีย์ทุกครั้งที่ฟัง ด้วยความเคารพที่จะเข้าใจจริงๆ อย่างถูกต้อง

        อ.อรรณพ ที่จะมีการระลึกถึง ด้วยความเคารพในพระธรรมได้ ค่อยเป็นค่อยไปอย่างไร

        ท่านอาจารย์ อย่างพระเจ้าปเสนทิโกศล ไปหาใคร ได้ฟังแล้ว ระลึกถึงธรรมที่ได้ฟังเนืองๆ ด้วยความเคารพ ก็เป็นธรรมเจดีย์

        อ.วิชัย การสะสมอกุศลมามากในแต่ละวัน การที่จะมีธรรมฝ่ายดีงามเกิด ก็เกิดขึ้นยากในแต่ละวัน

        ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้น ธรรมเจดีย์อยู่ไหน

        อ.วิชัย เบื้องต้นก็ต้องเป็นคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่แสดงความเป็นจริง

        ท่านอาจารย์ ก็อยู่นี่ จะไปหาที่ไหน ธรรมอยู่ตรงไหน เข้าใจตรงนั้น ระลึกถึงตรงนั้น เพราะว่า เราฟังเวลาที่เรานั่งอยู่ที่นี่ เราไม่มีเรื่องอื่นจะคิด แต่พอพ้นจากเสียงที่จะทำให้เข้าใจธรรม เรื่องอื่นหมดเลยทั้งวัน เมื่อสักครู่เป็นต้น เรื่องอื่นทั้งนั้น ธรรมเจดีย์อยู่ไหน มีธรรมจริง แต่ไม่ใช่ เจติยะ เพราะเหตุว่า ไม่ได้ระลึกถึงด้วยความเคารพ ด้วยการรู้ว่า ฟังเพื่อเข้าใจ

        เพราะฉะนั้น แม้แต่เพียงจะเริ่มรู้หนทางจริงๆ อย่างมั่นคงว่า อะไรเป็นอะไร ก็มีแต่ชื่อ แล้วก็สนใจว่า ชื่อนี้แปลว่าอะไร แล้วชื่อนี้มีอะไรบ้าง โพธิปักขิยธรรม นำไปสู่การรู้แจ้งสภาพธรรม ไม่พ้นจากธรรมเดี๋ยวนี้เลย แต่ถ้าไม่มีการระลึกถึงจะเป็น เจติยะ ไหม

        อ.วิชัย ก็ไม่เป็น

        ท่านอาจารย์ ไม่เป็นค่ะ ก็ไปนึกถึงเรื่องอื่นหมด เพราะฉะนั้น ก็คือฟัง ไม่ใช่เพียงเข้าใจคำ แต่ว่าเดี๋ยวนี้ ต้องเข้าใจด้วย ถ้าฟังวิทยุเข้าใจก็เป็นที่พึ่ง ระหว่างที่ระลึกถึง กำลังพูดเรื่องอะไร เรื่องเห็นเดี๋ยวนี้ เรื่องได้ยินเดี๋ยวนี้ รู้อะไรก็ไม่พ้นจาก รู้เห็นเดี๋ยวนี้ รู้ได้ยินเดี๋ยวนี้ เพราะฉะนั้น ก็เริ่มรู้ว่า เจติยะ ไม่ได้อยู่ที่อื่น เลยแต่อยู่ที่ธรรมที่มี แต่ระลึกถึง ด้วยความค่อยๆ เข้าใจขึ้น และเป็นผู้ที่ตรง ปัญญาต้องรู้สิ่งที่มี ไม่ใช่สิ่งที่ไปทำให้เกิดขึ้นซึ่งทำไม่ได้ แต่ก็หลงเข้าใจว่าทำได้ แล้วก็ไปนั่งทำแต่สิ่งที่กำลังมี เกิดแล้วไม่รู้

        เพราะฉะนั้น ก็ต้องฟังบ่อยๆ หนทางเดียว คือ เราฟังเรื่องอื่นมามากในสังสารวัฏ จนยากที่คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะเรียกทุกคำให้มาดูเดี๋ยวนี้เห็นเดี๋ยวนี้ ได้ยินเดี๋ยวนี้ คิดเดี๋ยวนี้ เพราะฉะนั้น โอกาสที่จะเป็น เจติยะ ก็ในขณะที่กำลังฟังแล้วเข้าใจ


    หมายเลข 11787
    31 ธ.ค. 2566