สละกิเลสคือไม่รับเงิน


        ก็เป็นเรื่องละเอียด ที่ต้องคิดแล้วคิดอีก ไตร่ตรองแล้ว ไตร่ตรองอีก เพราะเหตุว่า เราเป็นผู้ที่ไม่ได้มีเหตุผลครบถ้วน ถ้าเราไม่ได้ฟังคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะฉะนั้น จริงๆ แล้ว ต้องคิดละเอียด ทำไมเรานับถือพระพุทธศาสนา เพราะว่า ศาสนาอื่นไม่ได้สอนให้เข้าใจความจริง แล้วทุกคนก็รู้ว่าสิ่งที่ไม่ดีมีมาก และสิ่งที่ไม่ดีจะค่อยๆ ลดน้อยลงไปได้อย่างไร ตราบใด ที่ยังเป็นผู้ไม่รู้ความจริง ว่าอะไรถูกอะไรผิด ก็จะต้องประพฤติไป ตามความไม่รู้ คือ เข้าใจว่าสิ่งนั้นสมควร เพราะฉะนั้น ลองพิจารณาไตร่ตรอง ภิกษุ คือ ผู้ที่สละชีวิตคฤหัสถ์สู่เพศบรรพชิต เพื่อศึกษาพระธรรม เพื่อธรรมที่เข้าใจนั่นแหละ จะขัดเกลากิเลส

        เพราะฉะนั้น ภิกษุจะมีเงินมีทอง เพื่ออะไร การที่คฤหัสถ์ฟังธรรม อบรมเจริญปัญญาขัดเกลากิเลสในเพศคฤหัสถ์ได้ เพราะรู้ความจริง กิเลสเป็นความจริง ไม่ใช่เรา เป็นธรรม เกิดขึ้น และดับไป ไม่ว่าจะสะสม ต่างคนต่างมีมากเท่าไหร่ ปัญญาเท่านั้นที่ ที่สามารถ ที่จะรู้ความจริงเข้าใจจนกระทั่งรู้ได้ว่าไม่ใช่เราเลย เมื่อไหร่เป็นพระโสดาบัน แต่ไม่ใช่เพียง แต่การไม่รู้อะไรแล้วไปนั่งสำนักปฏิบัติ นั่นก็ข้อหนึ่ง และอีกอย่างหนึ่ง พระพุทธศาสนาขัดเกลากิเลสได้ เพราะว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ความจริง และรู้ว่าอะไรเป็นกิเลสที่ละเอียด ที่สามารถที่จะนำมาซึ่งกิเลสใหญ่

        เพราะฉะนั้น ผู้ที่จะละกิเลสใช่ไหมจึงบวช ผู้ที่จะขัดเกลากิเลสก็ฟังธรรมเป็นคฤหัสถ์ก็ได้ แต่ถ้าสละเพศคฤหัสถ์สู่เพศบรรพชิต หมายความว่า ผู้นั้นจะสละกิเลสในเพศคฤหัสถ์ เพศคฤหัสถ์มีเงินมีทองมีทรัพย์สินนี่นะคะ คือ เพศคฤหัสถ์ สละเมื่อไหร่ บวชเมื่อไหร่ นั้นเป็นเพศบรรพชิต แต่ต้องสละ เพราะฉะนั้น สละทรัพย์ยังง่ายกว่าสละกิเลส หรือเปล่า เพราะฉะนั้น ก็จะเห็นได้ ว่าต้องเห็นโทษ เห็นภัยของสังสารวัฎ ที่จะดับกิเลสในเพศคฤหัสถ์ เมื่อเพศคฤหัสถ์มีเงินมีทอง อบรมเจริญปัญญา ขัดเกลากิเลสในเพศคฤหัสถ์ รู้แจ้งอริยสัจธรรมได้ ผู้ที่ไม่บวชก็สามารถที่จะเป็นพระอริยะบุคคลได้ แต่ถ้าผู้บวช ไม่ใช่เพียงแค่เป็นพระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี ถึงการดับกิเลส เป็นพระอรหันต์

        เพราะฉะนั้น ผู้ที่คิดจะสละกิเลส แต่รับเงิน สละรึเปล่า ต้องไตร่ตรอง ต้องคิด สละ หรือเปล่า สละ คือ ไม่รับ ตั้งแต่ก่อนบวช สละแล้วเพื่อศึกษาธรรมเพื่อขัดเกลากิเลส แต่พอจะรับ กิเลส หรือเปล่า ขัดเกลา หรือเปล่า เข้าใจธรรม หรือเปล่า ถ้าเข้าใจธรรมจะรับ หรือ เพราะเหตุว่า ศึกษาธรรม และก็บวช เพื่อขัดเกลากิเลส เพราะฉะนั้น การไม่รับเงิน และทองนั้นแหล่ะ ขัดเกลากิเลส แต่ถ้ารับเงินรับทองแล้วขัดเกลา หรือ ขัดเกลา หรือเปล่า รับเงินรับทองเอาไปทำอะไร ยินดีไหม ถ้าไม่ยินดีจะรับไหม รับแล้วเอาไปทำอะไร เหมือนคฤหัสถ์เลย เพราะฉะนั้น จะต่างอะไรกัน สำหรับผู้ที่เป็นภิกษุ กับคฤหัสถ์ ถ้ารับเงิน และทอง


    หมายเลข 11774
    13 ธ.ค. 2566