อยากทันสมัย


        ท่านอาจารย์ เราอาจจะรู้เรื่องอื่นหมดเลย เรื่องโลก เรื่องทันสมัย สมัยนี้มีคอมพิวเตอร์มีอะไรต่างๆ เราเป็นคนเก่งในเรื่องนั้นเรื่องนี้ วิชาการแพทย์ วิชาอะไรทั้งหลาย ซึ่งชาวโลกนิยมชมชื่นว่าเป็นสิ่งที่สุดยอด ใช่มั้ยคะ มากมายเท่าไหร่ก็ไม่พอ ไปได้ถึงนอกโลก แล้วก็จะไปต่อไปอีก แต่ว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นใคร เคยเรียนวิชานี้ไหม วิชาไหนจะเปรียบกับวิชาที่พระองค์ได้ทรงตรัสรู้ เพราะฉะนั้น คนที่เห็น และเข้าใจ และรู้จักโดยการศึกษาเข้าใจคำ ของสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ได้พลอยตื่นเต้นไปด้วยนะคะ กับแต่ละคำที่ชาวโลกใช้ เพราะรู้ว่า คำนั้นไม่ถูกต้อง อย่างเช่น คำว่า ทันสมัย ใครๆ ก็อยากจะทันสมัย คนนั้นคนนี้ไม่ทันสมัย ไม่รู้เรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่ถามว่า สมัย คือ อะไร ใครจะตอบได้ และถามว่า ทันสมัย คือ อะไร ทันสมัยอย่างชาวโลก ทันสมัยจริงรึเปล่า เพราะไม่เคยทันสมัย เข้าใจว่าตัวเองก้าวหน้าล้ำสมัย แต่ก็ไม่รู้ว่า สมัย คือ อะไร และทันสมัย คือ อะไร

        เพราะฉะนั้น แต่ละคำที่พูดตั้งแต่เกิดจนตาย พูดคำที่ไม่รู้จัก แต่คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกคำ ทำให้เข้าใจทุกอย่างตามความเป็นจริง ซึ่งทุกคนปฏิเสธไม่ได้เลย อยากทราบไหมคะ ทันสมัยกันรึเปล่า เพราะฉะนั้น ฟังแล้วไม่ใช่ให้เชื่อ แต่ต้องไตร่ตรองแล้วก็ต้องเป็นความเข้าใจทีละคำ สมัย มาจาก ภาษาบาลี ใช่ไหมคะคุณคำปั่น

        อ.คำปั่น สมย สมัย ก็คือ ช่วงเวลา แต่ละขณะๆ นี้คือ ความหมายของสมย หรือ สมัยครับท่านอาจารย์

        ท่านอาจารย์ แต่ละขณะๆ เพราะฉะนั้น ใครตอบได้ว่าเดี๋ยวนี้ สมัยอะไร หาคำตอบสิคะ คนทันสมัย ไม่มีทางเลย ไม่มีทาง ต้องเป็นคำของสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้นที่ตรงสมัยทุกกาล เพราะฉะนั้น ตอบไม่ได้ใช่ไหม สมัย คือ อะไร คนทันสมัยทั้งหลายเดี๋ยวนี้กำลังนั่งอยู่ที่นี่ ทันสมัยไหน เพราะว่า สมย คือ ทุกขณะจิต ใครรู้ ว่าขณะนี้จิตอะไร ทันไหม จิตกำลังเห็นแล้วก็มีได้ยินด้วย ทันสมัยไหน ทันสมัยเห็น หรือว่าทันสมัยได้ยิน ถ้าไม่มีเห็น ไม่มีได้ยิน จะมีสมัยไหม เพราะฉะนั้น นี่คือ ธรรม คำจริงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น ที่ได้ทรงบำเพ็ญพระบารมีถึงความเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าที่จะตรัสรู้ความจริงถึงที่สุด โดยประการทั้งปวง ไม่มีความจริงของใครคนอื่นใดในโลกทั้งสิ้น ทั้งเทวโลก และพรหมโลกที่สามารถ ที่จะเป็นอย่างที่พระองค์ได้ทรงตรัสรู้แล้ว

        เพราะฉะนั้น แต่ละคำ แม้แต่คำว่าทันสมัย เห็นไหมคะ พูดกันไปเถอะ แต่เข้าใจหรือเปล่า เพราะฉะนั้น กล่าวได้เลยค่ะ ตั้งแต่เกิดจนตาย ถ้าไม่ได้ฟังของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พูดคำที่ไม่รู้จัก แม้แต่สมัย คือ อะไร ทันสมัย คือ อะไร ตามสมัย คือ อะไร รู้สมัย คือ อะไร แค่นี้ค่ะ เริ่มเห็นความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือยัง เพราะฉะนั้น ทุกคำที่ทรงแสดง ๔๕ พรรษา ไม่ใช่คำที่คนอื่นจะรู้ได้เอง พระปัญญาคุณที่ทรงตรัสรู้ ตรัสไว้ เพราะฉะนั้น แต่ละคำมาจากพระปัญญาคุณ ที่ทรงบริสุทธิ์อย่างยิ่ง เพราะเหตุว่า สามารถที่จะละความไม่รู้ และละกิเลสได้หมดสิ้น และสำหรับพระองค์เอง เหนือกว่าบุคคลใดทั้งสิ้น เพราะทรงเป็นพระบรมศาสดา คนอื่นฟังเป็นสาวกผู้ฟัง จะเทียบเท่าได้ไหม เพราะฉะนั้น คำที่ตรัสแต่ละคำ ปัญญาคุณของพระองค์นะคะ ด้วยพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระมหากรุณาคุณ ทุกครั้งที่ตรัส จะทอดพระเนตรลงต่ำ ด้วยพระมหากรุณาต่อคนฟังทุกคำ

        เพราะฉะนั้น คนที่ได้ฟังแล้วประมาทไม่ได้เลย จะรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ใช่พูดถึงเรื่องอะไรทั้งสิ้น แต่พูดคำที่คนอื่นพูดไม่ได้ เพราะว่า แต่ละคำกล่าวถึงความจริงทุกกาลสมัย แม้แต่เดี๋ยวนี้ ก็เป็นคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้วทั้งหมด


    หมายเลข 11720
    22 ม.ค. 2567