ธรรมทายาท


        ท่านอาจารย์ เป็นคนดีโดยไม่บวช ได้ไหม

        อ.กุลวิไล ได้ค่ะ

        ท่านอาจารย์ ศึกษาธรรม เข้าใจธรรม โดยไม่บวชได้ไหม

        อ.กุลวิไล ได้ค่ะ

        ท่านอาจารย์ ผู้ที่เข้าใจอย่างนี้ เคารพอย่างยิ่งในพระศาสนา เพราะรู้ว่า ผู้ที่จะเป็นภิกษุ ต้องสะสมอัธยาศัย พร้อมที่จะศึกษาธรรมขัดเกลากิเลสในเพศบรรพชิต เป็นการเคารพบูชาอย่างยิ่งในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่ว่าเพียงแต่ต้องการจะบวช และคิดว่าบวช เพื่อจะได้เป็นคนดี คนดีโดยไม่ต้องบวชเพราะรู้จักตัวเองตามความเป็นจริง ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่เข้าใจธรรม ศึกษาธรรมเคารพอย่างยิ่งในเพศบรรพชิต ซึ่งต้องเป็นผู้ที่เป็นธรรมทายาท เมื่อตนเองไม่ได้สะสมมา ที่จะขัดเกลากิเลสในเพศบรรพชิต แต่ก็เป็นธรรมทายาทได้ เมื่อเข้าใจพระธรรม ด้วยความเคารพจริงๆ ในเพศภิกษุ ผู้ที่เข้าใจธรรมจึงไม่บวช และไม่สนับสนุนให้มีการบวช โดยที่ว่าอยากจะให้มีคนบวชเยอะๆ แต่ว่าไม่เข้าใจธรรมเลย เพียงแต่ต้องการจำนวนไปเพื่ออะไร

        เพราะฉะนั้น ถ้าจะขัดเกลากิเลสจริงๆ ก็รู้ได้ว่า ถ้าไม่เข้าใจธรรมไม่มีทางเลย ด้วยเหตุนี้ กว่าจะเข้าใจธรรม กว่ากิเลสจะค่อยๆ หมดสิ้นไปได้ ก็ต้องอาศัยความเป็นผู้ที่ตรง และก็จริงใจ จึงมีเพศที่ต่างกันในครั้งพุทธกาล คือ คฤหัสถ์ และบรรพชิต แต่ว่าไม่ใช่ว่าบวชอย่างที่ว่า ผิดจากการที่จะสละ โดยการที่ว่าจะบวชก็ต้องมีพิธี มีขี่ม้า มีอะไรต่ออะไร ทำอะไรต่างๆ แต่ไม่เข้าใจพระธรรม ผู้ที่เคารพอย่างยิ่งในพระธรรมวินัย ก็จะต้องเป็นผู้ที่ขัดเกลากิเลสตามฐานะ ตามการสะสมที่เป็นไปได้ อยากจะเป็นคนดียิ่งกว่านี้ก็ได้ ศึกษาพระธรรมวินัย สิ่งที่พระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดงไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นธรรม หรือวินัย แม้คฤหัสถ์ก็ประพฤติปฏิบัติตามพระวินัยของพระภิกษุได้ในเพศคฤหัสถ์ เพราะเหตุว่า ไม่สามารถที่จะสละอาคารบ้านเรือนได้ ถ้าศึกษาเสขิยะวัฏ คือ ความประพฤติเป็นไปตามปกติในชีวิตประจำวัน มีความเข้าใจว่าอะไรเป็นประโยชน์ อะไรเป็นโทษ ขณะนั้นปัญญาขณะนั้นก็สามารถจะค่อยๆ ขัดเกลากิเลส แม้ไม่ใช่ในเพศบรรพชิต ก็เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง แทนที่จะไปทำลายพระพุทธศาสนา โดยการที่บวชโดยที่ไม่เข้าใจพระธรรม ถ้าบวชโดยไม่เข้าใจพระธรรม หมายความว่ายังไง

        อ.กุลวิไล แต่ก็เห็นชัดนะคะ ท่านอาจารย์ ถ้าไม่เข้าใจพระธรรม ทำลายแน่นอน เพราะฉะนั้น ดูเหมือนว่า ถ้าหากว่าต้องการที่จะดำรงรักษาพระธรรมวินัย มีผู้ที่เข้าใจธรรมมากขึ้น หรือว่าจะมีพวกที่ไม่เข้าใจธรรม แต่มีสัญลักษณ์ค่ะท่านอาจารย์

        ท่านอาจารย์ บวชรับเงิน รับทองทำลายพระพุทธศาสนาหรือเปล่า ถ้าถามว่า บวชแล้วไม่ได้เงิน บวชไหม บวชไหมคะ

        อ.กุลวิไล ต้องถามผู้ที่คิดจะบวช

        ท่านอาจารย์ ถามคนที่จะบวชว่า บวชแล้วไม่ได้เงินนะ รับเงินรับทองไม่ได้นะ จะบวชไหม หรืออีกอย่างนึงก็ถามว่า ถ้าบวชแล้วรับเงิน รับทองได้ จะบวชไหม ทั้ง ๒ คำถามมีคำตอบไหมคะ

        ผู้ฟัง คำถามนี้ มลได้ถามเพื่อนที่ทำงานนะคะ ที่ไปบวชแล้ว มลก็ถามว่าบวชเพื่ออะไร เขาก็บอกว่าเพื่อศึกษาพระธรรม แล้วที่วัดมีรับเงินรับทองไหม เขาก็บอกว่ามี เขาก็จะไม่ฟังเราว่า รับเงิน รับทองผิดพระวินัย

        ท่านอาจารย์ แต่ถ้าจะศึกษาพระธรรม ไม่ต้องบวชสิคะ ถ้าบวชแล้วรับเงินรับทองก็ไม่ใช่ภิกษุในธรรมวินัย ก็ต้องรู้ว่า ผู้ไม่รับเงิน รับทองศึกษาพระธรรมเป็นคฤหัสถ์ แต่ผู้ที่จะบวช และก็รับเงิน รับทองก็ไม่ใช่ภิกษุ ถามก่อนบวช ดีกว่าปล่อยให้บวชไปแล้ว ใช่ไหมคะ ก่อนบวชเลยจะต้องเป็นผู้ที่ตรง ถ้าไม่ศึกษาพระวินัย และไม่ประพฤติตามพระวินัยก็เป็นคฤหัสถ์ ความต่างของคฤหัสถ์กับพระภิกษุ ก็คือว่า พระภิกษุต้องประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย แต่ว่าสำหรับคฤหัสถ์ ศึกษาพระธรรมได้ และก็อยากจะรักษา หรือประพฤติตามพระวินัย ตามที่ต้องการก็ได้ โดยไม่ต้องบวชก็ไม่ผิด


    หมายเลข 11689
    4 ก.พ. 2567