ทรัพย์อันประเสริฐ


        ทรัพย์ที่มีค่ามากที่สุดคือปัญญาเพราะเงินทองเท่าไหร่ก็ซื้อไม่ได้ และสามารถเข้าใจความจริง จนดับกิเลสได้


        อ.อรรณพ ถ้าได้เงินสัก ๕ ล้าน ความเข้าใจในถอยไปอีก ๕ ปี ก็จะได้สบายเดี๋ยวก็อบรมเจริญปัญญาขึ้นมาใหม่ก็ได้

        ท่านอาจารย์ แล้วรู้ไหมว่าความติดข้องใน ๕ ล้าน เพิ่มเวลาที่จะต้องละความติดข้องไปอีกเท่าไหร่ ถ้าใครที่เข้าใจจริงๆ ไม่มีอะไรประเสริฐเท่ากับปัญญา จะอยู่ยังไงก็ได้ เพราะเหตุว่ามีปัจจัยที่จะให้เกิดขึ้นเป็นอย่างนั้น

        อ.วิชัย ถ้าคิดอย่างจิตที่โลกคิด ก็มีความปรารถนาต้องการ แต่ถ้ามีปัญญาที่เข้าใจ ก็ไม่ได้ใส่ใจ

        ท่านอาจารย์ นี่เป็นเรื่องสมมติ แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ไม่เอาใช่มั้ย แลกกับความติดข้องอีกเท่าไหร่ ที่ปัญญาจะต้องอบรมขัดเกลาไป กว่าจะรู้แจ้งสภาพธรรมอีกเท่าไร เพียงการติดข้องใน ๕ ล้านบาท แต่ว่า ๕ ล้านนั้น คุณวิชัยไม่ได้มาโดยทางทุจริตนี่

        อ.อรรณพ ไม่ทุจริต ไม่ทุจริต

        ท่านอาจารย์ ก็ไม่เป็นไรนี่

        อ.อรรณพ แต่ปัญญาถอยไป

        ท่านอาจารย์ ไม่ค่ะ ไม่ว่าจะเห็น จะได้ยินขณะใดก็ตาม ที่ความไม่รู้ยังมีอยู่ ก็ต้องเป็นความไม่รู้ ไม่ว่าจะ ๕ ล้านหรือ ๑ บาท

        อ.อรรณพ หรือในมุมกลับ ถ้าคนที่เขามีสตางค์เยอะๆ แล้วเขาก็สนใจธรรม ถ้าเขาเอาเงินมาซื้อปัญญาได้ เขาก็คงซื้อ แต่เป็นถ้าที่เป็นไปไม่ได้

        ท่านอาจารย์ เสียเงินเปล่า เพราะไม่สามารถจะเข้าใจได้ด้วยเงินจำนวนเท่าไหร่ก็ตามแต่ ถ้ามีความเข้าใจมั่นคงจริงๆ ๕ล้านไม่เอา ๑๐ล้านก็ไม่เอา ๑๐๐ล้านก็ไม่เอา ๑,๐๐๐ล้านก็ไม่เอา หมื่นแสนล้านก็ไม่เอา ถ้ามีความเข้าใจที่มั่นคงจริงๆ มีค่าเท่ากับ ๑บาท จะ ๑บาทหรือจะร้อยล้านก็เท่ากัน

        เพราะขณะนั้นเป็นความติดข้อง รู้ว่า ละแสนยากยังอุตส่าห์จะไปติดอีกหรือ จะเห็นได้แม้ใครจะเอาเงินมาให้คุณวิชัยสักแสนล้าน ให้บอกว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง และไม่ได้ทรงแสดงความจริงของสภาพธรรม ก็ไม่เอา แล้วกรรม สุจริตกรรมให้ทรัพย์มากกว่าโลกนี้ได้ไหม เกิดในสวรรค์ มูลค่านับได้ไหม โดยนัยยะอีกนัยยะหนึ่ง ถ้าสามารถที่จะให้เงินใครสักพันล้านแล้วมีปัญญา ใครเค้าบอกว่าถ้าสามารถจะให้เงินเขา เขาจะให้ปัญญาได้หลายชั้นเลยของอกุศล

        อ.กุลวิไล เป็นไปไม่ได้

        ท่านอาจารย์ เป็นไปก็ไม่ได้ ติดข้องก็ติดข้อง ไม่รู้ก็ไม่รู้ เห็นผิดก็เห็นผิด พร้อมกันตั้งหลายอย่าง เงินสักกี่ร้อยล้านแสนล้านก็ไม่สามารถที่จะซื้อความเข้าใจธรรม ในสิ่งที่กำลังปรากฏได้ ไม่มีทางเป็นไปได้เลย แล้วมีค่าไหมล่ะเงินนั้นหน่ะ ก็ไม่สามารถที่จะให้เกิดความเห็นที่ถูกต้องได้ด้วยเงิน แต่ต้องด้วยการที่ฟังธรรมด้วยความเคารพจริงๆ ด้วยการเห็นประโยชน์จริงๆ ว่าทั้งหมดต้องเป็นไปเพื่อละ

        อ.ธิดารัตน์ สุปปพุทธกุฏฐิ ท่านก็ไม่ได้มีอะไรเลย เข้าไปในพระเชตวัน แล้วก็ยังมีการบรรยายธรรมอยู่ ได้ยินพระธรรม สามารถที่จะเป็นพระโสดาบันได้ เพราะฉะนั้นพระอินทร์มาแสดงตัว มากล่าวว่าท่านเป็นคนจน ท่านยังบอกเลยว่า ท่านไม่ใช่คนจน เพราะว่าท่านมีอริยทรัพย์ เพราะว่าทรัพย์ที่ท่านเป็นพระอริยบุคคลแล้ว มหากษัตริย์ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน ก็เทียบไม่ได้กับการเป็นพระโสดาบัน

        อ.อรรณพ ก็ปัญญาจะไม่มีค่ามากอย่างไร มีเงิน กี่หมื่นแสนล้านจะซื้อปัญญา แค่ปัญญาที่เข้าใจว่า อะไรถูก อะไรผิด อะไรเป็นธรรม ธรรมคืออะไรก็ซื้อไม่ได้

        ท่านอาจารย์ หรือแม้แต่เห็นเดี๋ยวนี้เกิดดับ ไม่ใช่เรา ปัญญาไหนก็ซื้อไม่ได้ ทรัพย์เท่าไหร่ก็ซื้อปัญญา ที่จะให้เข้าใจอย่างนี้ไม่ได้

        อ.อรรณพ เพราะฉะนั้นพระธรรมคำสอนนี้ จึงเป็นมรดกจริงๆ

        ท่านอาจารย์ มีค่ามากกว่าเงินไม่นับจำนวนไม่ได้เลย เพราะเหตุว่าสามารถเข้าใจความจริงของสิ่งที่ปรากฏในสังสารวัฎ ซึ่งเมื่อเข้าใจแล้วก็จะกลับไปเป็นไม่เข้าใจอีกไม่ได้ ทุกคนยังมีความติดข้อง ใช่ไหม มากมายทั้งในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสทางกาย ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข แต่เข้าใจถูกต้องว่าสามารถละได้ โดยการที่ค่อยๆ เข้าใจความจริง ในสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏโดยความไม่ใช่เรา เพราะฉะนั้นหนทางนี้คือไม่ใช่เรา ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่ของเรา ไม่ว่าอะไรจะปรากฏ เป็นเพียงสิ่งที่มีขณะนั้น ไม่ได้ไปทำให้เกิดขึ้นแต่มีปัจจัยเกิดเป็นอย่างนั้น ก็ปรากฏอย่างนั้น


    หมายเลข 11541
    26 ก.พ. 2567