001 ความเห็นผิดทำลายพระพุทธศาสนาและประเทศชาติ


    สนทนาพิเศษ

    เรื่อง ความเห็นผิดทำลายพระพุทธศาสนา และประเทศชาติ

    ที่ บ้านคุณทักษพล และคุณจริยา เจียมวิจิตร

    วันศุกร์ที่ ๑๙ พฤษภาคม

    และวันศุกร์ที่ ๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๐

    ตอนที่ ๑


    คุณรัก ช่วงสนทนาพิเศษ วันนี้แน่นอนว่าเราจะมาพูดคุยกันในหลายประเด็น เพื่อให้ความชัดเจนมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับเรื่องของพระพุทธศาสนา และแน่นอนว่ากระแสสังคมในบ้านเราตอนนี้ปัจจุบันเป็นอย่างไร ยุคเสื่อมของพระพุทธศาสนาคงต้องให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพราะอะไรถึงเสื่อม เพราะความไม่รู้หรือเปล่า วันนี้แน่นอนว่าเราได้รับเกียรติจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ซึ่งเป็นประธานของมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา รวมทั้งสองวิทยากรที่จะมาร่วมพูดคุยด้วยนะค่ะ อาจารย์อรรณพ หอมจันทร์ คุณคำปั่น อักษรวิลัย และผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายทั้งสองท่าน คุณจริยา เจียมวิจิตรและคุณจักรกฤษณ์ เจนเจษฎา วันนี้พร้อมแล้ว สวัสดีทั้ง ๕ ท่าน

    ก่อนอื่นเลยที่ได้เกริ่นไว้เกี่ยวกับกระแสสังคมบ้านเราในปัจจุบัน แล้วก็ต้องบอกเลยว่า ยุคเสื่อมของพระพุทธสาสนา คำอาจจะดูรุนแรง แต่ถ้าวันนี้เราได้พูดคุยกันในหลายประเด็นให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เราจะเห็นเลยว่าเสื่อมจริงๆ พูดถึงเรื่องของศีลก่อน เพราะว่าใกล้ตัวประชาชนคนไทยมากที่สุด ตั้งแต่เด็กมาก็เรียนเรื่องของศีล ๕ ผู้ใหญ่ก็ยังได้ยินเรื่องของศีล แต่อาจจะมีศีล ๘ เพิ่มเข้ามา แต่ว่าบางท่านก็อาจจะท่องไม่ได้ด้วยซ้ำว่าศีล ๕ มีอะไรบ้าง อยากให้ท่านอาจารย์ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องของศีลสักนิด

    ท่านอาจารย์ ก่อนอื่นคุณรักบอกว่า พุทธศาสนาในขณะนี้เสื่อม หลายคนอาจจะตกใจ เพราะเขาคิดว่าพระพุทธศาสนากำลังรุ่งเรือง เพราะฉะนั้นก็เป็นเรื่องที่ละเอียดที่ว่า เสื่อมคืออย่างไร และรุ่งเรืองคืออย่างไร

    รุ่งเรืองหมายความว่า ทุกคนมีความเชื่อ ทุกคนมีความเข้าใจคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วก็ประพฤติปฏิบัติตาม แต่ว่าเสื่อมคืออะไร ไม่มีใครรู้คำสอนของพระพุทธศาสนาจริงๆ ได้แต่ได้ยินได้ฟังเผินๆ อย่างที่คุณรักกล่าวเมื่อสักครู่นี้ ทุกคนก็ได้ยินคำว่าศีล ๕ แต่ว่าจริงๆ แล้วทั่วโลกก็มีการเว้นการทุจริตต่างๆ เป็นศีลของเขาของทุกคน แต่ว่าเขาเข้าใจหรือเปล่าว่าศีล ๕ คืออะไร เพราะฉะนั้นความเสื่อมก็คือว่า แม้คำว่าศีล ๕ เข้าใจหรือเปล่าว่าคืออะไร

    คุณรัก อย่างที่หลายคนจะท่องไม่ได้ด้วยซ้ำ ดิฉันเองก็ยังไม่คล่องเลย ข้อที่ ๑ ห้ามฆ่าสัตว์

    ท่านอาจารย์ ไม่ใช่ห้าม คำว่าห้ามไม่มีในพระพุทธศาสนา เพราะห้ามไม่ได้ แค่นี้ก็เข้าใจผิดแล้ว

    คุณรัก แต่เด็กๆ ท่องมากันหมดเลย ห้ามนั่น ห้ามนี่ ๕ ข้อด้วยกัน

    ท่านอาจารย์ แล้วห้ามได้หรือเปล่า แต่ให้เข้าใจ เข้าใจแล้วเว้น ไม่ใช่ไปบอกใครว่า ไม่ให้ฆ่าสัตว์ แต่เขาไม่เข้าใจอะไรเลย เพราะฉะนั้นปรากฎว่าทุกยุคทุกสมัย คนก็ทำสิ่งซึ่งทำไปด้วยความไม่เข้าใจ แม้แต่จะพูดก็ยังพูดผิด ใช่ไหม ไม่ใช่ห้าม แต่เว้นการฆ่าสัตว์ การฆ่าสัตว์นี่ไม่ใช่สัตว์เท่านั้น ทุกสิ่งที่มีชีวิต

    คุณรัก ความเจริญของพระพุทธศาสนา ถ้าฟังแบบนี้แล้วต้องเริ่มจากความเข้าใจ คือไม่ใช่เฉพาะเรื่องของศีลเท่านั้น

    ท่านอาจารย์ พระพุทธศาสนา พุทธะคืออะไร ปัญญา ความรู้ ความเห็นที่ถูกต้อง ถ้าไม่ใช่เช่นนี้ ไม่ใช่พระพุทธศาสนาแน่นอน เพราะฉะนั้นพระพุทธศาสนาก็คือคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกคำนำมาสู่ความเข้าใจ เพราะฉะนั้นต้องศึกษา ต้องไตร่ตรอง ต้องคิด จนกระทั่งเป็นปัญญาของคนนั้นเอง มรดกที่ได้รับจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกคนที่ฟังเข้าใจ ไม่เลือกเลยว่าใคร

    คุณรัก ถ้าพูดถึงคำว่า พระพุทธศาสนา อย่างที่ท่านอาจารย์กล่าวแล้ว มีความหมายกว้างขวางจริงๆ อยากให้คุณคำปั่น ได้พูดถึงความหมายของพระพุทธศาสนาสักนิด เพราะหลายท่านก็ท่องกันมา เรียนตามหนังสือกันมา แต่ความเข้าใจกับคำๆ นี้คืออย่างไร

    อ.คำปั่น คำว่า พระพุทธศาสนา ในเบื้องต้นที่ท่านอาจารย์ได้กล่าวถึงคือ คำสอนของผู้รู้ ซึ่งมี ๒ คำรวมกัน คือคำว่า พุทธะ และ ศาสนา พุทธะคือผู้รู้ ผู้รู้ในที่นี้หมายถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นผู้ที่ทรงตรัสรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง ซึ่งข้อความในพระไตรปิฎกและอรรถกถาทั้งหลาย ก็จะอธิบายความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้มากมายทีเดียว เป็นผู้รู้ เป็นผู้ตื่น เป็นผู้เบิกบาน เป็นผู้ทรงปลุกหมู่สัตว์ให้ตื่นจากความหลับใหลด้วยกิเลส ซึ่งก็มีมากมาย นี่คือความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยพระปัญญาของพระองค์

    เมื่อพระองค์ได้ทรงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ผู้ที่ทรงตรัสรู้ความจริง ก็จะมีคำจริงที่จะอนุเคราะห์เกื้อกูลสัตว์โลกให้เข้าใจอย่างถูกต้อง ตรงตามความเป็นจริง พระองค์จึงทรงแสดงธรรม แสดงความจริงนี้ให้กับสัตว์โลกได้ฟัง ได้ศึกษา จึงมีอีกคำหนึ่งที่กล่าวถึงก็คือคำว่า ศาสนาคือคำสอน คือคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งตลอดระยะเวลา ๔๕ พรรษาแห่งการแสดงธรรมของพระองค์ เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์โลกอย่างแท้จริง แต่ละคำๆ เกิดจากพระปัญญาตรัสรู้ของพระองค์ ซึ่งควรค่าแก่การฟัง การศึกษาอย่างยิ่ง เพราะว่าความเข้าใจของผู้ที่เป็นสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเกิดขึ้นได้ ต้องได้ฟังคำจริงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงที่เป็นพระพุทธศาสนานั่นเอง

    คุณรัก ขอเป็นตัวแทนของหลายๆ ท่านที่ใหม่จริงๆ โดยเฉพาะน้องๆ เด็กๆ เยาวชนที่ต้องเรียนวิชาพระพุทธศาสนาแล้วก็รู้หมดเลย พระพุทธเจ้า รวมถึงเนื้อหาต่างๆ ชาดกต่างๆ แต่ไกลตัวเหลือเกิน ยอมรับว่าอ่านไป ฟังไป แต่รู้สึกไกลตัวมาก ทำอย่างไร คนที่ใหม่แบบนี้ เด็กๆ ก็ตาม พอฟังเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าแล้ว พระพุทธศาสนาแล้วรู้สึกว่าใกล้ตัว เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวและสัมผัสได้ และเชื่อว่าพระพุทธเจ้ามีจริง

    ท่านอาจารย์ เพราะว่าเราใช้คำภาษาบาลี ซึ่งไม่ใช่ภาษาที่เราใช้ตั้งแต่เกิดก็ย่อมเข้าใจไม่ถูกต้อง ถ้าไม่ได้ศึกษาโดยละเอียดว่า คำนั้นหมายความว่าอะไร อย่างพระพุทธศาสนาที่คุณคำปั่นเพิ่งกล่าวถึงเมื่อสักครู่นี้ ถ้าไม่ศึกษาจริงๆ พุทธะ มีความหมายน้อยมาก แค่พระพุทธศาสนาในตำราเรียน ที่ไหนๆ ก็ตาม แต่ถ้ารู้ว่าพุทธะ เป็นปัญญาที่คนอื่นรู้ไม่ได้ เพราะว่าต้องบำเพ็ญบารมีถึงความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วทรงตรัสรู้ ไม่ใช่รู้ธรรมดา แต่ทรงตรัสรู้สิ่งที่มีจริงทุกอย่าง ไม่มีอะไรเหลือเลย ถึงที่สุดโดยประการทั้งปวง ได้ยินคำนี้ก็มากมายมหาศาล จะเป็นไปได้อย่างไร ปัญญาที่รู้ทุกอย่างในสากลจักรวาลด้วย

    เพราะฉะนั้นถ้าเขาไม่มีความเข้าใจจริงๆ คำว่า พุทธะหรือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือว่าพระพุทธศาสนาก็เหมือนสิ่งไม่มีค่าที่จะต้องสนใจเลย แต่ว่าถ้าเป็นผู้ที่ไตร่ตรองละเอียด ได้ยินคำนี้ก็รู้แล้วว่า ทุกคำของพระองค์เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ มีคุณค่าซึ่งคนอื่นไม่สามารถจะได้ยินได้ฟังจากใครเลยทั้งสิ้น จนกว่าจะได้ฟังคำของพระองค์ ที่ทรงแสดงด้วยพระองค์เอง ๔๕ พรรษา นานนะแต่ละคำ ทีละคำ แล้วปัญญาของคนธรรมดาสามารถที่จะเข้าใจทันทีในคำของพระองค์ได้หรือ นั่นคือผู้ที่ไม่มีความเคารพในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะฉะนั้นผู้ที่มีความเคารพน้อยมาก ก็คิดสั้นๆ แต่ถ้าเป็นผู้ที่มีความเคารพและไตร่ตรองลึกซึ้งต้องเคารพทุกคำที่จะต้องรู้ความจริง เข้าใจจริงๆ ไม่ใช่เผินๆ แต่ละคำ

    คุณรัก ต้องยอมรับว่า น้อยคนที่จะคิดว่าต้องเข้าใจแต่ละคำ และการที่จะเข้าใจจริงๆ ต้องศึกษาอบรมจริงๆ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะฟังเป็นเรื่องราวของธรรมมากกว่า แต่การศึกษาแต่ละคำค่อนข้างยาก จะเริ่มต้นอย่างไร จากคนที่ใหม่จริงๆ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า คนที่เราฟังอยู่ เขาคือผู้รู้จริงๆ ที่จะให้คำตอบเราได้ และเราเชื่อเขาได้

    ท่านอาจารย์ จะฟังเรื่องราวของธรรม ใช่หรือไม่ แล้วรู้หรือยังว่า ธรรมคืออะไร ทีละหนึ่งคำ นี่เป็นเหตุที่ชาวโลกไม่ได้รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างจริงๆ เลย ได้แต่ได้ยินได้ฟังเขาว่าอย่างนี้ เขาว่าอย่างนั้น ก็เชื่อตาม ทำตาม แต่ไม่ใช่คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะคนนั้นไม่ได้เขาใจอะไรเลย แต่ถ้าเป็นคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกคำ ใครที่ได้ฟังด้วยการไตร่ตรองปฏิเสธไม่ได้เลยว่าไม่ใช่ความจริง

    เพราะฉะนั้นคำใดเป็นคำจริง กล่าวถึงสิ่งที่มีจริง มีจริงทุกกาลสมัย ในอดีตหรือขณะนี้หรือต่อไปข้างหน้า ความจริงนั้นไม่เปลี่ยนแปลงเลย เพราะฉะนั้นถ้าคนนั้นได้ฟังคำนั้น แล้วก็พิจารณา เข้าใจจริงๆ เขาจะเข้าใจธรรม เพราะธรรมพูดถึงสิ่งที่มีจริงทั้งหมดให้คนได้เข้าใจสิ่งที่เดี๋ยวนี้ก็มี ใช่หรือไม่ แต่ไม่รู้

    คุณรัก เรียนถามคุณจริยา อยากให้ท่านได้แบ่งปันประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ได้เริ่มต้นศึกษาเรื่องของพระพุทธศาสนา เห็นคุณค่าอะไรของพระพุทธศาสนา

    อ.จริยา ถ้าเริ่มจากที่ศึกษาเลย คือตั้งแต่เด็กมาก็ศึกษาพระพุทธศาสนาอย่างที่คุณรักกล่าวตั้งแต่ต้น เราก็เรียนพุทธประวัติ เรียนอริยสัจจ์ ๔ แต่เรียนแล้วก็ไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้จริงๆ คือ ท่องได้เหมือนนกแก้วนกขุนทอง ท่องเพื่ออะไร การเรียนในชั้นเรียนก็คือเพื่อสอบได้ แล้วก็ลืมไป พอถึงเวลาเรียนใหม่ก็ท่องใหม่ แล้วก็จำได้ แม้จะจำได้ขึ้นใจ แต่ก็ไม่เข้าใจเลยสักคำเดียว ที่คุณรักถามว่า ทำไมถึงได้มาสนใจพระพุทธศาสนา แล้วก็ศึกษาอย่างไร ก็เรียนว่า สนใจมาตลอด แต่สนใจแบบผิดๆ ถูกๆ อย่างที่เคยกราบเรียนท่านอาจารย์และทุกๆ ท่านแล้วว่า เคยสนใจแบบผิดๆ ไปสำนักปฏิบัติผิดๆ มาแล้ว แล้วในที่สุดก็มาพบสิ่งที่เป็นคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งท่านอาจารย์ได้กรุณาถ่ายทอดให้ฟัง ตั้งแต่คำว่า ธรรมคืออะไร เมื่อไรที่ได้ยินคำว่า ธรรมคืออะไร แล้วใส่ใจสนใจที่จะทราบต่อไปว่า แล้วคืออะไร เมื่อท่านอาจารย์ค่อยๆ อธิบายทีละคำๆ ดิฉันฟังแล้วตอนนั้นยังไม่ซาบซึ้งมาก แต่คนที่รู้สึกซาบซึ้งก็คือสามี อย่างที่เคยเล่าคือสามีจะซาบซึ้งมากกับคำว่า ธรรมคืออะไร แล้วก็ตื่นเต้นกับคำนี้มาก เมื่อเราสองคนตั้งใจว่านี่คือสิ่งที่ถูกต้องแน่นอนแล้ว ก็เริ่มศึกษา

    เมื่อศึกษาแล้วยากมากๆ ยากกว่าวิชาการทางโลกที่เคยเรียนมาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นวิชาการที่เรียนในชั้นมัธยม หรือวิชากฎหมายที่ดิฉันเรียนมา เรียนแล้วท่อง เราก็จำได้ ก็สอบได้ แต่ธรรมท่องได้ แต่เราก็ไม่ค่อยเข้าใจแม้จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่ได้เข้าใจกระจ่างนัก แต่อย่างน้อยที่สุดก็ได้เริ่มเข้าใจว่า ธรรมคือสิ่งที่มีจริง และจริงอย่างไร ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่ควรจะให้เด็กและเยาวชนในสมัยนี้ปลูกฝังตั้งแต่แรกเลยว่า ธรรมคืออะไร ถ้าหลักสูตรวิชาศาสนาในชั้นเรียนเริ่มตั้งแต่ ธรรมคืออะไร เด็กก็จะได้ค่อยๆ เริ่มเข้าใจทีละคำ เพราะเข้าใจว่า การถ่ายทอดจากท่านอาจารย์ว่า ธรรมคืออะไร ท่านอาจารย์จะถ่ายทอดให้เราค่อยๆ เข้าใจ และค่อยๆ ซาบซึ้งในพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    คุณรัก จากประสบการณ์ของคุณจริยาแล้วจะเห็นว่า คุณค่าของการที่รู้และเข้าใจคำแต่ละคำสำคัญจริงๆ แต่เราจะทำอย่างไรที่จะให้คนส่วนใหญ่ฟังคำว่า ธรรมคืออะไร แล้วทุกคนเข้าใจได้

    ท่านอาจารย์ โดยมากทุกคนก็คิดถึงคนส่วนใหญ่ แต่ตัวเอง สำคัญที่สุดคือตัวเอง ถ้าไม่มีใครสักคนที่คิดถึงว่า ขณะนี้เข้าใจธรรมหรือยัง เขาก็จะไปหวังคนส่วนใหญ่ให้เข้าใจธรรม แต่ถ้าทุกคนเริ่มคิดแม้แต่เราเอง เข้าใจหรือยัง ถ้าเรายังไม่เข้าใจและศึกษาให้เข้าใจ ก็จะทำให้คนอื่นเขาคิดเหมือนเรา แต่ละหนึ่งๆ ควรที่จะเห็นความสำคัญของพระพุทธศาสนา ไม่ใช่หวังว่าส่วนใหญ่จะเป็นอย่างไร เพราะหวังอย่างนี้มาโดยตลอด ส่วนใหญ่จึงไม่เข้าใจพระพุทธศาสนา

    คุณรัก ใช่

    ท่านอาจารย์ แต่ความจริง พระพุทธศาสนาก็คือคำสอน ที่สอนให้เข้าใจสิ่งที่มีจริงๆ เพราะฉะนั้นสิ่งที่มีจริงไม่ใช่สิ่งที่ไม่มี กำลังปรากฎว่ามีจริง และพูดถึงสิ่งนั้นแล้วจะไม่มีเข้าใจได้อย่างไร เพียงแต่เรามองข้ามหรือเราเผิน คิดว่าพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้สิ่งที่ยิ่งใหญ่มากที่ใครๆ ก็ไม่รู้ ก็ไปอยากรู้คำต่างๆ ที่ยาก ที่คิดว่านั่นคือพระองค์ทรงตรัสรู้ แต่ลืมว่า การที่จะเข้าใจไม่ใช่ว่าเพียงคำที่ได้ยิน แต่ทุกคำต้องละเอียด เช่น ธรรมคืออะไร สิ่งนี้เป็นสิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ เพราะถ้าไม่มีธรรมจะตรัสรู้อะไร และธรรมก็อยู่ทั่วไปหมด หมายความว่าสิ่งที่มีเราไม่รู้มานานแสนนาน แต่ก็ยังมี ขาดไม่ได้เลย ทุกวันเป็นธรรมหมด เพียงเท่านี้ก็ไม่รู้ คิดว่าต้องไปหาธรรมที่อื่น ต้องไปหาหนังสือเล่มนั้นเล่มนี้ แต่ความจริงกำลังเผชิญหน้า และขาดธรรมไม่ได้เลยตลอดชีวิต แต่ไม่รู้จักธรรม

    เพราะฉะนั้นก่อนอื่นถ้าไม่รู้จักธรรม ฟังคำต่อๆ ไปของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ไม่รู้จัก เพราะไม่รู้จักแม้แต่สิ่งที่พระองค์ตรัสคำแรก คือ ธรรม แต่ไม่ยากที่จะเข้าใจ อยู่ที่เมื่อถึงเวลาที่จะให้คนได้คิด แล้วให้เขาคิด เขาตอบได้ทุกคน และเขาเริ่มจะรู้จักธรรมด้วยตัวของเขาเอง

    คุณรัก ท่านอาจารย์กล่าวว่า แต่ละหนึ่งต้องเข้าใจ อย่าไปคิดว่าจะทำอย่างไรให้คนอื่นเข้าใจ แต่เราเข้าใจหรือยัง

    ท่านอาจารย์ คุณรักเห็นด้วยหรือไม่

    คุณรัก เห็นด้วย แต่ยากมาก

    ท่านอาจารย์ ก็ต้องยากที่ตัวเราก่อน

    คุณรัก เพราะฉะนั้นการศึกษาทั้งหมดแล้ว เราไปมองว่าเด็ก เยาวชนทั้งห้องจะต้องควรจะรู้ว่า ธรรมคืออะไร แต่ว่าอาจารย์คนที่สอนเข้าใจธรรมหรือยัง

    ท่านอาจารย์ เห็นหรือไม่ ตัวเองเข้าใจธรรมแล้วหรือยัง เข้าใจหรือเปล่า แล้วจะหวังให้คนอื่นเข้าใจ ผู้ใหญ่เข้าใจหรือยัง แต่หวังให้เด็กเข้าใจ เป็นสิ่งที่จะเป็นไปได้หรือไม่

    คุณรัก อยากเรียนถามคุณจักรกฤษณ์ แบ่งปันประสบการณ์สักนิด เกี่ยวกับเรื่องของความหมายและความเข้าใจจากประสบการณ์โดยตรงเกี่ยวกับเรื่องของคำว่า ธรรม

    อ.จักรกฤษณ์ ธรรมจากประสบการณ์ที่สนใจพระพุทธศาสนามาตั้งแต่เด็กก็ว่าได้ เพราะครอบครัวผม คุณพ่อคุณแม่ก็สนใจด้านนี้ ก็พาไปสำนักปฏิบัติไปนั่งสมาธิ สวดมนต์ ตอนนั้นไม่เคยได้ยินคำว่า ธรรมคืออะไรเลย แม้กระทั่งโตมาและศึกษาจากตำรับตำราของอาจารย์หลายท่าน ก็อธิบายในเรื่องของพระพุทธศาสนาว่า จะมีศีล สมาธิ ปัญญา เป็นไปตามลำดับ แต่ไม่ได้มีการอธิบายคำๆ นี้เลยว่า ธรรมคืออะไร ดังนั้นที่ผ่านมาทั้งหมดก็จะเป็นเพียงเรื่องราวที่เกิดขึ้น อาจจะเป็นพุทธประวัติและมีคำสอนของพระพุทธองค์ที่ปรากฎอยู่ในหลายส่วนของพระไตรปิฎกเอง แต่ทั้งหมดกลายเป็นเรื่องราวที่ทำให้เราไม่สามารถที่จะเข้าใจถึงความเป็นจริง จริงๆ ที่อธิบายคำว่าธรรมนั่นเอง

    จนกระทั่งวันหนึ่งได้ฟังเทปคำบรรยายของท่านอาจารย์ ไปร้านหนังสือธรรมที่ตรงข้ามวัดบวร มีร้านหนังสือธรรมเยอะแยะและมีเทป ได้เทปมาม้วนหนึ่งเอามาฟัง ก็ได้ความรู้ที่ใหม่มากๆ เพราะท่านอาจารย์บรรยายคำว่า ธรรมคืออะไร ประกอบกับคำสอนของพระพุทธองค์ในส่วนอื่นๆ ทำให้เราเข้าใจได้ละเอียดลึกซึ้งถึงความหมายว่า จริงๆ แล้วพระพุทธองค์สอนความจริง ความจริง จริงๆ ไม่ได้สอนเรื่องราวต่างๆ แม้กระทั่งเรื่องศีลธรรมที่เรายกขึ้นมาตั้งแต่ต้น ศีลธรรมในความเข้าใจของเราก็คือ ห้ามฆ่าสัตว์ ห้ามลักทรัพย์ แต่ว่าธรรมในศีลธรรม พระพุทธองค์ตรัสเอาไว้ด้วย ถ้าเราไม่เข้าใจคำว่า ธรรมคืออะไร เป็นสิ่งมีจริง มีสภาวธรรมอย่างไร เราก็ไม่สามารถไขหรือหาคำตอบคำว่าศีลธรรม ศีลห้าในพระพุทธศาสนาคืออะไรได้ ตรงนี้เป็นหัวใจสำคัญที่สุด ที่ท่านอาจารย์กล่าวว่าเบื้องต้นทีละคำๆ ที่สำคัญที่สุดก็คือคำว่า ธรรมคืออะไร

    จากประสบการณ์ที่ผ่านมาเมื่อได้ฟังคำจริง หลังๆ มาได้ศึกษาโดยการทำความเข้าใจจากพื้นฐานว่า ธรรมคืออะไร ทำให้ความเข้าใจในคำสอนของพระพุทธองค์ถูกต้อง และก็มีความลึกซึ้งขึ้นตามลำดับ ทำให้เรามีความเข้าใจตามลำดับ ไม่หลงทางไปทำสิ่งที่ไม่ถูกเหมือนที่เคยทำมา คือไปสำนักปฏิบัติ ไปนั่งสมาธิ ผมทำมาตั้งแต่เด็ก นั่งดูลูกแก้วทำมาตั้งแต่เด็ก เห็นลูกแก้วใสแจ๋ว แต่ไม่เข้าใจอะไรเลย ความเข้าใจไม่มี ศูนย์ ความเข้าใจเป็นศูนย์ ดังนั้นเมื่อกล่าวถึงคำว่า พุทธะคือผู้รู้ ตรงนั้นไม่ได้ทำให้เกิดความรู้อะไร เกิดแต่ความสุข ซึ่งเป็นความสุขที่ไม่ใช่ความสุขที่พระพุทธองค์ทรงแสดงว่าเป็นสุขที่แท้จริง เป็นความสุขทางโลก ความสบาย ซึ่งเราก็หลงกันไปอย่างนั้นเยอะ ดังนั้นต้องกลับมาตรงนี้ เข้าใจให้ถูกต้องก่อนว่า ธรรมคืออะไร ค่อยๆ ศึกษาไปแล้วจะพบความจริง จริงๆ และไม่เสียโอกาสที่เราเกิดมาได้พบพระพุทธศาสนาและพบคำสอน และอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่จะเรียนรู้ได้ ไม่เสียเวลา

    คุณรัก อนุโมทนาจริงๆ จากประสบการณ์ที่ผ่านมา อาจารย์อรรณพค่ะ ฟังเรื่องราวจากทั้งสองท่านแล้วทำให้เห็นถึงความสำคัญที่ว่า ธรรมคืออะไร แต่คนส่วนใหญ่ถ้าฟังแล้วดูช้าเหลือเกิน ปัจจุบันที่ไปสำนักปฏิบัติมาบ้าง คือความต้องการอยากดี อยากเร็ว รู้ผลเร็ว นั่งสมาธิก็ง่ายๆ เลยอาจจะเรียนดีขึ้น สงบขึ้น นอนหลับดีขึ้น อาจารย์อรรณพมีความเห็นอย่างไรในเรื่องนี้

    อ.อรรณพ ความเห็นคือ ไม่ได้มีพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง เพราะไม่ได้ศึกษาพระธรรม ซึ่งเป็นการสะสมมาด้วย และเป็นการไตร่ตรองในเหตุและผล อย่างผมฟังท่านนักกฎหมายทั้งสองท่านได้สะท้อนออกมา ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ถ้ายังไม่ได้ฟังพระธรรมที่ถูกต้อง เช่นธรรมหรือความจริงคืออะไร ก็ไม่มีปัจจัยให้เกิดการไตร่ตรองว่า คำใดเป็นคำของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ปนๆ กับคำคม ปรัชญาต่างๆ เราก็เห็นว่าดี และแม้ในส่วนของพระพุทธพจน์เป็นพระธรรมคำสอนจริงๆ แม้ได้ยินก็ไม่ได้เข้าใจในความละเอียดลึกซึ้ง เป็นทั้งสองส่วน อย่างเช่นเหมือนว่าเตือนดีเหมือนปรัชญา เช่น คนเรามีสองหูแต่มีปากเดียว เพราะฉะนั้นก็ควรเป็นคนที่ฟังมากหน่อยพูดน้อยหน่อย ฟังก็ดูดี แต่เราก็ไม่รู้ว่านี่เป็นคำสอนของส่วนบุคคลที่เขาคิดหรือเป็นคำสอนของพระพุทธศาสนา หรือบางทีได้ยินคำว่า ถ้าเมตตาเกินประมาณก็จะพบกับคนพาลทั้งเมือง ก็ดูว่าเหมือนจะดี แต่เมื่อได้ฟังพระธรรมตามที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงตามพระไตรปิฎก ความเข้าใจก็ค่อยๆ สะสมขึ้น และความเข้าใจก็จะเป็นเครื่องจำแนกแยกแยะว่าอะไรถูกต้อง อะไรไม่ถูกต้อง


    หมายเลข 10897
    29 ก.ค. 2568