อ่านคำแปลแล้วไม่เข้าใจครับ จากบท สติปัฏฐานปาฐะ นะครับ1.) อิธะ ภิกขุ อัชฌัตตัง วา กาเย กายานุปัสสี วิหะระติ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมพิจารณาเห็นกายในกาย เป็นภายในบ้าง2.) พะหิทธา วา กาเย กายานุปัสสี วิหะระติ. ย่อมพิจารณาเห็นกายในกาย เป็นภายนอกบ้าง3.) อัชฌัตตะ พะหิทธา วา กาเย กายานุปัสสี วิหะระติ ย่อมพิจารณาเห็นกายในกาย ทั้งภายในทั้งภายนอกบ้างผมสงสัยว่า เห็นกายในกายเป็นภายในคืออะไรครับ, เห็นกายในกาย เป็นภายนอกคืออะไรครับ ???? จากบท อะนัตตะลักขะณะสุตตัง ตัส๎มาติหะ ภิกขะเว , ภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแลยังกิญจิ รูปัง อะตีตานาคะตะปัจจุปปันนัง รูป อย่างใดอย่างหนึ่ง , ที่มีแล้วในอดีต หรือที่จะพีงมีในอนาคต หรือมีอยู่ในปัจจุบันอัชฌัตตัง วา พะหิทธา วา รูปภายใน รูปภายนอก คำว่า รูปภายใน รูปภายนอก หมายถึงอะไรครับผม ????
ขอคำชี้แนะด้วยครับ ขอบคุณครับผม
เห็นกายภายใน คือ กายของตนเอง เห็นกายภายนอก คือ กายของผู้อื่น ในหมวดของกายานุปัสสนาทั้งหมด หมายถึงรู้รูปเป็นอารมณ์ คือในกาย มิใช่ในจิต มิใช่ในเวทนา คำว่ารูปภายใน รูปภายนอก มีแสดงไว้หลายนัย ขอเชิญอ่านข้อความที่ยก
พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 266
[๕๕๒] รูปเป็นภายใน นั้น เป็นไฉน ? จักขายตนะ โสตายตนะ ฆานายตนะ ชิวหายตนะ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นภายใน. รูปเป็นภายนอก นั้น เป็นไฉน ? รูปายตนะ สัททายตนะ คันธายตนะ รสายตนะ โผฏฐัพพายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นภายนอก.
พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 2
[๔] รูปภายใน เป็นไฉน ? รูปใด ของสัตว์นั้น ๆ เอง ซึ่งมีในตน เฉพาะตน เกิดในตนเฉพาะบุคคล อันกรรมที่สัมปยุตด้วยตัณหาทิฏฐิยึดครอง ได้แก่มหาภูตรูป ๔และอุปาทายรูปที่อาศัยมหาภูตรูป ๔ นี้เรียกว่ารูปภายใน. รูปภายนอก เป็นไฉน ? รูปใด ของสัตว์อื่นของบุคคลอื่นนั้น ๆ ซึ่งมีในตน เฉพาะตน เกิดในตน เฉพาะบุคคล อันกรรมที่สัมปยุตด้วยตัณหาทิฏฐิยึดครอง ได้แก่มหาภูตรูป ๔และอุปาทายรูปที่อาศัยมหาภูตรูป ๔ นี้เรียกว่ารูปภายนอก.
รู้กายภายใน กายภายนอกโดยความเป็นธรรมะ รู้รูปโดยความเป็นรูป ว่ารูปไม่ใช่สภาพที่รู้อะไรได้เลย ไม่ใช่ตัวตน สัตว์ บุคคล ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา รู้ได้ด้วย สติปัฏฐานเกิด ระลึกไปในสภาพธรรมะใดก็ได้ที่เกิดขึ้น ถ้าปรากฏที่กาย สติก็ระลึกรู้ที่กายโดยไม่มีการจงใจ ตั้งใจ เพ่งพยายามให้ระลึกตรงนั้นด้วยอาการเจาะจง แต่ต้องเป็นในขณะที่ปกติที่สภาพธรรมะกำลังเกิดดับในขณะนี้..สติก็ระลึกได้ในขณะนี้ถ้ามีปัจจัยพอ ส่วนการจะรู้สภาพธรรมะตามความเป็นจริงต้องเป็นกิจของปัญญาที่จะค่อยๆ ศึกษาความเป็นอนัตตาของสภาพธรรมตามกำลังครับ