เพราะยังเป็นอิริยาบถ จะประจักษ์ทุกข์ได้อย่างไร?

[เล่มที่ 77] พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ เล่ม ๒ ภาค ๑ หน้า-175
ตอบว่า อนิจจลักษณะก่อน ย่อมไม่ปรากฏ เพราะไม่มนสิการ
ไม่แทงตลอดความเกิดขึ้นและความเสื่อมไป และเพราะสันตติปิดบังไว้. ทุกขลักษณะ ย่อมไม่ปรากฏ เพราะไม่มนสิการ ไม่แทงตลอดความบีบคั้นเนืองๆ แต่เพราะอิริยาบถทั้งหลายปิดบังไว้. อนัตตลักษณะ ย่อมไม่ปรากฏ เพราะไม่มนสิการ ไม่แทงตลอดการแยกธาตุต่างๆ และเพราะอันฆนสัญญาปกปิดไว้. ก็พระโยคาวจรกำหนดความเกิดและความเสื่อมเพิกสันตติได้แล้ว อนิจจลักษณะ ย่อมปรากฏโดยกิจตามความเป็นจริง มนสิการการบีบคั้นเนืองๆ สับเปลี่ยนอิริยาบถได้แล้ว ทุกขลักษณะ ย่อมปรากฏโดยกิจตามความเป็นจริง เมื่อแยกธาตุต่างๆ แล้วทำการแยกความเป็นก้อน อนัตตลักษณะย่อมปรากฏโดยกิจตามความเป็นจริง.
อนึ่ง ในอธิการนี้ พึงทราบวิภาค (การจำแนก) นี้ คือ
อนิจฺจํ (ความไม่เที่ยง)
อนิจฺจลักฺขณํ (ลักษณะแห่งความไม่เที่ยง)
ทุกฺขํ (ความทุกข์)
ทุกฺขลกฺขณํ (ลักษณะแห่งทุกข์)
อนตฺตา (ไม่ใช่อัตตา)
อนตฺตลกฺขณํ (ลักษณะแห่งอนัตตา) .
บรรดาวิภาคทั้ง ๖ เหล่านั้น ค่าว่า อนิจจัง ได้แก่ ขันธ์ ๕. เพราะเหตุไร เพราะความที่ขันธ์ ๕ มีความแปรเปลี่ยนไปด้วยความเกิดและความเสื่อม หรือว่า เพราะมีแล้วกลับไม่มี. ความที่ขันธ์ ๕ มีความแปรเปลี่ยนไปด้วยความเกิดและความเสื่อม หรือว่า ความเปลี่ยนแปลงแห่งอาการ (ลักษณะ) กล่าวคือ เป็นแล้วกลับไม่เป็น ชื่อว่า อนิจจลักษณะ.
วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๓ ตอน ๒ (ตอนจบ) - หน้า 126
ก็ลักษณะทั้งหลายย่อมไม่ปรากฏ เพราะอะไรปิดบังไว้ เหตุไม่มนสิการถึงอะไร อันดับแรก อนิจจลักษณะไม่ปรากฏ เพราะถูกสันตติปิดบังไว้เหตุไม่มนสิการถึงความเกิดขึ้น และความเสื่อมไป ทุกขลักษณะไม่ ปรากฏเพราะถูกอิริยาบถปิดบังไว้ เหตุไม่มนสิการถึงความถูกบีบคั้นอยู่เนืองๆ
อนัตตลักษณะไม่ปรากฏเพราะถูกฆนะ (กลุ่มก้อน) ปิดบังไว้ เหตุไม่มนสิการถึงความแยกจากกันได้แห่งธาตุต่างๆ ต่อเมื่อสันตติถูกทำให้ยกเลิกไป เพราะกำหนดจากความเกิดขึ้นและความเสื่อมไปได้
อนิจจลักษณะจึงปรากฏตามสภาพที่เป็นจริงได้ เมื่ออิริยาบถถูกเพิกเพราะมนสิการถึงความถูกบีบคั้นอยู่เนืองๆ ทุกขลักษณะจึงปรากฏตามสภาพที่เป็นจริงได้ เมื่อทำฆนวินิพโภค (ย่อยก้อนออก) ได้เพราะแยกธาตุต่างๆ ออก อนัตตลักษณะจึงปรากฏตามสภาพที่เป็นจริง
อ.วิชัย: ท่านอาจารย์ครับ เมื่อกล่าวถึงความเป็นจริงที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ครับ แสดงความเป็นจริงของของสภาพธรรมอย่าง สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง สังขารทั้งหลายเป็นทุกข์ ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา ครับ แต่มีประเด็นที่จะกราบเรียนสนทนากับท่านอาจารย์เพิ่มเติมครับ เพราะว่าเคยฟังธรรมที่ท่านอาจารย์ได้บรรยายในรายการแนวทางวิปัสสนา แต่ก็ยังไม่มั่นคงที่จะเข้าใจครับ การแสดงลักษณะของสภาพธรรม อย่างข้อความใน สัมโมหวิโนทนี อรรถกถา วิภังคปกรณ์ ครับ ที่แสดงถึง ลักษณะทั้ง ๓ ที่ถูกปิดบังไว้ ครับ
อนิจจลักษณะ ย่อมไม่ปรากฏ เพราะไม่มนสิการ ไม่แทงตลอดความเกิดขึ้น และความเสื่อมไป และเพราะ สันตติปิดบังไว้
ทุกขลักษณะ ย่อมไม่ปรากฏ เพราะไม่มนสิการการ ไม่แทงตลอดความบีบคั้นเนืองๆ แต่เพราะ อิริยาบถทั้งหลายปิดบังไว้
อนัตตลักษณะ ย่อมไม่ปรากฏ เพราะไม่มนสิการ ไม่แทงตลอดการแยกธาตุต่างๆ และเพราะอัน ฆนสัญญาปกปิดไว้
กราบเท้าท่านอาจารย์ครับ การได้อ่านข้อความนี้ก็พอจะพิจารณาได้ถึงว่า การที่สภาพธรรมไม่ปรากฏ เพราะยังไม่รู้ตามความเป็นจริงของสิ่งนั้น หรือแม้แต่การพิจารณาความใส่ใจในความเป็นธรรม อย่างความไม่เที่ยง ก็เข้าใจถึงว่า สภาพธรรมเกิดดับสืบต่ออย่างรวดเร็ว แล้วก็ยังไม่ได้เข้าใจความเป็นจริงของสภาพธรรมแต่ละลักษณะครับ
แต่ประเด็นที่จะกราบเรียนสนทนา ก็คือในเรื่องของ ทุกขลักษณะ ครับ ที่ท่านแสดงถึง อิริยาบถปิดบังไว้ ครับ คือถ้าพูดถึง สภาพธรรม ก็จะมีทั้งนามธรรม และรูปธรรม แต่การที่ยังจำว่าเป็นทรงอยู่ในอิริยาบถหนึ่งอิริยาบถใดอย่าง นั่ง ตอนนี้ครับ ก็ไม่ปรากฏความเป็นทุกข์ของสภาพธรรมครับ แต่ดูเหมือนกับเป็นรูปที่ประชุมรวมกัน แล้วก็ทรงอยู่ใน อิริยาบถนั่ง ครับ แต่ว่า ถ้าเป็นการกล่าวถึง ทุกขลักษณะที่เป็นนามธรรม นี่จะเป็นอย่างไรครับ คือยิ่งฟังยิ่งคิด ก็ยิ่งเห็นความไม่รู้ความลึกซึ้งของธรรมตรงนี้ครับท่านอาจารย์ครับ
ท่านอาจารย์: นามธรรม จะเป็นรูปธรรมได้ไหม?
อ.วิชัย: เป็นไปไม่ได้เลยครับ
ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ก็ต้องเข้าใจในแต่ละคำว่า ทั้งนาม ทั้งรูป เกิดดับใช่ไหม?
อ.วิชัย: ใช่ครับ
ท่านอาจารย์: แล้วจะพูดถึงอะไร อย่างไร ที่จะให้รู้ว่า แต่ละอย่างต่างกัน คือนามธรรม ไม่ใช่รูปธรรม เพราะนามธรรม ไม่มีนั่ง ไม่มีอิริยาบถใช่ไหม?
อ.วิชัย: ใช่ครับท่านอาจารย์
ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น จะเอานามธรรมไปเป็นรูปธรรมได้ไหม?
อ.วิชัย: เป็นไปไม่ได้เลยครับ ดังนั้นการที่ทรงแสดงใน อิริยาบถปิดบังทุกขลักษณะ มุ่งหมายถึง รูปที่ประชุมกันที่เราจำไว้ นะครับ
ท่านอาจารย์: แน่นอน!! เพราะเหตุว่า อิริยาบถปิดบังทุกข์ เพราะยังเป็นอิริยาบถรวมกันเป็นอิริยาบถหนึ่ง และจะประจักษ์ทุกข์ได้อย่างไร
อ.วิชัย: ครับ อย่างตอนนี้ก็ยังเป็นตัวกระผมนั่งอยู่ครับ ไม่ได้เข้าใจความเป็นธรรมเลยครับ
ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น จึงมีคำว่า เพิกอิริยาบถ ธรรมจริงๆ ที่ปรากฏแต่ละหนึ่งจะเป็นอิริยาบถไม่ได้ ไม่มีเลยขณะนั้น เพราะอิริยาบถเป็นเรานั่ง
อ.วิชัย: ครับ แล้วที่ท่านกล่าวถึงการที่จะ มนสิการในลักษณะของธรรมที่จะรู้ถึงลักษณะทั้ง ๓ ครับ การเริ่มต้นที่จะใส่ใจ หรือที่จะรู้ความเป็นจริงของธรรมนี้ จะเป็นอย่างไรครับ
ท่านอาจารย์: ต้องฟังคำ และไตร่ตรอง เริ่มจากทีละคำที่กล่าวถึงตอนนี้
อ.วิชัย: ครับ อย่างท่านกล่าวว่า อนิจจลักษณะ ย่อมไม่ปรากฏ เพราะไม่มนสิการ ไม่แทงตลอดความเกิดขึ้น และความเสื่อมไปครับ
ท่านอาจารย์: ถูกต้องเลยใช่ไหม ต่อกันสนิทจนกระทั่งไม่เห็นรอยต่อเลยว่า เกิดแล้วดับแต่ละหนึ่ง
อ.วิชัย: ครับ แม้จะฟังหลายๆ ครั้ง นับประมาณไม่ได้ครับ แต่ความรวดเร็วของสภาพธรรมก็เป็นอย่างนี้ครับ ก็ไม่ได้ปรากฏความหมดไปเลยครับ
ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น จะรู้ต่อเมื่อศึกษาเข้าใจแต่ละหนึ่ง จึงรู้ว่า เดี๋ยวนี้สิ่งที่ปิดบัง คือการเกิดดับรวดเร็วของแต่ละหนึ่งทั้งหมด ทำให้ไม่รู้ความเกิดดับของแต่ละหนึ่ง
อ.วิชัย: ครับ ท่านก็ยังกล่าวว่า และเพราะ สันตติปิดบังไว้
ท่านอาจารย์: ก็เดี๋ยวนี้นี่เอง เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ปัญญาเท่านั้น ถึงแม้ว่ามันไม่แตกไปโดยอย่างที่แก้วแตกอะไรแตก แต่ตัวปํญญาสามารถจะแยกรู้ทีละหนึ่งก่อน เมื่อแยกรู้ทีละหนึ่งว่าต่างกัน นามรูปปริจเฉทญาณะ ระดับไหน?
นี่เรานั่งฟังใช่ไหม? แต่ไม่ใช่วิปัสสนาญาณะ ประจักษ์ขณะนั้นในความเป็นหนึ่ง ซึ่งต้องไม่มีอะไรปะปนเลยทั้งสิ้น ปัญญาระดับไหน? จึงจะรู้ หนึ่ง โดยที่ว่าอย่างอื่นขณะนั้นปรากฏไม่ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนนั้นติดกันหมดเลย ถูกต้องไหม?
ก่อนนั้นติดกันหมดเลย แต่ปัญญาที่เข้าใจทีละหนึ่ง กว่าจะถึงระดับที่ทำกิจจญาณ เริ่มระลึกรู้ทีละหนึ่งซึ่งต่างกัน จนกระทั่งถึงระดับที่ปรากฏชัดเจนโดยความเป็นอนัตตาในความเป็นจริงว่า ทีละหนึ่ง ไม่มีอะไรเลยทั้งสิ้น ต้องหนึ่งจริงๆ
อ.วิชัย: ครับ ท่านอาจารย์ครับ ก็ต้องค่อยๆ ศึกษา ค่อยๆ เข้าใจเพิ่มขึ้น อีกมากมายเลยครับท่านอาจารย์ครับ
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่..
ลักษณะไม่ปรากฏ เพราะไม่มนสิการอะไร อะไรปิดบังไว้
อนัตตลักษณะไม่ปรากฏ เพราะไม่มนสิการ และฆนะปิดบังไว้
ขอเชิญคลิกฟังได้ที่..
รู้ทุกขลักษณะได้แม้ไม่เปลี่ยนอิริยาบถ
อิริยาบถปิดบังทุกขลักษณะ มีเฉพาะในภูมิที่มีขันธ์ ๕
เพิกทีเดียวในอิริยาบถทั้ง ๔ หรือ เพิกทีละอิริยาบถ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ
กราบยินดีในกุศลจิตของ อ.วิชัย ด้วยความเคารพค่ะ