การทำบาปโดยที่รู้ว่าเป็นบาป กับการทำบาปโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นบาป แบบไหนให้ผลมากกว่ากัน

 
thanawat.kunnawat.1997
วันที่  19 มี.ค. 2564
หมายเลข  33900
อ่าน  478

ตามหัวข้อเลยครับ เช่นสมมติว่า นาย A ลงมือฆ่าแมวด้วยการเอาเชือกรัดคอแล้วห้อยกับขื่อบ้านทั้งที่รู้ว่าเป็นการกระทำที่เป็นบาป กับนาย B ลงมือฆ่าหมาด้วยการจับโยนลงไปในน้ำเพื่อให้จมน้ำตายโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นการกระทำที่เป็นบาป ผลกรรมของใครจะหนักกว่ากัน แล้วถ้าหากว่านาย A และนาย B สำนึกผิดแล้วทำบุญอุทิศส่วนกุศลและขออโหสิกรรมต่อสัตว์ที่ตัวเองได้ลงมือฆ่า เช่น การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน กรรมที่ได้รับจะส่งผลเบาบางลงหรือไม่ครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 19 มี.ค. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

[เล่มที่ 42] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้าที่ ๙

ถ้าบุรุษพึงทำบาปไซร้, ไม่ควรทำบาปนั้น
บ่อย ๆ ไม่ควรทำความพอใจในบาปนั้น
เพราะว่า ความสั่งสมบาปเป็นเหตุให้เกิดทุกข์



ขณะที่ทำอกุศลกรรม  ก็คือ สภาพธรรมฝ่ายชั่วนั่นเอง เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่  และ มีความไม่รู้ เกิดร่วมด้วย และที่สำคัญ ที่ทำอกุศลกรรมหรือทำชั่ว ก็เพราะความไม่รู้ นั่นเอง   พร้อมทั้งความไม่ละอาย ความไม่เกรงกลัวต่อบาป เป็นต้น     เพราะถ้าสภาพธรรมฝ่ายดีเกิดขึ้นเป็นไป จะไม่ทำชั่วอย่างแน่นอน    สำหรับอกุศลกรรมที่ทำไปแล้ว ไม่มีใครลบล้างได้เลย 

การฆ่า ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด จะมีข้ออ้างประการใดก็ตาม ก็คือ การฆ่า  เป็นอกุศลกรรม เมื่อถึงคราวที่อกุศลกรรมให้ผล  ผลที่ไม่ดี ไม่น่าปรารถนาไม่น่าใคร่ไม่น่าพอใจ ก็เกิดขึ้นเป็นไป มีการเกิดในอบายภูมิ เป็นต้น  โดยไม่มีใครทำให้เลย  เป็นผลที่เกิดขึ้นมาจากเหตุที่ได้กระทำแล้ว   

การทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว  เป็นสิ่งที่ควรกระทำ แต่นั่นไม่ใช่การกระทำเพื่อลบล้างความชั่วที่ได้กระทำไปแล้ว เพราะกรรมชั่วได้กระทำไปแล้ว สำเร็จไปแล้ว ไม่มีใครไปลบล้างได้   ส่วนการสะสมความดี ก็เป็นอีกขณะหนึ่งเป็นคนละส่วนกัน ไม่ปะปนกัน    สำหรับการปฏิบัติที่ผิด ที่ทำตามๆ กัน  โดยใช้ชื่อว่า ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน หรือ ชื่ออะไรก็ตาม   นั่น ไม่ใช่ความถูกต้อง  ยิ่งเพิ่มอกุศล มีความเห็นผิด ความไม่รู้ เป็นต้นให้มากขึ้น  ไม่ใช่หนทางที่ถูกต้อง เพราะไม่ได้มีความเข้าใจถูกเห็นถูกอะไรเลย มีแต่ทำตามๆกันไป ตามผู้บอกผู้สอน  โดยลืมไปว่า แล้วพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ว่าอย่างไร   ในเมื่อเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องก็ไม่ใช่กุศล  ใครๆ ก็ไม่อาจยินดีด้วยกับอกุศล เพราะอกุศล เป็นสิ่งที่ไม่ดี  ควรตำหนิ ไม่ใช่สิ่งที่ควรชื่นชมสรรเสริญ  ครับ 

ขอเชิญศึกษาเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ

การทำบาปแห่งผู้รู้กับผู้ไม่รู้

...ยินดีในความดีของทุกๆท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
talaykwang
วันที่ 20 มี.ค. 2564

กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ