ทำอย่างไรดี เมื่อมีศรัทธาอ่อนลงต่อพระศาสนา

 
kornzaq
วันที่  27 เม.ย. 2563
หมายเลข  31812
อ่าน  685

เมื่อปฏิบัติและศึกษาไปเรื่อยๆ บางครั้งความศรัทธาก็อ่อนลง อาจเป็นเพราะว่าบางครั้งก็สงสัยในพระศาสนา และ สงสัยในคำสอนบ้าง และบางครั้งก็เจอคำพูดของผู้อื่นที่มากล่าวหาพระศาสนา บ้าง

อยากทราบว่าทำอย่างไร จึงจะมีศรัทธาและความเชื่อมั่นในพระศาสนาอย่างเต็มเปี่ยม เพื่อที่จะได้ศึกษาและปฏิบัติได้อย่างมั่นใจครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 28 เม.ย. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ควรที่จะได้เข้าใจจริงๆ ว่า ที่มีการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา ก็เพราะมีศรัทธาเห็นประโยชน์ของการได้เข้าใจความจริง คนอื่นเขาจะคิดอย่างไร ก็เป็นเรื่องของบุคคลอื่น แต่สำหรับเรา ถ้าเห็นประโยชน์เห็นคุณค่าของคำจริงแต่ละคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ก็ควรที่จะได้ฟังได้ศึกษาต่อไป เพราะเป็นประโยชน์เท่านั้น

พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงว่า ธรรมเป็นอนัตตาไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย คำสอนที่จะเป็นไปเพื่อความอยาก ความติดข้องต้องการนั้น ไม่ใช่คำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะคำสอนของพระองค์ทั้งหมด เป็นไปเพื่อละโดยตลอด ตั้งแต่ต้นจนถึงที่สุด ศรัทธา และสภาพธรรมที่ดีงามอื่นๆ ไม่ได้เจริญขึ้นเพราะความอยาก เพราะขณะที่อยากนั้น เป็นอกุศล เป็นเหตุขัดขวางให้กุศลธรรมไม่เจริญขึ้นแล้วในขณะนั้น

ศรัทธา ในคำสอนทางพระพุทธศาสนา นั้น เป็นธรรมฝ่ายดี (โสภณธรรม) ที่เกิดร่วมกับจิตที่ดีงาม คือ จิตที่ไม่มีกิเลสเกิดร่วมด้วย ศรัทธาเป็นสภาพธรรมที่ผ่องใส ไม่ขุ่นมัว เป็นไปในทาน เป็นไปในศีล เป็นไปในการอบรมความสงบของจิต และการอบรมเจริญปัญญา จะไม่เกิดร่วมกับอกุศลจิต

เป็นความจริงที่ว่า บุคคลผู้ที่มีศรัทธามั่นคงในพระรัตนตรัย คือ ในพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์นั้น ต้องเป็นผู้ที่มีปัญญาถึงขั้นที่สามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรม ถึงความเป็นพระอริยบุคคล ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้เป็นพระอริยบุคคล ศรัทธายังไม่มั่นคงจริงๆ แต่ก็สามารถอบรมเจริญเพิ่มขึ้นได้ ด้วยความเป็นผู้เห็นประโยชน์ของการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ซึ่งจะเป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูก ละคลายความเห็นผิด ละคลายความสงสัย และกิเลสประการอื่นๆ ศรัทธาก็จะมั่นคงยิ่งขึ้น คล้อยตามความเข้าใจที่เจริญขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าพระอริยบุคคลทั้งหลาย ก่อนที่ท่านจะได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระอริยบุคคลนั้น ท่านก็ยังเป็นปุถุชน ยังไม่มีศรัทธาที่มั่นคง แล้วท่านเหล่านั้นมีศรัทธาที่มั่นคงไม่หวั่นไหวได้อย่างไร ก็ต้องด้วยการอบรมเจริญปัญญา ครับ

...ยินดีในควาดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
kornzaq
วันที่ 28 เม.ย. 2563

ขอบพระคุณมากๆ ครับ

ต้องศึกษาไปและอบรมไปบ่อยๆ ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ประสาน
วันที่ 28 เม.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
สิริพรรณ
วันที่ 4 พ.ค. 2563

ขอร่วมสนทนาค่ะ

เมื่อได้อ่านเการบำเพ็ญพระบารมีของพระมหาโพธิสัตว์ที่ยาวนานแล้ว จะเห็นว่า แต่ละพระชาติ ยากแสนยากเพียงใด แต่ก็สำเร็จได้ ด้วยน้ำพระทัยที่มั่นคงเด็ดเดี่ยวเพื่อพระสัมพัญญุตญาณ และเมื่อบรรลุรู้แจ้งอริยสัจจธรรมแล้ว ก็ทรงประกาศธรรมที่เป็นหนทางดับทุกข์แก่สัตว์โลก

ซึ่งเป็นการยากกว่าจะมีพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งประกาศศาสนา และยากอย่างยิ่งที่จะได้เกิดเป็นมนุษย์ ดังที่ทรงแสดงไว้ในคาถาธรรมบท พุทธวรรค เรื่องนาคราชชื่อเอรกปัตตะ ดังนั้น เมื่อนึกถึงว่าขณะนี้ ได้มีโอกาสที่ประเสริฐแล้ว และพระธรรมยังคงมีอยู่ ให้ได้ฟัง ก็ไม่ควรปล่อยเวลาผ่านไป ที่สำคัญ ชาติต่อไป จะได้โอกาสเช่นชาตินี้หรือไม่ ยิ่งฟัง ยิ่งศึกษา แล้วน้อมพิจารณาไตร่ตรองจะนำไปสู่ความเข้าใจสิ่งที่มีจริงตามที่ทรงแสดง จะยิ่งเพิ่มพูนศรัทธาต่อการศึกษาคำของพระพุทธองค์มากขึ้น ที่จะนำไปสู่การไม่สงสัยในคำสอนของพระพุทธองค์ได้ ดังที่ครั้งพุทธกาล ก็มีผู้ที่ข้ามพ้นความสงสัยได้ เป็นจำนวนมากแล้ว ซึ่งสามารถค้นอ่านได้ในพระไตรปิฎก

ขออนุโมทนาด้วยค่ะที่ได้โอกาสนั้นแล้ว

คลิ๊กศึกษาเพิ่มเติมได้ในหัวข้อดังนี้

สิ่งที่ได้โดยยาก ๔ ประการ

ตั้งแต่ศึกษาธรรมะ_เคยเบื่อไหม

ความเบื่อไม่ทำให้เกิดปัญญา

วิจิกิจฉา

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 5 พ.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ