ศีล 227 ข้อ

 
pth.n
วันที่  27 เม.ย. 2563
หมายเลข  31810
อ่าน  991

เรียนถามวิทยากรค่ะ

ศีลของภิกษุ ๒๒๗ ข้อมีอะไรบ้างคะ จะศึกษาได้จากที่ไหนคะ และเคยได้ยินมาว่าห้ามภิกษุ ดูทีวีทำไมถึงต้องห้ามด้วยคะ และถ้าภิกษุทำผิดศีลเช่นนอนกับ ผู้หญิงโดยปกปิดไม่ให้ใครล่วงรู้แต่ภิกษุนั้นได้กระทำความดี โดยบำเพ็ญประโยชน์ทุกประการ ถ้า

1. ลาสิกขาบทไปเป็นฆราวาส ถ้าตายจะต้องตกนรกไหมคะ

2. มรณะภาพในขณะเป็นภิกษุ ต้องตกนรกขุมไหนคะ

3. ภิกษุบวชแล้วไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยคือทำตัวเหมือนฆราวาสเช่น พระพูดตลกเพื่อให้ฆราวาสหัวเราะ. เมื่อมรณะภาพจะตกนรกหรือไม่คะ ตามที่เห็นมาพระพุทธศาสนาเสื่อมแล้วค่ะ (พระพูดตลกแล้วออกทีวี)

ณ เวลานี้ดิฉันไม่ไปวัดแล้วค่ะเพราะไม่รู้จะไปทำไมไม่เห็นมีอะไร มีแต่สิ่งปลูกสร้างที่สวยงามที่เรียกว่าวัด พระก็ไม่เห็นทำอะไรนอกจากชวนทำบุญค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 27 เม.ย. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ศีลของภิกษุ ๒๒๗ ข้อมีอะไรบ้างคะ

เชิญคลิกอ่านที่นี่...

สิกขาบท [มหาวิภังค์]

1. ลาสิกขาบทไปเป็นฆราวาสถ้าตายจะต้องตกนรกไหมคะ

อาบัติที่มีตอนเป้นพระ ลาสิกขา ไม่มีอาบัติ ไม่ตกนรกเพระาอาบัติ แต่กรรมใดที่ทำจนถึงล่วงกรรมบถ มีฆ่าสัตว์ เป็นต้น ถ้ากรรมนั้นให้ผล ตกนรกได้ครับ

2. มรณะภาพในขณะเป็นภิกษุต้องตกนรกขุมไหนคะ

ไม่ได้มีแสดงไว้ว่าขุมไหนเฉพาะเจาะจงครับ

3. ภิกษุบวชแล้วไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยคือทำตัวเหมือนฆราวาสเช่น พระพูดตลกเพื่อให้ฆราวาสหัวเราะ เมื่อมรณะภาพจะตกนรกหรือไม่คะ

ภิกษุไม่ละอาย ล่วงอาบัติเป็นนิจ และไม่เห็นโทษ ไม่พ้นอาบัติ ตายไปตกนรกครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 27 เม.ย. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ -
หน้าที่ ๓๓๖-๓๓๗

“หญ้าคาอันบุคคลจับไม่ดี ย่อมบาดมือนั่นเอง ฉันใด ความเป็นสมณะ อันบุคคลปฏิบัติไม่ดี ย่อมฉุดเข้าไปในนรก ฉันนั้น”

(พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค ตายนสูตร)

สำคัญที่ความเข้าใจว่า ภิกษุ คือ ใคร บวชทำไม ครับ

ภิกษุ คือ ผู้ที่ได้ฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงมีความเข้าใจ รู้อัธยาศัยของตนเองว่าสามารถที่จะขัดเกลากิเลสในเพศที่สูงยิ่งได้ จึงสละชีวิตของคฤหัสถ์ มุ่งสู่ความเป็นบรรพชิต อุทิศชีวิตทั้งชีวิตเพื่อศึกษาพระธรรม รักษาพระวินัยและประพฤติคล้อยตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นี้คือ จุดประสงค์ของการบวชเป็นภิกษุ ไม่ใช่เพื่อจุดประสงค์อื่นใดทั้งสิ้น ตรงตามความหมายของคำว่า บวช ซึ่งเป็นการเว้นจากอกุศล เว้นจากเครื่องติดข้องทั้งหมดที่เคยมีเมื่อครั้งเป็นคฤหัสถ์ มุ่งสู่เพศที่สูงยิ่ง คือ เพศบรรพชิต เพื่อศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาขัดเกลากิเลสของตนเอง จะมามีความประพฤติเหมือนอย่างคฤหัสถ์ไม่ได้

พฤติกรรมที่ไม่เหมาะไม่ควร เช่น ภิกษุจงใจที่จกระทำ เช่น พูดตลก เหมือนกับนักแสดงตลก มีพฤติกรรมคะนอง เป็นต้น ก็เป็นโทษกับภิกษุผู้กระทำ ซึ่งจะเข้าใจได้เลยว่า การล่วงละเมิดพระวินัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงบัญญัติไว้ดีแล้ว ถ้าไม่เห็นโทษ ไม่แก้ไขไม่ปลงอาบัติไม่มีความสำรวมที่จะไม่กระทำอย่างนั้นอีก ถ้ามรณภาพ (ตาย) ในขณะที่ยังปฏิญาณตนว่าเป็นภิกษุอยู่ ชาติถัดไปต่อจากชาตินี้เลย ต้องไปเกิดในอบายภูมิเท่านั้น จะเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่ได้เลย เพราะไปได้ง่ายๆ เลยสำหรับอบายภูมิ ครับ

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ประสาน
วันที่ 27 เม.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
pth.n
วันที่ 28 เม.ย. 2563

ขอบคุณและสาธุค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
talaykwang
วันที่ 24 พ.ค. 2563

ขออนุโมทนาในกุศลค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 30 พ.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ