พระพุทธศาสนาเถรวาท รัฐธรรมนูญ และการสืบสานพระธรรมวินัย

 
khampan.a
วันที่  6 มี.ค. 2562
หมายเลข  30527
อ่าน  987

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๖๗ บัญญัติไว้ว่า…

รัฐพึงอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น

ในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาอันเป็นศาสนาที่ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่นับถือมาช้านาน รัฐพึงส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาและการเผยแผ่หลักธรรมของพระพุทธศาสนาเถรวาท เพื่อให้เกิดการพัฒนาจิตใจและปัญญา และต้องมีมาตรการและกลไกในการป้องกันมิให้มีการบ่อนทําลาย พระพุทธศาสนาไม่ว่าในรูปแบบใด และพึงส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนมีส่วนร่วมในการดําเนินมาตรการ หรือกลไกดังกล่าวด้วย


---------------------


~ ถ้าเรานับถือพระพุทธศาสนา หน้าที่ ก็คือ ต้องศึกษาพระธรรม คือ พระพุทธศาสนาที่เรานับถือให้เข้าใจถูกต้อง ในขณะเดียวกันเราก็ไม่ได้ไปติเตียนว่าร้ายศาสนาอื่น เพราะแล้วแต่อัธยาศัยว่าใครจะมีความคิดความเชื่ออย่างไร แต่ว่าในเมื่อเป็นผู้ที่ได้กล่าวว่าเรานับถือพระพุทธศาสนาก็ต้องศึกษาคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

~ เถรวาท ก็คือ คำสอนที่พระเถระทั้งหลายสืบเนื่องมาจากท่านที่ได้ฟังจากพระโอษฐ์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหลังจากที่ได้สังคายนาแล้วโดยพระอรหันต์ทั้งหลาย ก็แสดงถึงว่าพระอรหันต์ทั้งหลาย ซึ่งเป็นเถระมั่นคงอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นวาทะของพระเถระทั้งหลาย ก็เป็นที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เพราะเหตุว่า ท่านถึงความเป็นพระอรหันต์ เพราะฉะนั้น ผู้ที่เคารพจริงๆ ก็ศึกษาธรรมและประพฤติปฏิบัติตาม

~ ที่จริงก็เป็นคำที่ถูกต้องที่สุดที่จะทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาเถรวาท เพราะว่าทะนุบำรุงความจริงซึ่งเปลี่ยนแปลงไม่ได้เลย ซึ่งทุกคนก็ควรที่จะได้เข้าใจถูกต้อง เพราะเหตุว่าสิ่งที่ถูกก็ถูก สิ่งที่ผิดก็ผิด เพราะฉะนั้น ดำรงไว้ซึ่งความถูกต้องจริงๆ ก็เป็นที่ดีมากๆ เลยที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้เพื่อที่จะให้คนได้เข้าใจถูกและเข้าใจความจริง ก็ดำรงไว้ซึ่งความถูกต้อง

~ พระธรรมคือคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระวินัยก็เป็นการขัดเกลากิเลสที่ละเอียดอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้น ถ้าพุทธบริษัทไม่เข้าใจ ไม่ศึกษาพระธรรม พระพุทธศาสนาก็ดำรงต่อไปไม่ได้ เพราะฉะนั้น ต้องเป็นผู้ที่ตรงจริงใจและรู้ว่าสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับทุกชีวิต ก็คือ ได้มีโอกาสเข้าใจพระธรรมวินัย เพราะเหตุว่า ถ้าชาตินี้ไม่เข้าใจเลย ชาติต่อๆ ไปจะได้เข้าใจหรือ?

~ พระธรรมวินัยไม่ใช่สำหรับใครคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ แต่สำหรับทุกคนที่ไม่รู้ เพราะเหตุว่าวิกฤตพระพุทธศาสนา วิกฤตของประเทศชาติหรือของโลกก็มาจากความไม่รู้ เพราะฉะนั้น จะแก้ไขวิกฤตได้ก็คือต้องมีความเข้าใจที่ถูกต้องซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้โดยละเอียดยิ่งทุกประการโดยประการทั้งปวง เพราะฉะนั้น ถ้าจะแก้วิกฤต ไม่ใช่คนอื่นเลย แต่ แต่ละคนที่ไม่รู้ได้เริ่มเข้าใจถูกต้องขึ้น มากขึ้นเมื่อไหร่ จึงจะสามารถแก้วิกฤตซึ่งเกิดจากความไม่รู้ได้ เพราะฉะนั้น ไม่ใช่ว่าเราจะไปมอบภาระให้เด็กอย่างที่คิดกันว่าห่วงเด็กข้างหน้าเขาจะได้เป็นคนดีหรือเปล่าถ้าเขาไม่มีความรู้ความเข้าใจในพระธรรมเลย แต่ว่าผู้ใหญ่ล่ะ ถ้าผู้ใหญ่ไม่รู้ไม่เข้าใจแล้วใครจะสอนเด็ก เพราะฉะนั้น พระพุทธศาสนาสำหรับทุกคน ไม่เว้น ไม่ใช่ว่าสำหรับคนอื่น แต่สำหรับคนที่ไม่รู้ได้เริ่มเห็นประโยชน์ที่ใหญ่ยิ่งกว่าสิ่งใด คือ จากความไม่รู้มานานในสังสารวัฏฏ์สามารถที่จะเริ่มเกิดความรู้ความเข้าใจซึ่งตลอดชีวิตมากเท่าไหร่ ความเข้าใจก็ต้องมากเท่านั้น จึงจะสามารถที่จะค่อยๆ ละคลายกิเลสได้.

ขอเชิญรับชมเนื้อหาการสนทนาที่มีค่ายิ่งได้ที่ยูทูปด้านล่างนี้ครับ

พระพุทธศาสนาเถรวาท รัฐธรรมนูญ และการสืบสานพระธรรมวินัย



...กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง

และอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
เมตตา
วันที่ 8 มี.ค. 2562

กราบเท้าบูชาคุณท่าน อ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ด้วยความเคารพอย่างยิ่งค่ะ

...ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เมตตา
วันที่ 11 มี.ค. 2562

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ไม่มีเรา มีแต่ธรรม ฟังธรรมเพื่อเข้าใจธรรม ขณะนี้ธรรมกำลังเกิดแล้วดับ เกิดแล้วดับเกิดดับสืบต่ออย่างรวดเร็ว สิ่งที่เหลือคือนิมิตของสิ่งที่มีจริง . แต่เพราะความไม่รู้จึงยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นเรา เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เที่ยง แท้จริงแล้วไม่มีส้ตว์ บุคคล ต้วตน มีแต่ธรรมค่ะ ฟังเพื่อเข้าใจสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏขณะนี้

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
chatchai.k
วันที่ 20 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ