เรื่อง สมาธิในพระพุทธศาสนา ข้อสงสัย

 
lokiya
วันที่  15 ส.ค. 2561
หมายเลข  29998
อ่าน  1,276

สืบเนื่องจากผมได้ดูคลิปบ้านธัมมะใน youtube คลิปหนึ่งที่กล่าวถึงสมาธิ

จึงอยากขอคำชี้แนะเกี่ยวกับว่า

1. สมาธิในพระพุทธศาสนาที่ช่วยให้พ้นจากสังสารวัฏ เป็นอย่างไร เกิดได้อย่างไร เราสามารถสร้างเหตุและปัจจัยให้เกิดได้หรือไม่ การกระทำ / วิธี แบบใดจึงจัดว่าเป็นสมาธิในพุทธศาสนา

2. สมาธิในพุทธฯช่วยให้วิปัสสนาเจริญขึ้น เหมือนหรือต่างจากสมาธินอกพุทธศาสนา หรือไม่ และสมาธินอกพุทธศาสนาเช่นคำบริกรรมคำหนึ่งๆ การกำหนดลมหายใจ สามารถนำมาช่วย / เป็นพื้นฐาน / เกื้อกูล ให้วิปัสสนาเจริญ / พิจารณาวิปัสนาญาน ได้หรือไม่

ขอขอบพระคุณครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 18 ส.ค. 2561

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

๑. สมาธิ เป็นสภาพธรรมที่มีจริงๆ ไม่ต้องทำก็มีอยู่ทุกขณะจิต เพราะเหตุว่าเป็นเจตสิกประเภทหนึ่งคือ เอกัคคตาเจตสิก ที่จะต้องเกิดกับจิตทุกขณะ ไม่มีเว้น

ที่จะเป็นสมาธิที่จะอุปการะเกื้อกูลให้พ้นจากสังสารวัฏฏ์ (สัมมาสมาธิ) ต้องเป็นไปพร้อมกับปัญญาที่เข้าใจถูกเห็นถูกในสภาพธรรมตรงตามความเป็นจริง เป็นความตั้งมั่นในสิ่งที่ปัญญาเข้าใจถูกเห็นถูกตรงตามความเป็นจริง ซึ่งถ้าไม่มีความเข้าใจถูกเห็นถูกตั้งแต่ในขั้นการฟัง ไม่มีทางที่จะเป็นเบื้องต้นของการออกไปจากสังสารวัฏฏ์ได้เลย

๒. ตามความเป็นจริงแล้ว สมาธิใดที่เกิดพร้อมปัญญาที่รู้ความจริงของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง สมาธินั้นเป็นสัมมาสมาธิตั้งมั่นในอารมณ์นั้นที่ปัญญารู้ตรงตามความเป็นจริง เมื่อสมาธิตั้งมั่นในอารมณ์นั้น ปัญญาก็รู้ความจริงในสภาพธรรมนั้นที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง และ สมาธิใดที่เมื่อเกิดแล้ว ทำให้เกิดการรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง จนถึงระดับวิปัสสนาญานขั้นต่างๆ จนถึงบรรลุเป็นพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ สมาธินั้นก็เป็นปัจจัยให้เกิดปัญญา ด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นสัมมาสมาธิ ซึ่งทั้งหมดนั้นจะต้องมีความเข้าใจถูกเห็นถูกในเรื่องของสภาพธรรมที่มีจริงๆ เป็นรากฐานที่สำคัญอยู่แล้ว

ดังนั้น ไม่มีตัวตนที่จะไปสร้างหรือไปทำอะไรขึ้นมาได้ แต่เมื่อเห็นประโยชน์ของการเข้าใจความจริง ที่จะทำให้ขัดเกลาละคลายความไม่รู้ ความเห็นผิด และความติดข้อง เป็นต้น จึงมีการฟัง มีการศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ ซึ่งพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นไปเพื่อปัญญา ความเข้าใจถูกเห็นถูก โดยตลอด

ถ้ามีการไปนั่งสมาธิ หรือ ทำอะไรต่างๆ ตามๆ กันไป ด้วยความเห็น ว่า จะเป็นทางให้บรรลุธรรม จะเป็นทางที่จะให้เกิดปัญญา ขณะนั้นเป็นไปกับความหวังความต้องการ เป็นอกุศล เมื่อเป็นอกุศลแล้วจะบรรลุธรรมได้อย่างไร และเป็นมิจฉาสมาธิ ด้วย มีแต่จะพอกพูนอกุศลให้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากพระธรรม เป็นเรื่องละ ไม่ใช่ความติดข้องต้องการ

เพราะนั้นแล้ว หนทางที่ควรดำเนิน คือ หนทางแห่งการอบรมเจริญปัญญา เป็นการสะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกจากการฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย เมื่อความเข้าใจเจริญขึ้น ก็เป็นเครื่องปรุงแต่งให้มีการรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา ซึ่งขณะนั้น สมาธิ ก็มีด้วย แต่เป็นสมาธิที่เป็นไปพร้อมกับสติปัญญาที่เข้าใจถูกเห็นถูกในธรรมตามความเป็นจริง เป็นสัมมาสมาธิ ความตั้งมั่นโดยชอบ ไม่ใช่ด้วยการทำ ไม่ใช่ด้วยการจดจ้องต้องการ แต่เป็นความเจริญขึ้นของความเข้าใจถูกเห็นถูกจากการฟังพระธรรมเป็นปกติในชีวิตประจำวัน ครับ

...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 18 ส.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Somporn.H
วันที่ 23 ส.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
wannee.s
วันที่ 28 ส.ค. 2561

1. ขณะที่ฟังธรรมแล้วเข้าใจ ขณะนั้นก็มีสัมมาสมาธิเกิดร่วมด้วย

2. ขณะที่สติปัฏฐานเกิดขณะนั้นก็มีมรรค 5 คือสัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ เกิดร่วมด้วย

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 20 เม.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ