สมองตายบริจาคอวัยวะ

 
lada
วันที่  27 มี.ค. 2560
หมายเลข  28719
อ่าน  1,020

กรณีผู้ป่วยถูกแพทย์วินิจฉัยว่ามีภาวะสมองตาย แต่ยังหายใจผ่านเครื่องช่วยหายใจ แต่ไม่สามารถรับรู้หรือเจ็บปวดใดๆ ทางกาย แล้วมีการยินยอมให้บริจาคอวัยวะส่วนต่างๆ ในร่างกายโดยญาติ อยากทราบว่า

1.ผู้ป่วยจะได้บุญหรือเปล่าถ้าญาติอุทิศส่วนกุศลให้

2.ญาติที่ยินยอมให้มีการนำอวัยวะผู้ป่วยไปบริจาคหรือแพทย์ผู้ผ่าตัดนำอวัยวะออกจากร่างไปให้ผู้อื่นจะได้บุญหรือบาป

ขอผู้รู้ช่วยชี้แจงด้วยค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 28 มี.ค. 2560

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

บุญ คือ สภาพจิตที่ดีงาม ที่ปราศจากโลภะ โทสะและโมหะ ซึ่งเกิดขึ้นกับจิต ของบุคคลนั้น บุญไม่สามารถส่งต่อกันได้ ครับ ซึ่ง

1.ผู้ป่วยจะได้บุญหรือเปล่าถ้าญาติอุทิศส่วนกุศลให้

ถ้าผู้ป่วย มีเจตนาตั้งแต่แรกที่บริจาคอวัยวะส่วนต่างๆ อยู่แล้ว เจตนาดีมีแล้ว ขณะที่คิดบริจาค ขณะนั้นเป็นบุญ แต่ หาก ไม่ได้มีเจตนาบริจาค ผู้ป่วย ก็ไม่เกิดกุศลจิต ในเรื่องการบริจาคอวัยวะ ครับ ส่วน ญาติจะอุทิศส่วนบุญให้ ก็ขึ้นอยู่กับว่า ผู้ที่จากไป เกิดในภพภูมิที่สามารถรับผลของบุญนั้นได้หรือไม่ ถ้าเกิดเป็นสัตว์นรก เกิดเป็นมนุษย์ ก็ไม่ได้รับ เพราะไม่รู้ในบุญที่อุทิศให้ ครับ และแม้เกิดในภพภูมิที่สามารถรับได้ คือ เกิดเป็นเปรต เป็นต้น แม้จะรู้ แต่ไม่เกิด กุศลจิตที่อนุโมทนา ก็ไม่ได้รับส่วนบุญ เพราะต้องไม่ลืมว่า บุญ ไม่ใช่การส่งต่อให้แบบของ แต่ต้องเป็นจิตใจของตนเองที่เกิดบุญเองในขณะนั้น ครับ

2.ญาติที่ยินยอมให้มีการนำอวัยวะผู้ป่วยไปบริจาคหรือแพทย์ผู้ผ่าตัดนำอวัยวะออกจากร่างไปให้ผู้อื่นจะได้บุญหรือบาป

ญาติมีเจตนาสละ หากผู้นั้น เสียชีวิตแล้ว ก็สละให้คนอื่น เจตนาสละนั้นเป็นบุญ ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
lada
วันที่ 28 มี.ค. 2560

ขอบคุณค่ะสำหรับผู้ชี้แนะ แต่สมองตายผู้ป่วยยังหายใจด้วยเครื่องช่วยหายใจอยู่นะคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
paderm
วันที่ 28 มี.ค. 2560

ก็ขึ้นอยู่กับสภาพจิตของแต่ละคน ถ้ามีเจตนาให้เขาตาย ก็บาป และ ถ้าผู้ป่วยไม่มีเจตนาจะให้ ก็ไม่เป็นบุญครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
p.methanawingmai
วันที่ 28 มี.ค. 2560

ขออนุโมทนาในกุศลจิตค่ะ ซึ่งตัวเองก็ได้ยื่นเจตจำนงค์บริจาคอวัยวะไว้เช่นกันค่ะ และบริจาคโลหิต เท่าที่ร่างกายนี้สามารถทำประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ค่ะ สาธุค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
khampan.a
วันที่ 28 มี.ค. 2560

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ธรรมเป็นเรื่องที่ละเอียดมาก ต้องอาศัยการฟัง การศึกษา พิจารณาในเหตุในผลของธรรม สำคัญที่ความเข้าใจถูกเห็นถูกจริงๆ เมื่อเข้าใจอย่างถูกต้องแล้ว ย่อมเป็นผู้มีความมั่นคงในความเป็นจริง แม้แต่ในประเด็นคำถาม ต้องเข้าใจว่า เหตุดี คือ กุศลกรรม ย่อมให้ผลที่ดี น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ แต่ถ้าเป็นเหตุที่ไม่ดี กล่าวคือ เป็นอกุศลกรรม มีการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประทุษร้ายเบียดเบียนผู้อื่น เป็นต้น ย่อมให้ผลที่ไม่ดี อย่างแน่นอน เป็นไปไม่ได้ ที่เหตุดี จะให้ผลที่ไม่ดี และ เป็นไปไม่ได้ ที่เหตุไม่ดี จะให้ผลที่ดี เหตุย่อมสมควรแก่ผลจริงๆ และประการที่สำคัญ ความดี เป็นสิ่งที่ควรสะสม ควรเจริญในชีวิตประจำวัน แต่ถ้าเป็นอกุศล แล้ว ควรหลีกออกห่างให้ไกลที่สุด การที่มีเจตนาบริจาคอวัยวะ ร่างกาย เป็นกุศลเจตนาที่เกิดขึ้นในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งเมื่อเราสิ้นชีวิตไปแล้ว สิ่งที่บริจาคไป ทางโรงพยาบาลได้รับและนำไปใช้ประโยชน์ได้ ย่อมเป็นประโยชน์ กุศลเจตนาที่บริจาค เป็นกุศลกรรม เป็นความดี เมื่อถึงเวลาที่ความดี นี้ให้ผล ก็ย่อมให้วิบากที่ดี น่าปรารถนา น่าใคร่น่าพอใจ เท่านั้น ครับ

...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
มานิสาโข่งเขียว
วันที่ 28 มี.ค. 2560

อนุโมทนาสาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ประสาน
วันที่ 30 มี.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 31 มี.ค. 2560

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
peem
วันที่ 1 เม.ย. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
สิริพรรณ
วันที่ 2 เม.ย. 2560

การสละสิ่งที่มีเพื่อประโยชผู้อื่น ระลึกครั้งใดก็ปิติใจ ผู้ได้รับทราบกุศลจิต กุศลกรรมนั้น จึงกล่าวอนุโมทนา

สละโดยการไม่หวังผลตอบแทน แต่พิจารณาประโยชน์ผู้รับ

ขออนุโมทนาด้วยค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ