สารธรรมจากการสนทนาพระสูตร 6 ธันวาคม 2557
สนทนาพระสูตร 6 ธันวาคม 2557
@ ทุกอย่างไม่ได้สำเร็จเพราะความหวังแต่สำเร็จด้วยเหตุที่ถูกต้อง
@ ฟังอะไรก็เข้าใจสิ่งที่กำลังฟัง
@ กำลังฟังเข้าใจ ขณะนั้นเป็นปัญญา ซึ่งเพียรที่จะฟังต่อไป ก็จะเข้าใจเพิ่มขึ้น
@ ถ้าเข้าใจแล้ว ไม่ต้องห่วงความเพียร เพราะถ้าเข้าใจถูกขึ้น ก็จะเพียรที่จะฟังต่อไป ไหมคะ
@ ไม่มีตัวตนที่จะทำ แต่ยังมีตัวตน จนกว่าจะไม่มีตัวตน ด้วยการค่อยๆ เข้าใจถูกว่าเป็น แต่เพียงธรรมต่อไป
@ อยากอ่านพระธรรมเรื่องนู้นเรื่องนี้ แต่ลืมว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร คือ สภาพธรรม ที่มีจริงในขณะนี้
@ ลองถามผู้ที่ไปสำนักปฏิบัติ อยากเป็นพระโสดาบันไหม ไม่ได้สนใจเหตุเลย คือ การเจริญอบรมปัญญาทีเ่ป็นเหตุให้ถึงความเป็นพระโสดาบัน
@ ทุกคำที่ได้ยินไม่ควรเผิน เช่น ไม่คบคนพาล ถ้าไม่เข้าใจธรรม จะรู้ไหมว่าเป็น คนพาล แต่ถ้าสะสมบุญ สะสมปัญญามาแต่กาลก่อน ย่อมสามารถรู้ได้ และรู้ว่า อะไรถูก อะไรผิด
@ พาล คือ คำที่ไม่จริง บัณฑิต คือคำจริง
@ สะสมความไม่รู้ และความเป็นเราตลอด ตั้งแต่เกิดจนตาย เคยไม่รู้มานานเท่าไหร่ กว่าจะละความยึดถือว่าเป็นเรา จะต้องสะสมปัญญานานเท่าไหร่ เพราะฉะนั้น ก็ค่อยๆ อบรมไป ในการฟัง ศึกษาพระธรรม
@ จะเพียรหรือเปล่าคะ ขณะนี้เพียรเกิดแล้ว ไม่ต้องไปทำความเพียร หนทางที่ถูก คือ ฟังให้เข้าใจ
@ สะสมความไม่รู้มามาก หนทางเดียว คือ ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมว่าไม่ใช่เรา
@ ภาระ เริ่มเห็นภาระหรือยัง คือ ความเป็นไปของสภาพธรรมที่เกิดในขณะนี้ ดับขณะนี้ เป็นภาระ เห็นภาระด้วยปัญญาว่าเป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เราค่ะ
@ ขณะนี้ เดี๋ยวนี้เป็นสิ่งที่ควรรู้ยิ่ง และค่อยๆ คลายความติดข้องว่าเป็นเรา ว่าเป็นแต่ เพียงธรรม
@ ขณะที่ปัญญาเกิดรู้ความจริง ขณะนั้น อารักขา ให้ไม่เกิดความไม่รู้ และค่อยๆ ละ ความไม่รู้ได้ทีละน้อย
@ แม้ได้ฟังคำจริง ผู้ที่ไม่ได้สะสมปัญญามา ไม่เข้าใจเลย แต่พอได้ยินคำไม่จริง ไม่ถูกต้อง เข้าใจหมดเลย เพราะสะสมความไม่รู้และความเห็นผิดมา
@ ถ้าสะสมความเห็นถูกมาย่่อมเปลี่ยนแปลงได้ไปในทางที่ดี แม้ท่านพระสารีบุตร ฟังคำของท่านพระอัสสชิ แต่ไม่ฟังคำอาจารย์ที่สอนผิดอีกต่อไป
@ พอได้ฟังความเพียรในพระสูตร ก็จะทำความเพียร ลืมความเป็นอนัตตาและเกิด ตามเหตุปัจจัย
@ ต้องไม่ลืมว่าเราเป็นใคร แล้วจะทำอย่างนี้ ทำได้ไหม ถ้าปัญญาไม่พอ
@ ทางโลกทางธรรมแยกกันได้ไหมคะ แยกไม่ได้เลย คนที่ไม่เข้าใจก็จะแยก เพราะ ถ้าไม่มีธรรม จะแยกได้ไหม





