สารธรรมจากหาดชะอำ
หาดชะอำ วันสบายๆ 23 ธันวาคม 2557
ท่านอาจารย์ดวงเดือน ได้ให้เจ้าหน้าที่และวิทยากร มาพักผ่อนที่แก่งกระจาน และรับ ประทานอาหารที่หาดชะอำ มื้อกลางวันและมีบทสนทนาธรรมดีๆ จึงนำมาฝากกันครับ

@ ขณะทีรู็ว่าจะเป็นวิบาก ไม่ใช่คิดรวมๆ เป็นเรื่องราว เหมือนเราได้ยินเสียงดนตรี ไม่ ใช่ว่าจะเป็นกุศลวิบากนะคะ ขณะที่ได้ยินเสียงดังๆ
@ ตอนซ้อมดนตรี เสียงดังๆ จะเป็นกุศลวิบากได้อย่างไร แต่เป็นอกุศลวิบาก
@ ขณะที่ได้ยินเสียงธรรม ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นกุศลวิบากนะคะ เพราะ เราไม่ได้ แยกระหว่างตัวเสียงกับตัวคิด ด้วยความเข้าใจ เพราะตัวเสียงดังไป จะบอกว่าเป็นกุศล วิบากทางหูไม่ได้เลย แต่ ขณะที่เข้าใจ ก็เป็นกุศลจิตของคนนั้นที่ได้ฟังเสียง ดัง หรือ ไม่ดัง ก็ตาม ก็เข้าใจถูก ตามการสะสม
@ วาสนา คือ การสะสมสิ่งที่ดี และ ไม่ดี ถ้าเราสะสมฝ่ายไม่ดีมามาก แต่ไม่สามารถละ ได้ในวาสนาสิ่งที่ไม่ดีได้ทั้งหมดเหมือนพระพุทธเจ้า เพียงแต่ไม่เกิด อกุศลจิตเท่านั้น สำหรับผู้ที่เป็นพระอรหันต์

@ สิ่งหนึ่งที่คนเข้าใจผิด คือ ต้องไปทำให้ประจักษ์ มันผิดตรงนี้ ผิดมากๆ เพราะ แท้ที่ จริง คือ ปัญญานำไปสู่กิจทั้งปวง ถ้าไม่มีปัญญาแล้วจะเอาอะไรมาประจักษ์ คะ เพราะ ฉะนั้น ก็ต้องสะสมความเข้าใจพระธรรม ไม่ต้องไปทำอะไรทั้งสิ้น
@ ถ้าไม่มีความเข้าใจถูก ต่อให้มีสภาพธรรมอะไรปรากฏก็ไม่เข้าใจ ได้แต่คิดว่าเข้าใจ
@ ส่วนใหญ่ละเลยความเข้าใจ เพราะความเข้าใจก็คือปัญญา พอได้ยิน กุศล ได้ยิน ปัญญาก็อยากจะได้ อยากจะทำ อยากจะรู้ อยากจะหมดกิเลส
@ ไม่ต้องไปไกลเลยค่ะ แค่นี้สิ่งที่ปรากฏทางตายังไม่รู้ หรือ เข้าใจแค่ไหน แค่เป็นบุญ ที่ได้ยินได้ฟัง ว่าเป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏ เข้าใจขั้นการฟัง ก็ถูกแล้ว ค่อยๆ สะสมไป

@ เห็นเป็นนู้นเป็นนี้ เพราะ สภาพธรรมเกิดดับเร็ว แต่ค่อยๆ พิจารณาขั้นการฟังไป ว่า มีเห็น มีสิ่งที่ปรากฏทางตา แล้วก็มีคิด เห็นก็เป็นปกติ
@ สงสารคนที่ไม่ได้ฟังนะคะ ต่อไปก็ไม่ได้ฟังอีก แต่ถ้าได้ฟังแล้ว ก็เป็นปกติ ตามการ สะสม ไม่ได้เปลี่ยนให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้
@ ฟังเสียงดิฉัน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นกุศลวิบาก ขณะที่เสียงแหบ ก็เป็น อกุศลวิบาก ทางหูได้
@ กว่าจะเกลี้ยงเกลา เพราะสะสมความไม่รู้มานาน ที่จะเข้าใจว่าเป็นธรรม แต่ก็ต้อง อดทน ไม่ย่อท้อ ฟังต่อไป
@ บางคนน่าเสียดาย ได้ฟังแต่ไม่สนใจ ไม่ใช่วิชาทางโลก แต่เป็นวิชาที่พระพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้ และตรัสไว้
@ พระธรรมสำคัญมาก เพราะเป็นปกติ เป็นปกติ เพราะสภาพธรรมที่เกิดแล้ว ไม่ต้อง ไปทำอย่างอื่น
@ อย่าง ฟัง สทร. ตอนเช้า ฟังเรื่องตบะ ก็จะไปอดทนทำอย่างอื่น แต่ขณะนี้ เข้าใจ ว่าเป็นธรรม ก็เป็นตบะแล้ว อดทนแล้วที่จะเข้าใจสภาพธรรมขณะนี้ ไม่ต้องไปอดทน อย่างอื่นเลย
@ ปัญญาที่เข้าใจ เขาจะนำไปสู่การรู้ความจริง

@ อย่างน้อยที่สุด แม้เข้าใจน้อยแต่ค่อยๆ สะสม ก็จะทำให้ถึงการรู้ความจริงได้สักวัน
@ ปกติเดี๋ยวนี้ไม่รู้ ก็ค่อยๆ รู้ขึ้นเหมือนในขณะนี้นั่นเอง
@ ตัวตนจะมาแทรกตลอดที่จะทำ ปิดบังความจริงที่จะเข้าใจสภาพธรรมในขณะนี้
กราบบูชาพระคุณท่านอ.สุจินต์ ที่เคารพยิ่ง
ในความเมตตากรุณานำพระธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว ถ่ายทอดให้พวกเราอย่างแ่จ่มแจ้ง เป็นเวลานานหลายสิบปี ดีใจค่ะที่เห็นท่านอ.และเจ้าหน้าที่ได้พักผ่อนสบายๆ บ้าง เพราะตลอดเวลามีแต่ให้ ... ให้ ... และให้ ... พวกเรามากเหลือเกิน แม้พักผ่อนยังให้ความรู้ มีประโยชน์มากๆ ค่ะ
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
" ... สิ่งหนึ่งที่คนเข้าใจผิด คือ ต้องไปทำให้ประจักษ์ มันผิดตรงนี้ ผิดมากๆ เพราะ แท้ที่จริง คือ ปัญญานำไปสู่กิจทั้งปวง ถ้าไม่มีปัญญาแล้วจะเอาอะไรมาประจักษ์ คะ
เพราะฉะนั้น ก็ต้องสะสมความเข้าใจพระธรรม
ไม่ต้องไปทำอะไรทั้งสิ้น ... "
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะ เป็นอย่างยิ่ง แม้เพียงข้อความเดียว ก็มีค่าที่สุด เมื่อเข้าใจ
เมตตาของท่านอาจารย์และอาจารย์ดวงเดือน ตั้งแต่ได้รู้จักท่านมาช่างมากมายมหาศาล เหลือเกิน..คิดอยู่เสมอว่า..ชาตินี้คงทดแทน บุญคุณของท่านทั้งสองไม่หมด ... นอกจากเพียรทำความดีต่อไปเรื่อยๆ
กราบอนุโมทนาท่านทั้งสองไว้ ณ ที่นี้ด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ ฟองจันทร์ วอลชและลูกๆ ทั้งสอง
ชีวิตที่เป็นปกติ นี่แหละคือของที่มีจริง เป็นธรรมะ จากการฟังมาเป็นหลายปี ทั้งที่สะสม มาก็คงมีบ้าง ระลึกศึกษาสำเนียกบ้างไหม ถ้ามีการกระทำเช่นนั้น แล้วรู้ไหมว่าไม่ใช่เรา ที่ระลึก
สวัสดีปีใหม่แก่ทุกท่าน และกราบอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

















