ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ที่ถูกต้องคืออย่างไร

 
หนทาง
วันที่  28 ก.พ. 2555
หมายเลข  20651
อ่าน  83,092

ผมได้ฟังสนทนาของมูลนิธิฯ แล้วมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น จากคนที่ไม่รู้อะไร แม้แต่คำว่าธรรมะ แต่พอได้ฟังมากขึ้นก็เข้าใจมากขึ้น และผมต้องการเข้าใจคำสามคำที่ว่า ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ มีความหมายตามคำสอนของพุทธองค์ว่าอย่างไร มีความสัมพันธ์กันอย่างไร ขอแหล่งอ้างอิงด้วยยิ่งดีขอรับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 28 ก.พ. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ปริยัติ ปริ (รอบ) + ยตฺติ (ศึกษา, เล่าเรียน) ระเบียบคำอันควรศึกษาโดยรอบ หมายถึง พระพุทธพจน์ หรือ พระไตรปิฎก (รวมทั้งอรรถกถา ฎีกา อนุฎีกา และคำอธิบายต่างๆ เพื่อให้เข้าใจในหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า) การศึกษาปริยัติมี ๓ อย่างคือ

๑. อลคัททูปริยัติ การศึกษาแบบจับงูพิษที่หาง คือ ศึกษาพุทธพจน์เพื่อ ลาภ สักการะ สรรเสริญ หรือเพื่อยกตนข่มผู้อื่น ย่อมเป็นโทษกับตนเอง เหมือนการจับงูพิษที่หาง งูย่อมแว้งขบกัดเอาได้

๒. นิสสรณัตถปริยัติ การศึกษาเพื่อประโยชน์แก่การออกไปจากทุกข์คือ ศึกษาพุทธพจน์เพื่ออบรมปัญญา เป็นการศึกษาของผู้ที่เห็นโทษภัยของกิเลส เห็นภัยในวัฏฏสงสารปรารถนาจะออกไปจากวัฏฏทุกข์

๓. ภัณฑาคาริกปริยัติ การศึกษาแบบขุนคลัง คือ ศึกษาพุทธพจน์เพื่อทรงพระศาสนาไว้ ไม่ให้เสื่อมสูญ เป็นการศึกษาของพระอรหันต์ซึ่งหมดกิจในการอบรมปัญญาเพื่อละกิเลสแล้ว แต่มีฉันทะและเห็นประโยชน์ในการศึกษาเพื่อถ่ายทอดพระธรรมคำสอนให้แก่ชนรุ่นหลัง

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 28 ก.พ. 2555

ปฏิบัติ ปฏิ (เฉพาะ) + ปตฺติ (การถึง)

การถึงเฉพาะ หมายถึง สัมมาปฏิบัติ คือ การปฏิบัติชอบ การปฏิบัติถูกต้อง ได้แก่ ขณะที่สภาพธรรมฝ่ายดีงามเกิดขึ้นทำกิจของตน เป็นไปในกุศลขั้นต่างๆ โดยเฉพาะ การปฏิบัติธรรมขั้นวิปัสสนาภาวนา หมายถึง ขณะที่สติพร้อมสัมปชัญญะที่เกิดขึ้นระลึกรู้ลักษณะของนามธรรมหรือรูปธรรม และรู้ความจริงว่าเป็นเพียงนามธรรมรูปธรรมเท่านั้น ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน หรือสิ่งหนึ่งสิ่งใดเลย และไม่มีใครเป็นผู้ปฏิบัติ นอกจากสติสัมปชัญญะและโสภณธรรมที่ทำหน้าที่ปฏิบัติกิจของตนๆ ความเข้าใจถูกต้องในเรื่องความเป็นอนัตตาของสภาพธรรม จะเป็นปัจจัยให้มีการปฏิบัติที่ถูกต้องและละความยึดถือความเป็นตัวตนได้ในที่สุด

ปฏิเวธ ปฏิ (ตลอด) + วิธ (การแทง)

การแทงตลอด หมายถึง การตรัสรู้ธรรม บรรลุมรรค ผล นิพพาน ซึ่งเป็นผลจากการศึกษาปริยัติและปฏิบัติที่ถูกต้อง

ความเกี่ยวข้อง สัมพันธ์กันของ ปริยัติ ปฏิบัติและปฏิเวธ

เพราะอาศัยปริยัติ คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า ที่แสดงความจริงของสภาพธรรมต่างๆ โดยนัยต่างๆ มีพระวินัย พระสูตรและพระอภิธรรม ย่อมทำให้ถึงการปฏิบัคิ คือ การระลึกลักษณะของสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา และเมื่อปฏิบัติบ่อยๆ คือ สติและปัญญาเกิดบ่อยๆ ย่อมถึงการบรรลุธรรม คือ ปฏิเวธได้นั่นเองครับ ดังนั้น เพราะอาศัยปริยัติ การศึกษาพระธรรมที่ถูกต้อง ย่อมถึงการปฏิบัติ คือ ปัญญาที่รู้ความจริงในขณะนี้ และถึงปฏิเวธ คือ การดับกิเลส บรรลุ มรรค ผล ครับ

ปริยัติที่ถูกต้อง ย่อมนำไปสู่ปฏิบัติที่ถูกต้อง

ปฏิบัติที่ถูกต้อง ย่อมนำไปสู่ปฏิเวธที่ถูกต้อง (รู้แจ้งอริยสัจจธรรม)

การศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรมที่ถูกต้อง จึงเป็นสิ่งสำคัญและเกื้อกูลต่อการปฏิบัติและปฏิเวธ ครับ

ขออนุโมทนา

เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ

พระธรรมกับการดำเนินชีวิต [คำว่าปริยัติ-ปฏิบัติ-ปฏิเวธ]

ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ

เชิญคลิกฟังที่นี่ครับ

ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ต้องตรงกัน

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 28 ก.พ. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาัสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ปัญญาทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น ต้องมาจากการศึกษาในขั้นปริยัติ ซึ่งจะเห็นได้ว่าพระอริยสาวกทั้งหลายอาศัยการศึกษาปริยัติธรรมแล้วจึงถึงความเป็นพระอริยบุคคล จะไม่มีใครแม้แต่คนเดียว ซึ่งกล่าวว่าปัญญาที่ได้มาที่ได้เข้าใจลักษณะของสภาพธรรมที่สามารถประจักษ์แจ้งลักษณะของสภาพธรรมนั้น ไม่ได้เกิดจากการฟังพระธรรม ไม่สามารถที่จะกล่าวอย่างนี้ได้ เพราะปัญญาความเข้าใจถูกเห็นถูก ต้องเริ่มที่การฟังพระธรรมในแนวทางที่ถูกต้อง บุคคลผู้ที่เห็นคุณของพระรัตนตรัย มีพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ย่อมไม่ขาดการฟังพระธรรมซึ่งเป็นปริยัติธรรม มิฉะนั้นแล้ว ชีวิตวันหนึ่งๆ ก็อยู่ไปๆ โดยไม่รู้ลักษณะสภาพธรรมตามความเป็นจริง

ข้อสำคัญที่สุดสำหรับผู้ที่ฟังพระธรรมและศึกษาพระธรรม คือ ต้องรู้ว่าเพื่อน้อมประพฤติปฏิบัติตามเท่าที่สามารถจะกระทำได้ โดยที่ไม่เพียงแค่ฟังเท่านั้น แต่ต้องฟังเพื่อที่จะได้ประพฤติปฏิบัติตามด้วย จึงชื่อว่าเป็นผู้ที่เคารพในพระธรรมจริงๆ

เพราะฉะนั้นแล้ว การศึกษาตามหลักคำสอนของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ต้องเป็นไปตามลำดับ กล่าวคือ

- ผู้ศึกษาต้องฟังพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ก่อน ซึ่งเป็นการศึกษาในขั้นของปริยัติ (ปริยัติ หมายถึง การรอบรู้ในพระธรรมคำสอน)

- เมื่อฟังเข้าใจแล้วจึงน้อมประพฤติปฏิบัติตามคำสอน (ซึ่งไม่มีตัวตนที่ปฏิบัติ แต่เป็นธรรมปฏิบัติหน้าที่ของธรรม คือ สติและปัญญาเกิดขึ้นระลึกรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ)

- เมื่อปฏิบัติตามคำสอนจึงจะมีผลคือการรู้แจ้งอริยสัจจธรรมละกิเลสได้ตามลำดับขั้น (เป็นขั้นปฏิเวธ คือ การแทงตลอด การรู้แจ้งอริยสัจจธรรม)

ปฏิเวธจะมีไม่ได้ถ้าไม่มีการปฏิบัติอย่างถูกต้อง และการปฏิบัติอย่างถูกต้องจะมีไม่ได้ถ้าไม่มีการศึกษาพระธรรมคำสอนอย่างถูกต้อง ทั้งปริยัติ ปฏิบัติ และ ปฏิเวธ ต้องเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
หนทาง
วันที่ 28 ก.พ. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
daris
วันที่ 29 ก.พ. 2555

ขออนุญาตเรียนถามเพื่อตรวจสอบความเข้าใจของตัวเองครับ

จาก link ที่อาจารย์ผเดิมได้กรุณาแนะนำ ลองอ่านแล้ว เข้าใจว่า ปฏิเวธ คือการที่ปัญญาสมบูรณ์พร้อมตั้งแต่ขั้น นามรูปปริจเฉทญาณ เป็นต้นไปจนถึงการรู้แจ้งอริยสัจจดับกิเลสสำเร็จเป็นพระอริยบุคคลเป็นขั้นๆ ใช่หรือไม่ครับ หรือว่านับเฉพาะการรู้แจ้งอริยสัจจธรรมเป็นพระอริยบุคคลเท่านั้น (วิปัสสนาญาณขั้นต้นๆ ก่อนมรรคญาณไม่นับ)

กราบขอบพระคุณครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
paderm
วันที่ 29 ก.พ. 2555

เรียนความเห็นที่ 5 ครับ

โดยมาก คำว่า ปฏิเวธ หมายถึง การแทงตลอดสัจจะ นั่นคือ ต้องเป็นขณะที่เป็น มรรคจิตและผลจิต ชื่อ เป็นปฏิเวธ

ส่วน วิปัสสนาญาณ ยังไม่ชื่อว่าการแทงตลอดสัจจะจริงๆ ครับ

ดังนั้น คำว่าการประจักษ์ลักษณะของสภาพธรรม มีหลายระดับ แต่ถ้าใช้กับปฏิเวธ หมายถึง การแทงตลอดสัจจะ คือ อริยสัจ ๔ ถึง มรรคจิต ผลจิต จึงเป็น ปฏิเวธครับ

ขออนุโมทนา

[เล่มที่ 13] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 356

ก็ในบทว่า พหุสฺสุตา นี้ พหุสุตะ มี ๒ คือ ปริยัตติพหุสุตะ ปฏิเวธพหุสุตะ.

ปิฏก ๓ ชื่อว่า ปริยัติ. การแทงตลอดสัจจะ ชื่อว่าปฏิเวธ.

[เล่มที่ 15] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม ๓ ภาค ๑๑ - หน้าที่ 249

จริงอยู่ อันตรธานมี ๓ อย่าง คือ

ปริยัตติอันตรธาน ๑

ปฏิเวธอันตรธาน ๑

ปฏิปัตติอันตรธาน ๑

ในอันตรธานเหล่านั้น พระไตรปิฎกชื่อว่า ปริยัติ. การแทงตลอดสัจจะชื่อว่าปฏิเวธ.

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
daris
วันที่ 29 ก.พ. 2555

ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์ผเดิมที่ช่วยให้ความเข้าใจครับ

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
เซจาน้อย
วันที่ 29 ก.พ. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาัสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
SOAMUSA
วันที่ 2 มี.ค. 2555

กราบอนุโมทนา สาธุ อาจารย์ทั้งสองท่านค่ะ

ปฏิเวธ เดี๋ยวนี้ปุถุชนคนธรรมดานำมาใช้กับตัวเอง เมื่อผู้ถึงผลการปฏิบัติ ไม่สมควรอย่างยิ่งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
เมตตา
วันที่ 2 มี.ค. 2555

ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นค่ะ

ผู้ที่อบรมเจริญปัญญาจนสามารถแทงตลอดสัจจะ คือ อริยสัจ ๔ ได้ถึงความเป็นพระอริยบุคคล ผู้นั้นย่อมแสดงหนทางปฏิบัติได้ ซึ่งหนทางปฏิบัติถูกย่อมมาจากปริยัติที่ถูกต้อง โดยรอบรู้ในสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ จนปัญญาคมกล้า เป็นปัจจัยให้สติระลึกถูกต้องตรงลักษณะสภาพธรรม ตามที่ได้ฟัง ได้ศึกษามา

เพราะฉะนั้น ผู้ใดได้กล่าวว่าตนได้ปฏิบัติจนแทงตลอดสัจจะแล้วนั้น ผู้นั้นย่อมสามารถแสดงหนทางให้รู้ ให้เข้าใจความจริงที่กำลังปรากฏได้ ไม่เช่นนั้นก็ไม่ใช่หนทางที่ถูกต้อง

...ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ...

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
สิริพรรณ
วันที่ 12 มิ.ย. 2559

กราบอนุโมทนา ขอบพระคุณในกุศลจิต ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
คนไทยชัยนา
วันที่ 21 พ.ย. 2559

ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับท่านและทีมงาน ผมขออนุญาตเผยแพร่ สาระความรู้ดีๆ ต่อสาธุชนคนพุทธ เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้หลักธรรมคำสอนของพุทธองค์ และนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้องถูกวิธี อันจักก่อให้เกิดผลดีทั้งผู้ประพฤติปฏิบัติเองและผู้คบหาสมาคมด้วย

สาธุ สาธุ สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
suteesee
วันที่ 3 มี.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
Putt
วันที่ 24 มี.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

ขอให้เผยแพร่ในไลน์บ้างครับ.

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
uncletom
วันที่ 29 มี.ค. 2561

อ่านแล้ว เข้าใจครับ กราบครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
kullawat
วันที่ 6 มิ.ย. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
chatchai.k
วันที่ 20 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
Nataya
วันที่ 22 ก.ค. 2563

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ