สัทธา (3)

 
pirmsombat
วันที่  6 ต.ค. 2553
หมายเลข  17316
อ่าน  3,012

ข้อความบางตอนจากการบรรยายธรรมโดยท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ท่านอาจารย์ มีข้อสงสัยอะไรไหมคะในเรื่องนี้ เรื่องที่เกี่ยวกับ สัทธา ซึ่งก็ขอถือโอกาสอนุโมทนาทุกๆ ท่าน ที่ร่วมกันดำเนินงานเผยแพร่พระธรรมทางวิทยุ ทั้งท่านที่ได้บริจาคปัจจัย เป็นค่าเช่าสถานี ท่านที่ได้พยายามหาสถานีวิทยุ เพื่อที่จะให้ผู้ฟังได้เกิดปัญญา ความเข้าใจพระธรรมยิ่งขึ้น ท่านที่บริจาคปัจจัย เพื่อการพิมพ์หนังสือธรรม เป็นธรรมบรรณาการ ซึ่งงานทุกอย่างนี้ จะเห็นสัทธาได้ ถ้าไม่ได้ยินได้ฟัง ก็อาจจะไม่ได้ทราบว่า ต้องมีสัทธาทุกย่างก้าว หรือว่าทุกการเคลื่อนไหวในการที่จะติดต่อหาสถานี ในการที่จะจัดทำเทปออกอากาศเป็นจำนวนมากทีเดียว เพราะว่าไม่ใช่เพียงสถานีเดียว ต้องมีสัทธาในการติดต่อ ในการส่งเทป ในการรับเทป เพราะว่าบางทีท่านผู้ฟังอาจจะได้ฟังวิทยุครั้งหนึ่ง ครั้งที่เท่าไรก็ดี แล้ววันต่อไปก็ข้ามไปอีกครั้งหนึ่ง หายไปครั้งหนึ่ง โดยที่ไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น แต่ความจริงสถานีวิทยุนี้รีบเปิด เพราะฉะนั้น เวลาที่เปิดก็ทำให้หน้าของเทปพลิกเพราะฉะนั้น หน้านั้นก็ไม่มีอะไรเลย แล้วก็เขียนมาบอกว่า หน้านี้ไม่มีเสียง ท่านผู้ที่รับเทปก็จะต้องมาตรวจสอบ ในระหว่างนั้นน่ะ สัทธาทั้งนั้น ถ้าไม่พิจารณาก็จะไม่เห็นเลยว่า แม้แต่การที่จะเปิดเครื่องเทปและกลับเทปและรู้ว่าขณะนั้น เจ้าหน้าที่เข้าใจผิดด้วยความรีบร้อน เพราะฉะนั้น ทุกอย่างที่ได้ฟัง ได้เห็น ก็จะทำให้ท่านได้อนุโมทนาในกุศลสัทธาของทุกๆ ท่านที่ร่วมกันในการเผยแพร่พระธธรรม และในการจัดกลุ่มสนทนาธรรม และโดยเฉพาะที่จังหวัดจันทบุรี มีท่านที่สัทธาจัดกลุ่มออกอากาศ ของสถานีวิทยุทั้ง ๗ วัน

ซึ่งทุกท่านก็เริ่มที่จะเห็นสัทธาของท่านเองและบุคคลอื่่น ซึ่งจะต้องอบรมเจริญไปจนกว่าจะถึงวันหนึ่งที่รู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่เมื่อเรื่องที่จะต้องมีชีวิตอยู่ไปวันหนึ่งๆ ด้วยการพิจารณาจิตใจ แล้วก็ให้กุศลเจริญขึ้น มีข้อสงสัยอะไรไหมคะ

คุณอดิศักดิ์ สัทธา กับ ฉันทะ นี้ใกล้กันมาก

ท่านอาจารย์ ฉันทะเป็นสภาพที่พอใจ ที่จะกระทำ

คุณอดิศักดิ์ เป็นกุศลล้วนหรือเปล่า

ท่านอาจารย์ เป็น ปกิณณก เจตสิก เกิดได้กับทั้งกุศลจิตและอกุศลจิต แต่สัทธาเป็นอกุศลไม่ได้

คุณอดิศักดิ์ แต่ที่อาจารย์ว่าทำโน่น ทำนี่ ด้วยความสัทธา ผมมาพิจารณาดูแล้ว มันเฉียดกับฉันทะ อยู่เสมอๆ

ท่านอาจารย์ ในขณะที่กุศลจิตเกิด มีทั้งสัทธา และ ฉันทะ ในขณะที่อกุศลจิตเกิดก็มีทั้งฉันทะและอกุศล แต่ว่าสัทธาจะไม่เกิดกับอกุศลจิตเลย

คุณอดิศักดิ์ ทีนี้สัทธา แรงยังไม่พอ มันต้องบวกกับฉันทะ ถ้าไม่มีฉันทะแล้วไม่ทำ ถ้ามีฉันทะด้วยแล้วจะทำ

ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคฯ ได้ทรงจำแนกธรรม ออกเป็นหลายหมวดและบางแห่ง ก็ได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของวิริยะด้วย แต่ว่าลักษณะของสัทธาเป็นลักษณะที่เห็นได้ชัดว่า ทำให้ใจผ่องใสจากอกุศล ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบให้เห็นความต่างกันของอกุศลจิตและกุศลจิต เพราะว่าในเวลาที่มีความเชื่อในอกุศล ในความเห็นผิด ดูเสมือนว่าเป็นสัทธา แต่ความจริงไม่ใช่ เพราะว่าขณะนั้นไม่ใช่สภาพของจิตที่ใสสะอาดปราศจากอกุศล ในขณะนั้นเป็น โลภมูลจิต ทิฏฐิคตสัมปยุต

สำหรับการที่จะมีสัทธาที่จะรู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้ ก็ต้องจะเริ่มจากสัทธาในชีวิตประจำวัน ในการฟังพระธรรมในการที่จะละกิเลสหรือบรรเทากิเลส เพิ่มสัทธายิ่งขึ้น ซึ่งจะต้องสะสมไป จนกระทั่งถึงปัญญาที่จะระลึกรู้ ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ถ้ามิฉะนั้นแล้วปัญญาก็เจริญไม่ได้ เพราะฉะนั้นในขณะนี้เองค่ะที่กำลังเห็นรู้ได้ว่า สัทธาเกิดไหม เมื่อไร เมื่อมีการระลึกสังเกต ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏทางตาขณะใด ขณะนั้นก็มีสัทธาที่จะระลึกศึกษาลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ

เพราะว่าโดยขั้นการฟังพระธรรม ทุกคนเชื่อในขณะนี้ว่า สภาพธรรมในขณะนี้กำลังเกิดดับ โดยเหตุผลที่พระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดงลักษณะของสภาพธรรมไว้โดยละเอียด ก็รู้ว่าทางตาต้องดับ ในขณะที่กำลังได้ยิน เป็นสภาพของจิตที่รู้เฉพาะเสียง ในขณะนั้นจะมีการเห็นด้วยไม่ได้ นี่เป็นความเชื่อด้วย สัทธา เมื่อมีความเชื่อมั่นอย่างนี้จริงๆ ก็มีหนทางที่จะให้ได้เข้าใจลักษณะของสภาพธรรมโดยระลึกลักษณะของการเห็น การได้ยิน รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส การคิดนึก ขณะใด นั่นก็เป็นผู้มีสัทธาในขณะนั้น ซึ่งก็จะต้องมีสัทธาต่อไปอีก

อย่าให้สัทธานั้นหยุดเสีย เพราะว่าถ้าจับด้ามมีดแล้วก็หยุดจับ ด้ามมีดนั้นก็สึกไม่ได้ ฉันใด การที่จะมีสัทธาพร้อมสติ ที่ระลึกลักษณะของสภาพธรรมนี้ ก็จะต้องระลึกลักษณะของสภาพธรรมต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะประจักษ์แจ้งในการเกิดดับของภาพธรรมที่กำลังเกิดดับในขณะนี้

แต่ว่าสภาพธรรมทั้งหลายก็เป็นอนัตตา เพราะฉะนั้น อาศัยการฟังพระธรรม จะทำให้สติเกิด ระลึกลักษณะของสภาพธรรม เพราะเห็นประโยชน์

สัทธา (1)

สัทธา (2)

สัทธา (3)


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
ups
วันที่ 7 ต.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
hadezz
วันที่ 7 ต.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chaiyut
วันที่ 7 ต.ค. 2553

ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาใน "สัทธาทุกย่างก้าว" ของทุกๆ ท่าน ที่ได้ช่วยกันเผยแพร่พระธรรมคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าตามความสามารถตั้งแต่ในอดีตจวบจนถึงปัจจุบันครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ผิน
วันที่ 7 ต.ค. 2553

ขอบคุณ และ ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
pirmsombat
วันที่ 7 ต.ค. 2553

ขอบคุณและอนุโมทนาทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ประสาน
วันที่ 8 ต.ค. 2553

ขออนุโมทนาครับ เจริญในกุศลธรรม

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 8 ต.ค. 2553

"...อย่าให้สัทธานั้นหยุดเสีย เพราะว่าถ้าจับด้ามมีดแล้วก็หยุดจับ ด้ามมีดนั้นก็สึกไม่ได้ ฉันใด การที่จะมีสัทธาพร้อมสติ ที่ระลึกลักษณะของสภาพธรรมนี้ก็จะต้องระลึกลักษณะของสภาพธรรมต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะประจักษ์แจ้งในการเกิดดับของภาพธรรมที่กำลังเกิดดับในขณะนี้..."

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 8 ต.ค. 2553

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
บัวขาว
วันที่ 8 ต.ค. 2553

ขอขอบคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
Nongnuch
วันที่ 10 ต.ค. 2553

Anumotana and Respectfully ka.

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
เฉลิมพร
วันที่ 11 มิ.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
chatchai.k
วันที่ 20 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
สิริพรรณ
วันที่ 23 ส.ค. 2564

กราบนอบน้อมพระรัตนตรัยด้วยเศียรเกล้า
กราบบูชาพระคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง

ขอบพระคุณคุณหมอในความกรุณาบันทึกคำที่มีคุณค่าควรแก่การเข้าใจให้ได้ศึกษา และพิจารณาด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
เฉลิมพร
วันที่ 9 ก.ย. 2565

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่งและกราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
pamali
วันที่ 6 มี.ค. 2567

กราบนอบน้อมพระรัตนตรัยด้วยเศียรเกล้า กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอจ. ด้วยความเคารพยิ่ง กราบอนุโมทนาทุกท่านค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ