เป้าหมายในการฟังธรรม

 
sutassangsri
วันที่  6 ต.ค. 2553
หมายเลข  17314
อ่าน  1,676

อยากทราบว่า เป้าหมายของการฟังธรรม เพื่อการพิจารณาให้เห็นสภาพธรรมทุกชนิดว่าเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เพื่อให้ละความยินดีพอใจ ในการเป็นตัวตน สัตว์ บุคคล แล้วเกิดความหน่าย ไม่ยินดีพอใจยึดติด หรือเกรงกลัวการเกิดมาใน 31 ภูมิ ใช่หรือไม่


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 7 ต.ค. 2553

ขอเรียนว่า การฟังพระธรรมจุดหมายสูงสุด ควรจะเป็นเช่นนั้น แต่จะข้ามขั้นไปหรือไม่สำหรับผู้ที่ยังไม่เข้าใจจริงๆ ว่าแต่ละอย่างที่กล่าวถึงคืออะไร แม้แต่คำว่าธัมมะ ขณะนี้มีไหม เป็นอนัตตาอย่างไร จะหน่ายได้อย่างไร..

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
orawan.c
วันที่ 7 ต.ค. 2553

ฟังเพื่อเข้าใจสิ่งที่กำลังฟังจริงๆ ไม่คิดเอง ไม่หวัง ความเข้าใจ (ปัญญา) จะทำหน้าที่ละ ไม่มีเราที่ทำได้

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 7 ต.ค. 2553

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงบำเพ็ญพระบารมีมาตลอด ระยะเวลาสี่อสงไขยแสนกัปป์ ซึ่งเป็นเวลาที่นานมาก เพื่อทรงตรัสรู้สภาพธรรม ตามความเป็นจริง แล้วทรงแสดงหนทางที่ดำเนินไป เพื่อการดับกิเลสได้ เป็นสมุจเฉท (ถอนขึ้นได้อย่างเด็ดขาด) ไม่เกิดอีกเลย แก่สัตว์โลกทั้งปวง ซึ่งมีสัตว์โลกที่ได้รับประโยชน์ จากพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงมากมายอย่างนับไม่ถ้วน กิเลสทั้งหลายที่ทุกคนมีซึ่งได้สะสมมาอย่างเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์ ทั้งความติดข้องยินดีพอใจ ความโกรธ ความไ่ม่พอใจ ความไม่รู้ ความริษยา ความตระหนี่ ความไ่ม่ละอาย เป็นต้น เหล่านี้จะดับหมดสิ้นไป เมื่อได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมตามลำดับมรรค แต่จะไปถึงตรงนั้นได้อย่างไร ถ้าไม่อาศัยการอบรมเจริญปัญญา สะสมความรู้ความเข้าใจสภาพธรรมซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริง ที่กำลังปรากฏขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ในขณะนี้ หนทางแห่งการดับกิเลส หนทางแห่งความพ้นทุกข์ ไม่ต้องมีการเกิดอีกในสังสารวัฏฏ์ มีอยู่แล้ว คือ การอบรมเจริญปัญญาขึ้นเรื่อยๆ เมื่อปัญญาคมกล้า ถึงความเจริญสมบูรณ์พร้อม ก็จะสามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรม ดับกิเลสได้เป็นสมุจเฉท เหมือนอย่างพระอริยบุคคลทั้งหลาย ในอดีตที่ท่านดำเนินไปถึงจุดนั้นแล้ว ซึ่งทั้งหมดทั้งปวง ต้องอาศัยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม เท่านั้น ถ้าไม่ฟัง ไม่ศึกษา ก็ไม่มีทางที่ปัญญาจะเจริญขึ้นได้ และถ้าไม่มีปัญญาเลย ก็ไม่ต้องพูดถึงการดับกิเลส ไม่ต้องพูดถึงการหน่าย ไม่ต้องพูดถึงการละคลาย ไม่ต้องพูดถึงการไม่เกิดอีกในสังสารวัฏฏ์เพราะเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ครับ. ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 8 ต.ค. 2553

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
wannee.s
วันที่ 9 ต.ค. 2553

กว่าจะเป็นปัญญาที่รู้ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เป็นหนทางอีกยาวไกล และความรู้ คือปัญญาไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดง่าย ต้องฟังต้องอบรมมาก เพราะเราสะสมความไม่รู้มามากค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Jans
วันที่ 11 ต.ค. 2553

สะสมการฟังธรรมย่อยๆ เพื่อความเข้าใจถูก เห็นถูก ทีละเล็กทีละน้อย ปัญญาที่เข้าใจถูก เห็นถูก จะทำหน้าที่ละคลายความไม่รู้ได้เองขอบคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ