วันนี้ดีพอหรือยัง


    ผู้ฟัง ได้ฟังวลีที่ท่านอาจารย์กล่าว รู้สึกไพเราะ และน่านำมาสนทนา ที่ท่านอาจารย์ถามว่า “วันนี้ทำดีพอหรือยัง”

    ท่านอาจารย์ มองไม่เห็นเลย ผ่านไปโดยไม่รู้ว่าดีหรือเปล่า หรือเป็นอกุศล จนกระทั่งไม่รู้ว่า วันนี้ดีพอหรือยัง หรือดีขึ้นได้อีกแม้เพียงเล็กน้อย นิดน้อย กายดีพอหรือยัง วาจาดีพอหรือยัง ใจดีพอหรือยัง แค่นี้ก็รู้แล้ว จากการไม่รู้ไม่เข้าใจธรรม แล้วเข้าใจหน่อยหนึ่ง นิดหนึ่ง ดีขึ้นมาแล้วหน่อยหนึ่ง พอหรือยัง ถ้าเข้าใจวันนี้แค่นี้ พอสำหรับวันนี้ แต่พรุ่งนี้มาอีกแล้ว ดีพอหรือยังที่จะเพิ่มขึ้นอีกทีละเล็กทีละน้อย เพราะทุกคนละเลยอกุศลเล็กๆ น้อยๆ แต่ถ้าเป็นผู้ละเอียด และคำนึงถึงอกุศล และรู้ว่าขณะใดที่กุศลไม่เกิด ขณะนั้นเป็นอกุศล ก็จะมีการระลึกได้ สำนึกได้ว่า เพียงตื่นมา ต่อจากนั้นดีบ้างไหม แม้ระหว่างนั้น ก่อนรับประทานอาหาร กำลังรับประทานอาหาร หลังรับประทานอาหาร เราดีไหม หรือมีโอกาสจะดี แต่ก็ไม่ดีตอนนั้น

    นี่คือความละเอียด แม้แต่การฟังธรรมก็เช่นเดียวกัน ใจ ฟังรู้เรื่องหมดเลย เป็นขันธ์ ไม่ใช่เรา แต่ดีพอหรือยัง โกรธนิดหนึ่ง หรือโกรธมากๆ หรือลืมไปแล้ว ดีพอหรือยัง ดีขึ้นทีละหน่อย ทีละเล็กทีละน้อยก็ได้

    ผู้ฟัง ศึกษาธรรมว่าไม่มีตัวตน สัตว์ บุคคล ก็เป็นการขัดเกลา

    ท่านอาจารย์ ถ้าดีเพิ่มขึ้น เพราะว่าเข้าใจก็ดีเพิ่มขึ้น ก็ยังเป็นเรา มากมายสักแค่ไหนที่ยังต้องขัดเกลา ถูกต้องไหมคะ วันนี้พิจารณาดู เรามีอะไรที่ควรจะทำได้ที่ดี แต่ไม่ได้ทำ พอรู้อย่างนี้ วันรุ่งขึ้น สิ่งที่คล้ายๆ วันนี้ แต่ก็ทำความดี เพราะได้เริ่มเข้าใจแล้วว่า วันก่อนมีโอกาสทำดีก็ไม่ได้ทำ แต่ดีขึ้นอีกทุกวันๆ ก็ยังเป็นเรา ก็ยังไม่ดี

    เพราะฉะนั้น กว่าจะดีขึ้นๆ ๆ ๆ จนสามารถรู้ว่า ไม่มีเรา แล้วก็ดีขึ้นๆ จนกว่าจะดับกิเลสหมด


    หมายเลข 9689
    19 ก.พ. 2567