มองเห็นเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน สิ่งของ เป็นความเห็นผิดหรือไม่


    ถาม  ในชีวิตประจำวัน ขณะที่สติไม่เกิด มองเห็นสิ่งที่ปรากฏทางตาเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน เป็นสิ่งของอะไรอย่างนี้ อันนี้จะเป็นความเห็นผิดที่เป็นทิฏฐิสัมปยุตหรือเปล่าไม่ทราบ

    ส.  ถ้าความเห็นผิดเกิดขึ้นในขณะนั้นว่า นี่เป็นสัตว์ เป็นบุคคล แน่นอน ใครจะบอกว่าไม่ใช่ นี่เป็นแต่เพียงสิ่งที่ปรากฏทางตา เป็นรูปธรรม ไม่ใช่สภาพรู้ ก็ไม่ยอมค่ะ ยังยึดถือว่า ต้องมีสัตว์ มีบุคคล ขณะที่มีความยึดถือ มีความเห็นอย่างนั้น เป็นมิจฉาทิฏฐิ เป็นความเห็นผิด แต่เวลาปกติธรรมดา มีการพอใจในรสอาหาร เวลารับประทานอาหาร ไม่ได้มีความคิดเรื่องนี้เลย เป็นแต่ลักษณะของความยินดีพอใจที่เกิดขึ้นในรสที่กำลังลิ้ม

    เพราะฉะนั้นในขณะนั้นเป็นโลภมูลจิตทิฏฐิคตวิปปยุตต์ มิฉะนั้นแล้วจะไม่มีการแยกพระโสดาบันกับปุถุชนได้เลย เพราะเหตุว่าพระโสดาบันบุคคลเป็นผู้ที่ดับมิจฉาทิฏฐิทั้งหมด ไม่เกิดอีกเลย ไม่มีปัจจัยที่จะให้เกิดความเห็นผิดใดๆ ทั้งสิ้น แต่พระโสดาบันบุคคล ยังมีโลภมูลจิตทิฏฐิคตวิปปยุตต์ ยังมีความยินดีพอใจในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส ในโผฏฐัพพะ แต่ไม่มีความเห็นผิด

    ผู้ฟัง   อย่างในขณะนี้ สภาพที่ปรากฏทางตา ก็เห็นว่าเป็นสิ่งของ อย่างเห็นว่าเป็นเก้าอี้ เพราะว่าสติไม่เกิด ในขณะที่เห็นว่าเป็นสิ่งของ แต่ทีนี้อาจารย์บอกว่า เป็นเพียงสภาพของรูปธรรมเท่านั้น ไม่ใช่เก้าอี้ ก็เชื่อ แต่ว่าจริงๆ แล้วไม่ได้ประจักษ์แจ้งว่า อันนี้เป็นเพียงรูปธรรม แต่ยังเห็นว่าเป็นเก้าอี้อย่างนี้ จะเป็นทิฏฐิคตสัมปยุตต์ในขณะนี้หรือเปล่า

    ส.  เพราะฉะนั้นยังมีอนุสัยกิเลส คือ กิเลสที่ยังไม่ได้ดับ ยังมีสักกายทิฏฐิ ที่เป็นอนุสัยกิเลสซึ่งยังไม่ได้ดับ ความหมายของอนุสัยกิเลส คือ กิเลสที่ยังไม่ได้ดับ ยังมีอยู่ แต่ไม่ใช่ว่าเกิดขึ้นในขณะนั้น แต่ไม่ได้หมายความว่า ดับหมดแล้ว ใช่ไหมคะ อย่างเวลาที่นอนหลับสนิท ผู้ที่ไม่ใช่พระโสดาบันบุคคลมีทิฏฐานุสัย คือ ความเห็นผิดอย่างละเอียดที่นอนเนื่องอยู่ในจิต แต่ยังไม่ได้เกิดขึ้นกระทำกิจการงาน แต่ว่ายังไม่ได้ดับไป เพราะฉะนั้นเมื่อมีปัจจัยที่จะให้ทิฏฐิเจตสิก ความเห็นผิดเกิดขึ้นเมื่อไร ก็เกิดขึ้นเมื่อนั้น


    หมายเลข 7340
    4 เม.ย. 2564