ทบทวนปัจจัย - อาหารปัจจัย


    ต่อไป  โดยอาหารปัจจัย  ตามคำถามตอนต้น  คือ สัตว์ทั้งหลายดำรงอยู่ได้ด้วยอาหาร   เมื่อไรจะพ้นความเป็นสัตว์ซึ่งดำรงอยู่ได้ด้วยอาหาร  ก็ต่อเมื่อดับอาหาร   เมื่อไม่มีอาหารที่จะเลี้ยงดู  ก็ย่อมจะหมดความเป็นสัตว์  บุคคลใด ๆ ทั้งสิ้น  แต่เพราะเหตุว่ายังมีอาหารเป็นปัจจัยเลี้ยงดูค้ำจุนอยู่  เพราะฉะนั้นก็ยังไม่สิ้นสภาพของการที่จะต้องเป็นสัตว์  เป็นบุคคล  เพราะเหตุว่ายังพร้อมด้วยอาหาร

    สำหรับสภาพธรรมที่เป็นอาหารปัจจัย   นอกจากที่เป็นรูป ๑   คือกพฬีการาหารแล้ว  ก็เป็นนามธรรม ๓   ได้แก่ ผัสสาหาร ๑   มโนสัญเจตนาหาร ๑  วิญญาณาหาร ๑   ไม่มีใครสามารถที่จะยับยั้งอาหารทั้ง ๓ นี้ได้   มีเหตุปัจจัยปรุงแต่งเกิดขึ้นเป็นไป

    สำหรับโลภมูลจิตดวงที่ ๑   ในนามอาหาร ๓  คือผัสสาหาร  มโนสัญเจตนาหาร  และวิญญาณาหาร  ถ้ากล่าวถึงโลภมูลจิตดวงที่ ๑  เป็นอาหารอะไร ?  เป็นวิญญาณาหาร  เพราะเหตุว่าเป็นจิต  นำมาซึ่งอะไรเวลาที่จิตเกิด ?  เจตสิกซึ่งเกิดร่วมด้วย  และอะไร ?  และรูป   ในภูมิที่มีขันธ์ ๕   เวลาที่จิตทุกดวงที่เกิดขึ้น เว้นทวิปัญจวิญญาณ และอรูปาวจรวิบาก ปฏิสนธิจิต และจุติจิตของพระอรหันต์แล้ว จิตทุกดวงที่เกิดเป็นปัจจัยให้จิตตชรูปเกิด   เพราะฉะนั้นเมื่อโลภมูลจิตเกิด  เป็นวิญญาณาหาร  นำมาซึ่งเจตสิกซึ่งเกิดร่วมด้วยและจิตตชรูป  นอกจากนั้นแล้วเจตนาเจตสิกที่เกิดกับโลภมูลจิตก็เป็นมโนสัญเจตนาหาร

    นี่ก็แสดงให้เห็นว่า  ในชั่วขณะเดียวซึ่งโลภมูลจิตเกิดพร้อมกับเจตสิก ๑๙ ดวง  มีปัจจัยหลายปัจจัย  ทั้งเหตุปัจจัย  อธิปติปัจจัย  รวมถึงอาหารปัจจัยด้วย   นอกจากนั้นแล้วผัสสเจตสิกซึ่งเกิดกับโลภมูลจิตก็เป็นผัสสาหาร  เพราะเหตุว่านำมาซึ่งเจตสิกอื่น  และจิต  และจิตตชรูป  รวมกันไปได้เลย  ถ้ากล่าวถึงเจตสิกที่เกิดร่วมกับจิตใด  ก็หมายความว่าทั้งจิตและเจตสิกนั้นเป็นปัจจัยให้จิตตชรูปเกิด  ตามประเภทของจิตนั้นๆ

    หมดไหม  อาหาร ?   ยังคงอยู่เรื่อย ๆ  ผัสสเจตสิก ไม่ใช่แต่เฉพาะรูปเท่านั้นที่เป็นอาหาร  เพราะเหตุว่ารูปเป็นอาหารของรูป  แต่ว่านามก็เป็นอาหารของนามด้วย และสำหรับในภูมิที่มีขันธ์ ๕  นี้  ก็อาศัย   โดยเฉพาะคือในภูมิมนุษย์  ก็ต้องอาศัยทั้งรูปอาหารและนามอาหาร

    ไม่อยากได้ไหม   ไม่อยากที่ให้มีอาหารปัจจัยได้ไหม ?  ได้หรือไม่ได้  หนทางเดียวคืออะไร ที่จะดับ ?   อบรมเจริญปัญญา  สติปัฏฐานที่จะระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรม   จนกว่าปัญญาจะคมกล้าที่โลกุตตรจิตจะเกิด   มิฉะนั้นแล้วก็ไม่มีทางเลยที่ปัจจัยเหล่านี้จะดับได้

     

    มีข้อสงสัยไหมคะในเรื่องนี้ จิตก็เกิดกับจิตทุกดวง เจตนาเจตสิกเป็นเจตนาสัญเจตนาหาร  สำหรับผู้ที่ไม่ใช่พระอรหันต์แล้ว ก็นำมาซึ่งปฏิสนธิ นาม รูป


    หมายเลข 6246
    29 ส.ค. 2558