ชีวิตินทริยเจตสิก


    ข้อความในอัฏฐสาลินี   ได้อธิบายชิวิตินทรียะ   ซึ่งเป็นนามธรรม  มีข้อความว่า

       ที่ชื่อว่า  ชีวิต   เพราะเป็นเหตุให้ธรรมที่สัมปยุตต์ด้วยชีวิตนั้นเป็นอยู่ได้   ชื่อว่า อินทรียะ

    ถ้าพบคำว่าสัมปยุตต์   ต้องหมายความถึงนามธรรมเป็นปัจจัยแก่นามธรรมเท่านั้น   ถ้านามธรรมเป็นปัจจัยแก่รูปธรรม   ไม่ใช่สัมปยุตตธรรม   เพราะเหตุว่าสัมปยุตตธรรมหมายความถึง   ธรรมซึ่งมีสภาพซึ่งเกิดร่วมกัน   เข้ากันได้สนิทอย่างดี   ดับพร้อมกัน   มีอารมณ์เดียวกัน   และเกิดที่เดียวกัน

    เพราะฉะนั้นสัมปยุตตธรรม ก็ได้แก่ จิตปรมัตถ์และเจตสิกปรมัตถ์เท่านั้น   เพราะเหตุว่าเป็นนามธรรมด้วยกัน   จึงเข้ากันได้อย่างสนิท   นามธรรมเป็นปัจจัยแก่รูปธรรมได้ไหม  ได้   แต่ไม่สามารถจะเข้ากลมกลืนสนิทเหมือนนามธรรมต่อนามธรรม   เพราะฉะนั้นนามธรรมที่เป็นปัจจัยแก่รูปธรรม   เป็นโดยวิปยุตตปัจจัย  รูปธรรมเป็นปัจจัยให้เกิดนามธรรมได้ไหม   ได้  แต่ไม่ใช่สภาพธรรมอย่างเดียวกัน  คือ ไม่สามารถที่จะเข้ากันสนิทกลมกลืนเหมือนกับสภาพธรรมซึ่งเกิดพร้อมกัน   ดับพร้อมกัน  มีอารมณ์เดียวกันและเกิดที่เดียวกันได้   เพราะฉะนั้นรูปธรรมใดซึ่งเป็นปัจจัยให้นามธรรมเกิดขึ้นได้ โดยเป็นวิปยุตตปัจจัย   เพราะฉะนั้นถ้าเป็นปัจจัยโดยสัมปยุตตปัจจัยแล้ว   หมายเฉพาะนามธรรม   คือ จิตและเจตสิกเป็นปัจจัยซึ่งกันและกันเท่านั้น

    เพราะฉะนั้นข้อความที่ว่า   

       ที่ชื่อว่า  ชีวิต”  เพราะเป็นเหตุให้ธรรมที่สัมปยุตต์ด้วยชีวิตนั้นเป็นอยู่ได้   ชื่อว่า  อินทรียะ   จึงหมายความถึงชีวิตินทรียเจตสิก   เพราะมีสภาพครอบครองความเป็นใหญ่ในลักษณะแห่งการตามรักษาชีวิตนั่นแล  เป็นอินทรีย์  จึงชื่อว่า  ชีวิตินทรียะ    

    เป็นใหญ่ไหมคะ   ถ้าไม่มีสภาพธรรมทั้งหลาย ก็ตั้งอยู่ไม่ได้   ไม่ว่าจะเป็นนามธรรมหรือรูปธรรม   เพราะฉะนั้นที่จิตดำรงอยู่แม้ชั่วขณะเล็กน้อย   ก็ให้เห็นว่าเป็นเพราะชีวิตินทรียเจตสิกเกิดร่วมด้วย   คือ อุปถัมภ์จิตและเจตสิกอื่น ๆ ซึ่งเกิดพร้อมกัน   ให้ดำรงอยู่ได้

    เพราะฉะนั้นจึงมีข้อความว่า   

       เพราะว่ามีสภาพเป็นใหญ่ในลักษณะแห่งการตามรักษาชีวิตนั่นแล เป็นอินทรีย์ จึงชื่อว่า ชีวิตินทรียะ   

       เมื่อว่าโดยลักษณะเป็นต้น   

    ชีวิตินทรียะนั้นมีการอุปถัมภ์รักษาธรรมทั้งหลายที่ไม่แยกจากตน  เป็นลักษณะ 

    มีการทำให้ธรรมเหล่านั้นเป็นไป  เป็นรส

    มีความดำรงไว้ซึ่งธรรมเหล่านั้นแหละ เป็นปัจจุปัฏฐาน  คือ เป็นอาการที่ปรากฏ

    มีธรรมที่พึงให้เป็นไปได้  เป็นปทัฏฐาน


    หมายเลข 6006
    27 ส.ค. 2558