จุดประสงค์ของการศึกษาพระธรรมคืออะไร
ผู้ฟัง ความจริงการศึกษา อย่างที่ท่านอาจารย์พูด ผมรู้สึกซาบซึ้งจริงๆ คือ อย่างที่เราศึกษาอยู่ปัจจุบันนี้ ศึกษาเท่าไรก็ยิ่งโง่ เพราะศึกษาเพื่ออยากจำได้ เท่านั้นเอง ไม่ได้ศึกษาเพื่อให้เข้าใจสภาวะ ผมสังเกตดูตัวกระผมเอง เวลาสนใจอยากจะอ่านตำรา อ่านไปเป็นอาทิตย์ ก็รู้สึกว่ายังมืด สติไม่ค่อยเกิด ไม่เหมือนกับ ที่ฟังเทป ฟังอาจารย์บรรยาย ต่างกันมาก แสดงว่าการศึกษาไม่ตรงจุดหรืออย่างไร ไม่ทราบ เพราะเรามุ่งศึกษาเรื่องราวมากกว่าที่จะศึกษาสภาวะ เพราะฉะนั้น การศึกษาของเราก็เป็นการศึกษาตำรา ไม่ได้ศึกษาธรรมจริงๆ ที่ปรากฏในชีวิตประจำวัน รู้สึกว่ายิ่งศึกษามากเท่าไรก็มีแต่ทิฏฐิมานะมากขึ้น เป็นการศึกษาที่ ยังไม่ตรงประเด็น
สุ. ท่านผู้ฟังฟังพระธรรมเพื่อจะเตือนสติให้รู้ว่า จุดประสงค์ของการศึกษาพระธรรมคืออะไร เป็นของธรรมดาสำหรับผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ เพราะฉะนั้น เวลาใดที่กิเลสประเภทใดเกิดขึ้นก็จะเป็นไปตามกิเลสนั้น แต่พระธรรมที่ได้ทรงแสดงจะเตือน ให้รู้ว่า การศึกษาพระธรรมนั้นเพื่อประโยชน์อะไร จะได้กลับมาสู่จุดประสงค์ที่ถูกต้อง
ถ . บางท่านที่มีปุพพาธิการที่บำเพ็ญมาแล้ว ท่านได้ยินเพียงพุทโธคำเดียว ท่านก็เข้าใจสภาวธรรม เราได้ยิน สวดแล้วสวดอีก ท่องแล้วท่องอีก ตั้งแต่เด็กจนกระทั่งแก่ ก็ยังไม่เข้าใจพระธรรม เป็นความบกพร่องของการศึกษาที่ไม่เข้าใจวัตถุประสงค์หรือเปล่า
สุ. ขณะนี้เข้าใจแล้ว ใช่ไหม
ถ . ขณะนี้พอจะเข้าใจบ้าง แต่ส่วนใหญ่เวลาเร่งจะศึกษาเพื่อเข้าใจธรรม หัวข้อต่างๆ มากมาย กลับไปยึดติดในเรื่องราวธรรม สติไม่ค่อยจะเกิด
สุ. เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า กว่าสติสัมปชัญญะจะระลึกทั่วทั้ง ๖ ทวาร คือ ทั้งทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ระลึกลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริงที่ได้เกิดขึ้นแล้วเพราะเหตุปัจจัย ไม่ใช่ไปเป็นคนอื่น แต่ใครก็ตามมีเหตุปัจจัยที่จะให้สภาพธรรมใดเกิดขึ้นเป็นไปอย่างไรในขณะนั้น สติปัฏฐานจะระลึกเพื่อรู้แล้วละว่า เป็นสภาพธรรมแต่ละอย่างซึ่งไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน
เพราะฉะนั้น จะต้องเป็นจิรกาลภาวนาจริงๆ ที่จะต้องค่อยๆ เจริญขึ้น ค่อยๆ รู้ขึ้น ค่อยๆ ละไป
ผู้ฟัง จิรกาลภาวนา อาจารย์พูดหลายๆ ครั้ง บ่อยๆ ก็ยังไม่เป็นกาลที่ ยาวไปได้ อย่างที่คุณนิภัทรพูด ผมเห็นด้วย อ่านก็เพื่อจำเท่านั้นเอง เวลาใครถาม ตอบไม่ได้ ก็กลับไปอ่านใหม่อีก เพื่อจำมาตอบเขาเท่านั้น ไม่ได้นำมาใช้ในลักษณะของธรรมที่ปรากฏในชีวิตประจำวัน อย่างที่ฟังจากอาจารย์ ถ้าเสียงของอาจารย์ ออกทางวิทยุ พูดเรื่องตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ สติระลึกรู้รูปธรรมนามธรรมบ้าง อย่างนี้ เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้สติระลึก แต่ถ้าไปนั่งอ่านเองแล้ว ๒ วัน ๓ วัน ก็อยู่ในนั้น ไม่ค่อยระลึก ไม่เคยเลยที่ว่าจับพระธรรมขึ้นมาแล้วสติระลึกรู้ รู้สึกว่า ยังไม่ได้เรื่องได้ราว
สุ. ก็เหมาะสมกับขันติบารมี คือ จะต้องอดทน มีทางเดียวเท่านั้น คือ อดทนที่จะศึกษา ที่จะเข้าใจ ที่จะรู้ว่าเป็นเรื่องรู้แล้วละ ขณะใดที่ไม่ใช่รู้แล้วละ ขณะนั้นก็ไม่ใช่การอบรมเจริญปัญญา
