อกุศล เป็นเหตุให้ได้รับทุกข์ทรมาน


    สำหรับเรื่องของภพภูมิต่างๆ ไม่ใช่มีแต่เฉพาะมนุษย์ หรือสัตว์ดิรัจฉาน ที่เห็นกันอยู่เป็นปกติ เมื่อเหตุที่จะให้ปฏิสนธิ หรือเกิดในภูมิอื่นมี เป็นปัจจัย ให้ผลเมื่อไร ก็ทำให้ปฏิสนธิจิตเกิดต่อจากจุติจิตในชาตินี้ แล้วแต่ว่าท่านจะปฏิสนธิในภูมิไหน ตามควรแก่เหตุ

    ก่อนที่ท่านจะมาสู่ภูมินี้ ทราบไหมว่า โลกนี้จะเป็นอย่างนี้ โลกนี้จะมีอะไรบ้าง ไม่เคยรู้ล่วงหน้าเลยสักนิดเดียว ก็เกิดขึ้นแล้วในโลกนี้ เพราะเหตุปัจจัยที่ได้สะสมมา วันนี้เป็นอย่างนี้ พรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร ทราบไหม ไม่สามารถที่จะรู้ข้างหน้าได้เลย พรุ่งนี้อาจจะเป็นโลกนี้อีก เห็นสิ่งต่างๆ ที่มีอยู่ในโลกนี้อีก หรือว่าอาจจะเป็นสวรรค์ชั้นต่างๆ หรือว่าอาจจะเป็นนรกขุมต่างๆ ก็ได้ ไม่มีการทราบล่วงหน้าเลย แล้วแต่เหตุแล้วแต่ปัจจัยทั้งสิ้น

    แม้ท่านพระเทวทัต ที่ท่านเกิด ท่านไม่ทราบก่อนว่า ท่านจะเกิดในโลกนี้ และตลอดชีวิตของท่านที่ดำเนินไปด้วยความริษยา ด้วยการกระทำอนันตริยกรรม ท่านก็ไม่เคยรู้ล่วงหน้าเลยว่า ท่านจะเป็นผู้ที่กระทำกรรมอย่างนั้น หรือจะต้องประสพพบเห็นกับเหตุการณ์ที่จะทำให้การสะสมที่มีอยู่ในใจของท่านเกิดความริษยา หรือการกระทำที่เป็นอกุศลกรรมถึงเพียงนั้นได้ และเมื่อจุติแล้ว ท่านก็ไม่ทราบอีกเหมือนกัน แต่ท่านก็ได้ไปแล้วสู่อเวจีนรก ฉันใด ทุกท่านที่เกิดมาในโลกนี้ ก่อนจะเกิดก็ไม่ทราบว่าจะพบอะไรบ้าง จะกระทำกรรมอะไรบ้าง และกรรมที่ได้กระทำแล้วนี้ จะเป็นปัจจัยให้ปฏิสนธิในวันใด ในที่ใด หลังจากจุติจากโลกนี้แล้ว ท่านก็ไม่ทราบ

    เพราะฉะนั้น เรื่องของการที่จะมีชีวิตดำเนินไป เป็นเรื่องที่ควรจะได้ทราบเหตุและผล และสะสมความรู้ที่เกี่ยวกับสภาพของชีวิตให้ถูกต้องตามความเป็นจริง เพื่อละความไม่รู้ที่ทำให้ทำกรรมต่างๆ ที่เป็นอกุศล เป็นเหตุให้ได้รับทุกข์ทรมานอย่างสาหัสทีเดียว

    เรื่องทุกเรื่องในพระไตรปิฏก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบุคคลที่กระทำอกุศลกรรม ก็เป็นอนุสติเตือนให้ท่านผู้ฟังเป็นผู้ที่ไม่ประมาท ตราบใดที่ท่านยังไม่ได้ดับกิเลสเป็นสมุจเฉท โลภะยังมี โทสะยังมี โมหะยังมี อิสสายังมี อกุศลธรรมอื่นยังมี วันหนึ่งจะเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้ท่านกระทำกรรมที่เป็นอกุศลกรรม ที่จะทำให้ไปสู่นรกขุมต่างๆ และได้รับความทุกข์ทรมาน

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 254


    หมายเลข 14172
    28 พ.ย. 2568