มิได้ทรงบัญญัติให้ธุดงค์เป็นพระวินัย


    . ท่านอาจารย์บรรยายเรื่องธุดงค์ ๑๓ ประเภท ว่ามีบิณฑบาต มีจีวร มีเสนาสนะ มีวิริยะ และอะไรๆ อาจารย์ก็ได้อธิบายไปแล้ว สงสัยว่า พระพุทธองค์ท่านไม่ทรงสรรเสริญการทรมานกาย ท่านสรรเสริญแต่มัชฌิมาปฏิปทา แต่ธุดงควัตรที่พระท่านไปปฏิบัติ แสนจะลำบากยากเย็นทั้งนั้น จะไม่ขัดกันหรือ

    สุ . กิเลสไม่น้อย อย่าลืม ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ถ้าไม่ใช่โลภะ ก็โทสะ ถ้าไม่ใช่โลภะ ไม่ใช่โทสะ ก็โมหะ เพราะฉะนั้น ผู้ที่เห็นว่าการที่มีชีวิตอย่างฆราวาสเป็นเรื่องยากที่จะขัดเกลากิเลสให้หมดสิ้นเป็นสมุจเฉทได้ ท่านก็ละอาคารบ้านเรือนออกบวชเป็นบรรพชิต เพราะปัจจัยได้สะสมมาที่จะเป็นอย่างนั้น ซึ่งกิจของบรรพชิต คือ การเจริญสติปัฏฐานเพื่อรู้แจ้งอริยสัจธรรม และท่านผู้ที่จะรักษาธุดงค์ ก็เพราะมีเหตุปัจจัยที่สะสมมา ส่วนภิกษุที่ไม่รักษาธุดงค์ แต่รู้แจ้งอริยสัจธรรมก็มีมาก

    เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคจึงมิได้ทรงบัญญัติให้ธุดงค์เป็นพระวินัย แต่ว่าเป็นข้อประพฤติปฏิบัติสำหรับผู้ที่มีศรัทธาที่ได้สะสมมาที่จะขัดเกลากิเลสของตนใน ลักษณะนั้น เป็นผู้ที่มีปกติ เป็นอัธยาศัยอย่างนั้น ไม่ใช่เป็นผู้ที่ฝืนปกติไปชั่วครั้งชั่วคราว เพราะเข้าใจผิดคิดว่า ถ้าฝืนปกติแล้วจะรู้ความจริง แต่ผู้ที่จะรักษาธุดงค์ได้ เป็นผู้ที่มีปกติเจริญสติในเพศของบรรพชิต หรือ อุบาสก อุบาสิกาก็แล้วแต่ ตามธุดงค์ข้อที่สามารถจะรักษาได้ ตามเพศ ตามฐานะของตน เป็นผู้ที่รู้ความจริง เป็นผู้ที่มีปกติเป็นอย่างนั้น ไม่ใช่ไปฝืน หรือไปทำสิ่งที่ไม่ได้สะสมมา และไม่ใช่การทรมานตนด้วย เพราะเหตุว่าเป็นปกติของท่านผู้นั้น เป็นผู้ที่มีฉันทะความพอใจอย่างนั้น ไม่ใช่เป็นผู้ที่ฝืนอัธยาศัยเข้าใจผิดคิดว่า ต้องทำจึงจะรู้แจ้งอริยสัจธรรม ซึ่งถ้าเป็นการฝืนอัธยาศัยแล้ว ก็ไม่สามารถที่จะรู้แจ้งสภาพธรรมตามความเป็นจริงได้

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 258


    หมายเลข 14174
    28 พ.ย. 2568