วิธีการระงับโลภะ โทสะ โมหะ


    ถ. ขณะที่โลภะ โทสะ โมหะเกิด มีวิธีการอย่างอื่นไหมที่จะระงับได้ หรือสังเกตไปเรื่อยๆ

    สุ. ต้องการที่จะดับเป็นสมุจเฉท หรือเพียงแต่ระงับ

    ถ. เพียงให้บรรเทาไป

    สุ. บรรเทาไป ก็คิดถึงกิเลสของเราเองแทนที่จะคิดถึงความไม่ดีของคนอื่น โกรธกิเลสของตัวเองบ้างไหม หรือโกรธแต่เฉพาะกิเลสของคนอื่น

    ถ. ขณะที่เกิด มีวิธีการสังเกตทางอื่นไหมที่จะให้รู้

    สุ. สติระลึกได้ว่า ขณะนั้นทำร้ายตัวเอง ไม่มีคนอื่นสามารถทำร้ายจิตใจของคนอื่นได้นอกจากกิเลสของบุคคลนั้นเอง

    ถ. ผมใช้วิธีทางอ้อม คือ สังเกตจากลมหายใจ ถ้าผิดปกติ อารมณ์จะเปลี่ยนไป ก็ควบคุมลมหายใจ เป็นการกระทำกรรม กระทำได้ และจะระงับไปเองโดยอัตโนมัติ

    สุ. เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล แต่ละท่าน ถ้าท่านยังเห็นว่าสามารถระงับได้ ควบคุมได้ มีอำนาจเหนือ กระทำได้ ขณะนั้นก็ไม่ใช่การเจริญปัญญาที่ดับความ เป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวตน

    อะไรก็ตามซึ่งอยากจะทำและคิดว่าทำได้ และเมื่อทำได้แล้วพอใจ ก็เป็น ความยินดีพอใจที่เป็นความติด แต่ไม่ใช่ปัญญาที่รู้ลักษณะที่ไม่เที่ยง ที่เกิดดับของสภาพธรรม

    เพราะฉะนั้น ความพอใจของแต่ละคนมีหลายอย่าง ด้วยเหตุนี้โลภเจตสิกหรือโลภมูลจิตสามารถมีอารมณ์ได้ทุกอย่างนอกจากโลกุตตรธรรม เวลาที่กุศลจิตเกิด พอใจได้ ใช่ไหม หรือเวลาที่อกุศลจิตเกิด เป็นผู้ที่มีความสามารถกระทำสิ่งอื่นได้ดี ขณะนั้นโลภมูลจิตเกิดได้ไหม เป็นผู้ที่มีวิชาความรู้ มีความชำนาญในทางโลก ในการอาชีพ หรือแม้แต่การที่จะระงับจิต ก็คิดว่าอยู่ในอำนาจบังคับบัญชาที่ทำได้ ก็ต้องเป็นที่ตั้งของความยินดีพอใจ

    ถ้าไม่รู้จักโลภะ ไม่รู้จักสมุทัย วันหนึ่งๆ จะไม่รู้เลยว่าเป็นสิ่งที่สะสมอยู่เรื่อยๆ จากสิ่งที่ปรากฏทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย จนถึงความคิดนึกทางใจ

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 1611


    หมายเลข 14148
    28 พ.ย. 2568