สิ่งที่ไม่เป็นธรรม และสิ่งที่เป็นธรรม


    อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต อาชินสูตร (ข้อความบางตอน)

    พระผู้มีพระภาคทรงพยากรณ์ว่า สิ่งที่ไม่เป็นธรรม และสิ่งที่เป็นธรรม บุคคลควรทราบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกท่านกำลังสนใจ ที่จะได้ทราบว่า อะไรเป็นธรรมที่เป็นประโยชน์ และเป็นธรรมที่ควรทราบ

    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

    ดูกร ภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่ไม่เป็นธรรม และสิ่งที่เป็นธรรม บุคคลควรทราบ สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ และสิ่งที่เป็นประโยชน์ บุคคลควรทราบ ครั้นทราบสิ่งที่ไม่เป็นธรรม สิ่งที่เป็นธรรม สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ และสิ่งที่เป็นประโยชน์แล้ว พึงปฏิบัติตามสิ่งที่เป็นธรรม ตามสิ่งที่เป็นประโยชน์

    ดูกร ภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่ไม่เป็นธรรมเป็นไฉน สิ่งที่เป็นธรรมเป็นไฉน สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์เป็นไฉน และสิ่งที่เป็นประโยชน์เป็นไฉน

    ท่านผู้ฟังคิดว่า ท่านทราบแล้วหรือเปล่า ดูเหมือนกับพระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมที่ง่ายและเป็นธรรมธรรมดาที่ท่านอาจจะทราบแล้ว แต่ขอให้ทราบว่า ผู้ที่รู้แจ้งแทงตลอดในสภาพธรรม พร้อมทั้งเหตุผลของธรรมโดยละเอียดเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังทรงแสดงธรรมเหล่านี้ เพราะฉะนั้น ธรรมเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ควรแก่การที่จะได้ทราบ ควรแก่การที่จะประพฤติปฏิบัติตาม

    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

    ดูกร ภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่ไม่เป็นธรรมเป็นไฉน สิ่งที่เป็นธรรมเป็นไฉน สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์เป็นไฉน และสิ่งที่เป็นประโยชน์เป็นไฉน

    ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ความเห็นผิด เป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม ดูกร ภิกษุทั้งหลายความเห็นชอบ เป็นสิ่งที่เป็นธรรม อกุศลธรรมอันลามกมิใช่น้อยที่เกิดขึ้น เพราะความเห็นผิดเป็นปัจจัย เป็นสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ส่วนกุศลธรรมมิใช่น้อย ย่อมถึงความเจริญบริบูรณ์ เพราะความเห็นชอบเป็นปัจจัย เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์

    พยัญชนะสั้น แต่เป็นสิ่งที่ทุกท่านปฏิบัติอยู่ในชีวิตปกติประจำวัน ดังข้อความที่ว่า ความเห็นผิด เป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม เพราะฉะนั้น ตราบใดที่ยังมีความเห็นผิดอยู่ อกุศลธรรมอันลามกมิใช่น้อยเกิดขึ้นเพราะความเห็นผิดเป็นปัจจัย

    ถ้ามีความเห็นผิดแล้ว การชักชวน หรือคำพูดที่ผิด ก็ย่อมเกิดขึ้น ทำให้บุคคลอื่นประพฤติปฏิบัติตามในสิ่งที่ผิดไปด้วย แต่ว่าความเห็นชอบเป็นสิ่งที่เป็นธรรม เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ ส่วนกุศลธรรมมิใช่น้อย ย่อมถึงความเจริญบริบูรณ์ เพราะความเห็นชอบเป็นปัจจัย เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ ถ้าท่านมีความเห็นชอบ โดยเฉพาะในมรรคมีองค์ ๘ เป็นผู้ที่เห็นว่า กิเลสมีมากเหลือเกิน เพราะเหตุว่าวันหนึ่งๆ หลงลืมสติมาก ถ้ากิเลสไม่มาก จะหลงลืมสติมากไหม เพราะฉะนั้น ท่านพิสูจน์ธรรม ท่านเห็นธรรมที่เป็นตัวของท่านเองจริงๆ ว่า ที่หลงลืมสติมากอย่างนี้ ก็เป็นเพราะกิเลสมากเหลือเกิน และเมื่อมีความเห็นชอบ มีความเห็นถูกเกิดขึ้น ท่านก็ระลึกรู้ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรม และเจริญกุศลทุกประการ

    เมื่อท่านเป็นผู้ที่ใคร่ที่จะละกิเลส ดับกิเลส เพราะเห็นว่าสะสมกิเลสมามากเหลือเกิน ซึ่งถ้ายังคงสะสมอกุศกรรมและกิเลสต่อไป เมื่อไรจะดับหมดได้สักที แต่ทั้งๆ ที่อยากจะดับกิเลส รู้ว่ากิเลสที่มีนี้มากเหลือเกิน ถ้าท่านยังไม่อบรมเจริญกุศลทุกประการ จะดับกิเลสได้อย่างไร เพราะเหตุว่าขณะใดที่จะกระทำอกุศลกรรม ขณะนั้นก็เป็นการสะสมเพิ่มพูนกิเลสอีก และขณะใดที่หลงลืมสติ ขณะนั้นก็เพิ่มพูนกิเลสมากขึ้นด้วย

    เพราะฉะนั้น ผู้ที่เห็นโทษของกิเลส และใคร่ที่จะดับกิเลส ก็จะไม่เพิ่มกิเลสโดยการกระทำทุจริตกรรมทางกาย ทางวาจา กุศลธรรมมิใช่น้อยจึงเจริญ ย่อมถึงความเจริญบริบูรณ์ เพราะความเห็นชอบเป็นปัจจัย เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์

    ข้อความต่อไป

    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

    ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ความดำริผิดเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม ความดำริชอบเป็นสิ่งที่เป็นธรรม

    ดูกร ภิกษุทั้งหลาย การเจรจาผิดเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม การเจรจาชอบเป็นสิ่งที่เป็นธรรม

    ดูกร ภิกษุทั้งหลาย การงานผิดเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม การงานชอบเป็นสิ่งที่เป็นธรรม

    ดูกร ภิกษุทั้งหลาย การเลี้ยงชีพผิดเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม การเลี้ยงชีพชอบเป็นสิ่งที่เป็นธรรม

    ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ความพยายามผิดเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม ความพยายามชอบเป็นสิ่งที่เป็นธรรม

    ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ความระลึกผิดเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม ความระลึกชอบเป็นสิ่งที่เป็นธรรม

    ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ความตั้งใจผิดเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม ความตั้งใจชอบเป็นสิ่งที่เป็นธรรม

    ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ความรู้ผิดเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม ความรู้ชอบเป็นสิ่งที่เป็นธรรม

    ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ความพ้นผิดเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม ความพ้นชอบเป็นสิ่งที่เป็นธรรม

    อกุศลธรรมอันลามกมิใช่น้อยที่เกิดขึ้นเพราะความพ้นผิดเป็นปัจจัย เป็นสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ส่วนกุศลธรรมมิใช่น้อย ย่อมถึงความเจริญบริบูรณ์ เพราะความพ้นชอบเป็นปัจจัย เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์

    ดูกร ภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่ไม่เป็นธรรมและสิ่งที่เป็นธรรม บุคคลควรทราบ สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์และสิ่งที่เป็นประโยชน์ บุคคลควรทราบ ครั้นทราบสิ่งที่ไม่เป็นธรรม สิ่งที่เป็นธรรม สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ และสิ่งที่เป็นประโยชน์แล้ว พึงปฏิบัติตามสิ่งที่เป็นธรรม ตามสิ่งที่เป็นประโยชน์ คำที่เรากล่าวดังนี้นั้น เรากล่าวแล้ว เพราะอาศัยเหตุนี้

    เรื่องของชีวิตประจำวัน เป็นเรื่องของมรรคมีองค์ ๘ หรือเปล่า ทั้งหมดนี้ที่ พระผู้มีพระภาคตรัส ตั้งแต่ความเห็นชอบซึ่งได้แก่สัมมาทิฏฐิ ความดำริชอบซึ่งได้แก่สัมมาสังกัปปะ การเจรจาชอบซึ่งได้แก่สัมมาวาจา การงานชอบซึ่งได้แก่สัมมากัมมันตะ การเลี้ยงชีพชอบซึ่งได้แก่สัมมาอาชีวะ ความพยายามชอบซึ่งได้แก่สัมมาวายาโม ความระลึกชอบซึ่งได้แก่สัมมาสติ ความตั้งใจชอบซึ่งได้แก่สัมมาสมาธิ ความรู้ชอบซึ่งได้แก่สัมมาญาณ ความพ้นชอบซึ่งได้แก่สัมมาวิมุตติ เหล่านี้ เป็นความเห็นถูกในข้อประพฤติปฏิบัติ ที่สามารถจะดับกิเลสได้จริงๆ

    แต่ถ้าข้อปฏิบัตินั้นผิด คลาดเคลื่อน ไม่สามารถที่จะดับกิเลสได้ อกุศลธรรมก็ย่อมเจริญ สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ก็ย่อมเจริญ เพราะว่าชีวิตปกติประจำวันนั้นมาจากความเห็นผิด ทุกอย่างก็ผิดตามไปด้วย เพราะฉะนั้น ก็ไม่สามารถที่จะดับกิเลสได้ [แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 320]

    เปิดฟัง ... อาชินสูตร


    หมายเลข 13862
    28 ก.ค. 2568