มหานามสูตร
สำหรับอุบาสก อุบาสิกาที่มีการสะสมทำให้เป็นบุคคลที่มีชีวิตต่างๆ กันนั้น
ใน สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค มหานามสูตร มีข้อความว่า
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคประทับ ณ พระวิหารนิโครธาราม ใกล้พระนครกบิลพัสดุ์ แคว้นสักกะ ครั้งนั้นพระเจ้ามหานามศากยราชเสด็จไปเฝ้าพระผู้มีพระ-ภาคถึงที่ประทับ ทรงอภิวาทแล้วประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ด้วยเหตุเพียงเท่าไร บุคคลจึงชื่อว่าอุบาสก
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
ดูกร มหาบพิตร บุคคลผู้ถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ ถึงพระธรรมเป็นสรณะ ถึงพระสงฆ์เป็นสรณะ ด้วยเหตุเพียงเท่านี้แล บุคคลจึงชื่อว่าเป็นอุบาสก
พระเจ้ามหานามศากยราช ก็ได้ทูลถามต่อไปว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ด้วยเหตุเพียงเท่าไร อุบาสกจึงชื่อว่า เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล
นี่ก็เป็นอีกแบบหนึ่งของอุบาสก พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ดูกร มหาบพิตร อุบาสกเป็นผู้งดเว้นจากปาณาติบาต เป็นผู้งดเว้นจากอทินนาทาน เป็นผู้งดเว้นจากกาเมสุมิจฉาจาร เป็นผู้งดเว้นจากมุสาวาท เป็นผู้งดเว้นจากสุราเมรยมัชชปมาทัฏฐาน ด้วยเหตุเพียงเท่านี้แล อุบาสกจึงจะชื่อว่า เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล
อุบาสกที่ไม่ถึงพร้อมด้วยศีลก็มี แต่ว่าอุบาสกเช่นไรจึงจะชื่อว่าเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล คือ เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีลของอุบาสก ได้แก่ศีล ๕
พระเจ้ามหานามศากยราช ก็ได้กราบทูลถามต่อไปว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ด้วยเหตุเพียงเท่าไร อุบาสกจึงชื่อว่า เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศรัทธา
นี่เป็นการตรวจตัวของท่านเองว่า เป็นอุบาสกแบบไหน เป็นอุบาสกผู้ถึงพร้อมด้วยศีล หรือว่าเป็นอุบาสกผู้ถึงพร้อมด้วยศรัทธา
พระผู้มีพระภาค ตรัสว่า
ดูกร มหาบพิตร อุบาสกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีศรัทธา คือ เชื่อพระปัญญาตรัสรู้ของพระตถาคตว่า แม้เพราะเหตุนี้ๆ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธ-เจ้าพระองค์นั้น เป็นผู้จำแนกธรรม และพระคุณธรรมอื่นๆ ด้วยเหตุเพียงเท่านี้แล อุบาสกจึงจะชื่อว่า เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศรัทธา
ฟังพยัญชนะเพียงเผินๆ ก็อาจจะคิดว่า ท่านเชื่อในพระปัญญาตรัสรู้ของพระผู้มีพระภาคแล้ว แต่ผู้ใดเชื่อจริงๆ คือเชื่อว่า กำลังเห็นนี้เกิดดับ ไม่ใช่ตัวตน ไม่ว่าจะเป็นนามเป็นรูปชนิดหนึ่งชนิดใดก็ตาม เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ไม่ใช่ตัวตน
เพราะฉะนั้น ผู้ที่ยังไม่ได้เจริญสติปัฏฐาน ยังไม่มีความสมบูรณ์ของญาณเป็นขั้นๆ ยังไม่รู้แจ้งอริยสัจ ท่านมีศรัทธาโดยการฟัง โดยการพิจารณา แต่ว่ายังไม่ได้ประจักษ์แจ้งว่า พระผู้มีพระภาคก็ดี พระอรหันต์ พระอริยสาวกท่านได้ประจักษ์อริยสัจข้อนี้แล้ว เพราะฉะนั้น ถ้าไม่ศึกษาโดยละเอียด การเจริญปัญญาเพื่อรู้แจ้งอย่างที่พระผู้มีพระภาคก็ดี หรือว่าพระสาวกของพระผู้มีพระภาคก็ดี ได้รู้แล้ว ย่อมจะเป็นไปไม่ได้ถ้าไม่ศึกษาและไม่พิจารณาโดยละเอียด แล้วก็ปฏิบัติตามให้ตรงตามเหตุผลนั้นด้วย
พระเจ้ามหานามศากยราช ทูลถามต่อไปว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ด้วยเหตุเพียงเท่าไร อุบาสกจึงจะชื่อว่า เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยจาคะ
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ดูกร มหาบพิตร อุบาสกในธรรมวินัยนี้ มีใจปราศจากความตระหนี่ อันเป็นมลทิน มีจาคะอันปล่อยแล้ว มีฝ่ามืออันชุ่ม ยินดีในการสละ ควรแก่การขอ ยินดีในการจำแนกทาน อยู่ครอบครองเรือน ด้วยเหตุเพียงเท่านี้แล อุบาสกจึงชื่อว่า เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยจาคะ
พระเจ้ามหานามศากยราช ทูลถามต่อไปว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็ด้วยเหตุเพียงเท่าไร อุบาสกจึงชื่อว่าเป็นผู้ถึงพร้อม ด้วยปัญญา
พระผู้มีพระภาค ตรัสว่า
ดูกร มหาบพิตร อุบาสกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีปัญญา คือ ประกอบด้วยปัญญา เป็นเหตุให้ถึง ให้เห็นความเกิด ความดับ เป็นอริยะ เป็นไปเพื่อชำแรกกิเลส ให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ ด้วยเหตุเพียงเท่านี้แล อุบาสกจึงชื่อว่า เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยปัญญา
เดี๋ยวนี้เป็นอุบาสกประเภทไหน ควรให้ถึงพร้อมหรือสมบูรณ์เท่าที่จะทำได้ เพราะฉะนั้น ผู้ต้องการละอาคารบ้านเรือน ก็ควรจะทราบว่า การมีชีวิตที่ขัดเกลายิ่งขึ้นนั้นจะต้องขัดเกลาทั้งในเรื่องของศีล และก็ในเรื่องของธรรมด้วย
ถ . เรื่องของธรรมหมายความว่าอย่างไร เพราะเรื่องของศีลก็ทราบ แต่เรื่องของธรรม คือ เรื่องจะเป็นอุบาสก อุบาสิกา ซึ่งเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยปัญญา และผู้ที่ถึงพร้อมด้วยปัญญานั้นก็คือ ประกอบด้วยปัญญาเป็นเหตุให้ถึง หรือให้เห็นความเกิด ความดับ เป็นอริยะ เป็นไปเพื่อชำแรกกิเลส ให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ ไม่ใช่ปัญญาเพียงขั้นการฟัง หรือไม่ใช่ปัญญาเพียงขั้นพิจารณาเท่านั้น
สุ . แต่ความจริงคำว่าธรรมนั้น มีความหมายที่ลึกซึ้งยิ่งกว่านั้น เพราะเหตุว่าเรื่องศีลเป็นการขัดเกลาขั้นกาย วาจา แต่ถ้าผู้ใดก็ตามไม่เจริญปัญญาด้วย ก็ยากเหลือเกินที่จะรักษาศีล ๕ หรือศีล ๘ หรือศีล ๒๒๗ ให้บริสุทธิ์ได้ เพราะเหตุว่าการล่วงศีลนั้น เป็นไปด้วยอำนาจของกิเลส
เพราะฉะนั้น ตราบใดที่ยังมีกิเลสอยู่ ก็ย่อมจะล่วงศีลนั้นได้ แต่ผู้ใดก็ตามที่นอกจากมีศีลแล้ว ก็ยังเจริญธรรม ประกอบกันไปด้วย ผู้นั้นก็ย่อมจะมั่นคงในเพศของตน ถ้าเป็นอุบาสิกาที่สละอาคารบ้านเรือน มีศรัทธามากกว่าอุบาสิกาที่รักษาเพียงศีล ๕ แต่ว่าถ้าจะให้มั่นคงแล้ว ก็จะต้องมีการเจริญธรรมคู่กันไปด้วย มิฉะนั้นก็ไม่แน่นอน
ที่มา ...