สัตตสูตร
สำหรับเรื่องของอุโบสถก็ยังมีประการอื่นอีกที่แสดงให้เห็นว่า ความดีนั้นไม่ควรจำกัด เจริญมากเท่าไรก็เป็นประโยชน์มากเท่านั้น และไม่ใช่จำกัดแต่เฉพาะอุโบสถเพียง ๘ ประการเท่านั้น
ใน อังคุตตรนิกาย นวกนิบาต สัตตสูตร มีข้อความว่า
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย อุโบสถประกอบด้วยองค์ ๙ ประการ อันบุคคลเข้าอยู่แล้ว ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรืองมาก มีความแพร่หลายมาก
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ก็อุโบสถประกอบด้วยองค์ ๙ ประการ อันบุคคลเข้าอยู่แล้วอย่างไร จึงมีผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรืองมาก มีความแพร่หลายมาก
อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ย่อมตระหนักชัดดังนี้ว่า พระอรหันต์ทั้งหลาย ละปาณาติบาต อทินนาทาน อพรหมจรรย์ มุสาวาท ... แม้เราก็ละการนั่ง การนอน บนที่นั่งที่นอนสูงใหญ่ งดเว้นจากการนั่ง การนอน สูงใหญ่ สำเร็จการนั่งการนอน บนที่นั่งที่นอนต่ำ ตลอดคืนและวันนี้
เราชื่อว่ากระทำตามพระอรหันต์ แม้ด้วยองค์นี้ และอุโบสถจักเป็นอันเราเข้าอยู่แล้ว อุโบสถประกอบด้วยองค์ที่ ๘ นี้ บุคคลมีใจประกอบด้วยเมตตา แผ่ไปตลอดทิศ ๑ อยู่ ทิศที่ ๒ ทิศที่ ๓ และที่ ๔ เหมือนกันโดยนัยนี้ ทั้งเบื้องบน เบื้องล่าง เบื้องขวาง แผ่ไปตลอดโลก ทั่วสัตว์ทุกเหล่า ในที่ทุกสถาน ด้วยใจประกอบด้วยเมตตาอันไพบูลย์ ถึงความเป็นใหญ่หาประมาณมิได้ ไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียนอยู่
อุโบสถ ชื่อว่าประกอบด้วยองค์ที่ ๙ นี้ ด้วยประการดังนี้
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ก็อุโบสถประกอบด้วยองค์ ๙ ประการ อันบุคคลเข้าอยู่แล้ว อย่างนี้แล จึงมีผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรืองมาก มีความแพร่หลายมาก
พระสูตรนี้แสดงให้เห็นว่า อย่าจำกัดความดี ถึงอุโบสถมีองค์ ๘ แล้ว ก็ยังมีอุโบสถมีองค์ ๙ คือ เจริญความดีได้ทุกประการเท่าที่สามารถจะเป็นไปได้ ท่านที่รักษาอุโบสถไม่เฉพาะในวันอุโบสถ แต่รักษาตลอดไป อย่างอุบาสิกาในปัจจุบันนี้ที่ไม่ครองเรือน บวชเป็นชี ก็ควรที่จะได้ทราบว่า การรักษาศีลอุโบสถของท่านนั้นเพื่อจุดประสงค์อะไรที่สำคัญที่สุด คือ เพี่อการขัดเกลายิ่งขึ้น ศีล ๕ ก็ขัดเกลามากแล้ว แต่ว่าผู้ใดที่มีศรัทธาที่จะรักษาศีล ๘ ก็ยิ่งขัดเกลาจิตใจยิ่งขึ้นอีก
เพราะฉะนั้น ไม่ใช่เพื่อหวังอย่างอื่น แต่เพื่อละรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะมากขึ้น ถ้าอ่านในพระสูตรอื่นๆ อีก จะมีเรื่องของอุบาสกอุบาสิกาละเอียดยิ่งขึ้น ให้ทราบว่าชีวิตของอุบาสก อุบาสิกานั้นมีหลายแบบ มีทั้งที่ครองเรือน มีทั้งที่ไม่ครองเรือน มีทั้งที่รักษาเฉพาะศีล ๕ มีทั้งที่รักษาศีล ๘ ด้วย เป็นบางครั้ง และมีทั้งรักษาศีล ๘ เป็นประจำ ซึ่งแล้วแต่การสะสม บางท่านสะสมมาในเรื่องของเนกขัมมะ บางท่านก็สะสมมาในเรื่องของปัญญา และบางท่านก็สะสมมาในเรื่องของจาคะเพื่อเป็นบารมีต่อไป
แต่ถึงแม้ว่า จะเป็นบารมีประการหนึ่งประการใดก็ตาม ถ้าตราบใดยังมีกิเลส ก็ยังไม่แน่นอน ถ้ามีศรัทธาที่จะออกจากเรือนแล้วประพฤติปฏิบัติธรรมประกอบกันด้วย ก็ย่อมเป็นเครื่องประกันที่มั่นคง เพราะถึงแม้ในอดีตชาติของ พระโพธิสัตว์ได้สะสมเนกขัมมบารมีและบารมีอื่นๆ อย่างเพียบพร้อมแล้วก็ตาม แต่ขณะที่ยังไม่ได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กิเลสทั้งหลายก็ยังมีโอกาสเกิดได้ เพราะในขณะนั้นยังไม่ได้ดับกิเลสเป็นสมุจเฉท เพียงแต่ว่าเจริญบารมีประการ ต่างๆ เพื่อการตรัสรู้
เพราะฉะนั้น อุบาสก อุบาสิกามีฉันทะต่างๆ กัน บางท่านมีฉันทะในจาคะ บางท่านมีฉันทะในเนกขัมมะ บางท่านมีฉันทะในการเจริญปัญญา ก็พึงเป็นผู้ไม่ประมาทเลย ถึงแม้จะละอาคารบ้านเรือนไปแล้ว มีศีลเป็นเครื่องรักษา แต่ถ้าไม่มีธรรมเป็นเครื่องประกอบด้วย ศรัทธาอันนั้นก็ยังคลอนแคลน ยังไม่มั่นคง
เพราะฉะนั้น ผู้ถามที่เป็นนักศึกษาและต้องการบวชชี ก็คงจะไม่มีผู้ใดขัดขวาง แต่อยากให้เข้าใจชีวิตของอุบาสิกาอย่างถูกต้องแท้จริง จะได้ตัดสินได้ด้วยตนเองว่า จะเป็นอุบาสิกาแบบไหน เพราะเหตุว่าความล้ำลึกของจิตที่ได้สะสมมา มีทั้งฝ่ายกุศลและมีทั้งฝ่ายอกุศล เพราะฉะนั้น ผู้ที่ขัดเกลาจิตใจของตัวเองแต่ละท่านไม่เหมือนกันว่า อะไรเป็นเหตุให้ขัดเกลาได้
ที่มา ...