ฟังด้วยความเป็นเรา


        เด่นพงศ์ ผมเองฟังอย่างไรก็ชื่นใจท่านอาจารย์ ชื่นใจจริงๆ แล้วก็อยากจะทำตามท่านอาจารย์ แต่ฟังแล้วไม่เข้าใจ แต่ก็ยังยาก ยากอยู่อย่างนั้น ผมก็เลยไม่รู้จะพูดว่าอย่างไร

        สุ. ถ้าคุณเด่นพงศ์ไม่หวังมาก นี่หวังจะเข้าใจมากๆ เป็นไปไม่ได้ เลิกหวังมากก็ไม่ได้อีก ใช่ไหมคะ เพราะความเหนียวแน่นของความเป็นตัวตน

        เด่นพงศ์ ถ้าเลิกหวัง ก็เหมือนปลาไหลลงไปตามน้ำ

        สุ. ปัญญาเกิดค่ะ เพราะหวังเป็นโลภะ ตราบใดที่ยังหวัง ก็เป็นเรา เพื่อเรา จะได้เข้าใจมากๆ เพราะฉะนั้นก็ฟังให้เข้าใจขึ้น ทีละเล็กทีละน้อย พอไหมคะ แค่นี้พอไหมคะ ค่อยๆ เข้าใจไปเรื่อยๆ ไม่ต้องไปหวังอะไรเลยทั้งสิ้น เป็นหนทางเดียวที่จะละโลภะ เพราะรู้ว่า ฟังเพื่อเข้าใจ ไม่ใช่เพื่ออย่างอื่น

        เด่นพงศ์ บางทีมันชื่นใจว่า วันนี้ได้ของใหม่มาอีกอันหนึ่ง นิดเดียว ฟังไปนึกว่าเราดี แล้วก็ดีใจ พอฟังไปๆ มีอะไรใหม่ ไม่รู้อีก ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น เราก็รู้แต่ชื่อ ไม่รู้ของจริงสักที

        สุ. ค่ะ เราไงคะ ฟังด้วยความเป็นเรา และยังมีเรา แต่ที่จริงฟังเพื่อเข้าใจว่า ไม่มีเรา ค่อยๆ ละความเป็นเรา ก็ค่อยๆ ละความหวัง

        เด่นพงศ์ ก็ต้องท่องซิครับว่า ไม่มีเรา ไม่มีเรา

        สุ. ไม่ใช่ท่องค่ะ รู้ว่า ฟังเรื่องธรรม ใช่ไหมคะ ธรรมไม่ใช่เรา ถึงจะพูดว่าเรา แต่ขึ้นอยู่กับความเข้าใจ ท่านพระอานนท์ก็พูด พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าก็พูด ทุกคนต้องพูด เพื่อให้รู้ว่า หมายความถึงขันธ์ไหน แต่ขึ้นอยู่กับความติดข้อง และปัญญาว่า มีความเข้าใจในสภาพธรรมมากน้อยแค่ไหน หรือว่าติดข้องไว้แค่ไหน

        เพราะฉะนั้นทุกคนใช้คำ เรา แต่มีความติดข้องในขันธ์ ในสิ่งที่มีที่เคยยึดถือไว้มากน้อยต่างกัน ด้วยเหตุนี้ ลดความหวังมากๆ แล้วก็เพียรฟัง แล้วก็เข้าใจขึ้น จะเป็นประโยชน์มาก แต่ถ้ายังหวังอยู่จะทุกข์ค่ะ เราไม่เข้าใจสักที วันนี้เราเข้าใจ ก็ดีใจ แล้วก็กลับมาเป็นทุกข์อีกที่เราไม่เข้าใจ แต่ถ้าไม่หวังเลย วันนี้ฟังเข้าใจก็เข้าใจ วันต่อไปฟังอีก ก็เข้าใจขึ้นอีก ก็เป็นปกติ อย่าไปต่อสู้กับโลภะเลย เพราะว่าขณะนั้นกำลังเป็นโลภะแล้ว

        เด่นพงศ์ บางทีฟังวิทยากร พูดอย่างไรก็ไม่รู้เรื่อง พูดอย่างไรก็ไม่เข้าใจ

        สุ. พูดคำว่า “วิญญาณ” เข้าใจไหมครับ

        เด่นพงศ์ ก็เข้าใจว่าวิญญาณเป็นนามธรรม คล้ายๆ อย่างนั้น

        สุ. เป็นธรรม เป็นจิต ใช้คำว่า “วิญญาณ” ก็ได้ ก็ค่อยๆ เข้าใจไปทีละน้อยๆ

        เด่นพงศ์ เมื่อกี้อาจารย์พูดเรื่องขันธ์ ผมก็ลองมาสรุปง่ายๆ ขันธ์ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นดับไป พูดไปพูดมา สรุปแล้วก็สภาวธรรมทั้งหลาย ทุกอย่างเกิดขึ้นดับไปทั้งนั้น

        สุ. ถูกต้องค่ะ

        เด่นพงศ์ พอไปถามว่า นี่ไม่ใช่ขันธ์ ชื่อมันเยอะ จนกระทั่งเราผนวกลงมาไม่ค่อยจะถูก

        สุ. แต่เราก็ต้องตั้งต้นให้ถูกต้องด้วยความมั่นคงว่า เมื่อสิ่งใดก็ตามเกิดขึ้นแล้วดับไป สิ่งนั้นเป็นขันธ์ หมดเลย จบเลยทุกอย่าง ไม่ว่าอะไร เว้นนิพพานอย่างเดียว

        ที่มา ...

        พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 292


    หมายเลข 12204
    27 ม.ค. 2567