โสภณ - อโสภณ 1


        สุ. ด้วยเหตุนี้จุดประสงค์ของการฟังธรรม อย่าคลาดเคลื่อน อย่าให้เป็นว่า เราจะได้รู้แจ้งสภาพธรรมในขณะนี้ เดี๋ยวนี้ เป็นไปไม่ได้เลยถ้าเป็นเรา เพราะฉะนั้นที่ไม่เป็นเรา ก็ต่อเมื่อมีความเข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ จากการได้ยินได้ฟัง และมีความเข้าใจขึ้นว่า ลักษณะนั้นเป็นธรรมที่ไม่ใช่เรา ต้องเป็นปัญญาที่ค่อยๆ เข้าใจถูก จนกว่าสามารถจะถึงระดับขั้นของปัญญาขั้นต่อๆ ไป ที่จะรู้แจ้งสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้ เพราะขณะนี้ไม่ลืมว่า กำลังฟังชื่อ และฟังเรื่องของธรรม แต่ตัวธรรมที่ได้ยินทั้งหมด โสภณเจตสิกขณะนี้สามารถจะรู้ได้ ไม่รู้จักตัว แต่ได้ยินชื่อ เพื่ออะไรคะ? เพื่อที่จะได้เข้าใจถูกว่า เวลานั้นสภาพธรรมเกิดแล้ว เป็นอย่างที่ได้ยินได้ฟังนั่นแหละ คือเป็นธรรมชนิดนั้นๆ ไม่เป็นธรรมชนิดอื่น อย่างเมตตา หรืออโทสะ ความไม่โกรธเกิดขึ้น เป็นธรรมที่เป็นอกุศล หรือเป็นธรรมฝ่ายดี เป็นฝ่ายดี เป็นโสภณ เวลาที่เกิดเมตตา ลืมที่ได้ฟังมาแล้วว่า ไม่ใช่เรา เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นเจตสิก ขณะนั้นไม่โกรธ ไม่มีความขุ่นเคือง และมีจิตที่อ่อนโยนด้วย พร้อมที่จะเกื้อกูลช่วยเหลือ ขณะนั้นไม่ใช่เรา และไม่ใช่ของเรา แต่ว่าเป็นสภาพธรรมที่เราเคยได้ยินได้ฟังมานานนั่นแหละว่า เป็นธรรมที่เป็นเจตสิก ที่เป็นอโทสเจตสิก และมีสัตว์บุคคลที่กำลังเผชิญหน้า และมีจิตที่อ่อนโยน พร้อมที่จะเกื้อกูลบุคคลนั้น

        นี่คือการศึกษาธรรม เพื่อให้รู้จักตัวธรรม ซึ่งขณะนี้ก็มี แต่ว่ากำลังได้ยินชื่อของธรรมเหล่านั้น จนกว่าเมื่อไรจะรู้ว่า สภาพธรรมที่เราได้ยินชื่อทั้งหมดปรากฏให้รู้ ให้เข้าใจถูก นั่นก็คือเริ่มอบรมเจริญปัญญาที่จะค่อยๆ รู้จักธรรม หรือเห็นธรรมตามความเป็นจริง

        ด้วยเหตุนี้ต้องเป็นผู้ละเอียดทุกคำที่ได้ยิน เพราะฉะนั้นก็ขอทบทวน

        อกุศลจิตเป็นโสภณหรืออโสภณ อโสภณ ไม่ยากที่จะตอบ

        โสภณจิตเป็นอกุศลจิตใช่ไหม โสภณจิตไม่ใช่อกุศลจิต เพราะเหตุว่ามีโสภณเจตสิกเกิดร่วมด้วย เพราะฉะนั้นกุศลเป็นโสภณจิต กุศลวิบากเป็นโสภณจิต และกิริยาที่มีโสภณเจตสิกเกิดร่วมด้วยเป็นโสภณจิต

        นี่ก็คือซ้ำเพื่อให้มีความเข้าใจที่มั่นคงว่า อกุศลไม่ใช่โสภณจิต แต่อโสภณจิตเป็นกุศลหรือเปล่า

        เมื่อกี้นี้เข้าใจชัดเจนแล้วใช่ไหมคะ เรื่องของอกุศลไม่ใช่โสภณจิต และโสภณจิตเป็นอกุศลหรือเปล่า ก็ไม่ใช่ เพราะฉะนั้นถามว่า อกุศลเป็นโสภณจิตหรือเปล่า เปล่า ไม่ใช่ และโสภณจิตเป็นอกุศลหรือเปล่า และเป็นอะไรได้อีก ถ้าไม่ใช่อกุศล

        อโสภณจิต คือ จิตที่ไม่ประกอบด้วยโสภณเจตสิกเลย จะไม่มีโสภณเจตสิกเกิดร่วมด้วยเลย เพราะฉะนั้นอกุศลจิตเป็นอโสภณจิต แต่อโสภณจิตเป็นอกุศลจิตเท่านั้นหรือเปล่า

        ผู้ฟัง ไม่ใช่ค่ะ

        สุ. เพราะอะไรคะ

        ผู้ฟัง เพราะว่ามีอเหตุกจิต

        สุ. จิตที่เป็นอโสภณทั้งหมดมี ๓๐ คือ อกุศลจิต ๑๒ และอเหตุกจิต ๑๘ รวมเป็น ๓๐ ประเภทที่เป็นอโสภณ

        เพราะฉะนั้นถ้าบอกว่า อกุศลเป็นอโสภณ ถูกต้อง และอโสภณเป็นอกุศลด้วยก็ได้ แต่อโสภณไม่ใช่เฉพาะอกุศลเท่านั้น ยังรวมอเหตุกจิตอีก ๑๘ เป็นอโสภณจิต ๓๐

        นี่คือความละเอียดที่อาจเข้าใจแล้ว แล้วค่อยๆ คิด พรุ่งนี้เข้าใจอย่างนี้อีกหรือเปล่า ถ้าเป็นความเข้าใจที่มั่นคง ก็ไม่เปลี่ยนแปลง

        ที่มา ...

        พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 259


    หมายเลข 11989
    23 ม.ค. 2567