ต้องค่อยๆ เข้าใจอะไร


        ด้วยเหตุนี้พอภวังคุปัจเฉทดับไปแล้ว กล่าวรวมๆ จิตต่อไปเป็นอะไรคะ เป็นวิถีจิต เรากำลังพูดถึงความต่างกันของจิตซึ่งไม่ใช่วิถี กับจิตที่เป็นวิถี คือ ให้เข้าใจความจริงของสภาพธรรมว่า เวลาที่วิถีจิตจะเกิด จะต้องมีการกระทบกัน ถ้าเป็นทางตา หู จมูก ลิ้น กาย คือ รูปกระทบปสาท ไม่ได้มุ่งหมายจะให้เราเบื่อ แต่มุ่งหมายให้เข้าใจว่า ขณะนี้เป็นอย่างนี้ รู้หรือไม่รู้ก็ตาม กว่าจะถอนความเป็นเราได้ ต้องค่อยๆ เข้าใจเพิ่มขึ้นในความเป็นจริงของสภาพธรรมว่า ไม่มีเรา ไม่มีสัตว์ ไม่มีบุคคลเลย แต่มีธรรม เป็นธาตุซึ่งเกิดแล้วก็ต้องเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยด้วย ซึ่งสำหรับจิต เจตสิกจะเกิดสับสนก้าวก่ายกันไม่ได้เลย จากจักขุวิญญาณ ไปให้กุศลจิตเกิดทันที หรือเปลี่ยนจากจักขุวิญญาณให้เป็นโสตวิญญาณ ให้ได้ยิน ไม่ได้เลย เราจะต้องศึกษาว่า ความจริงของธรรมคืออย่างนี้ คือ วิถีจิตแรก มีไหมคะ วิถีจิตแรกมี ไม่เรียกชื่อได้ไหม พูดภาษาไทยได้ไหมคะ ไม่ต้องพูดภาษาบาลีก็ได้ แต่จำเป็นต้องใช้ เพราะเหตุว่าพระผู้มีพระภาคทรงแสดงพระธรรมด้วยภาษาบาลี

        เพราะฉะนั้นจึงใช้คำว่า ปัญจ ๕ ทวาระ คือ ประตู อาวัชชนะ โดยศัพท์ หมายถึงรำพึงถึง แต่ถ้าเป็นภาษาไทย รำพึงนานจัง จะคิดเรื่องอะไรสักเรื่องก็รำพึงเสียยาว เรื่องนั้นเรื่องนี้ รำพึงแต่เรื่องนั้น แต่จริงๆ แล้ว ถ้าคิดถึงจิต ๑ ขณะเกิดขึ้นทำกิจ เวลานี้นับไม่ถ้วน ที่เสมือนว่าเห็นอยู่ ขณะนี้จิตเกิดดับนับไม่ถ้วนแล้ว เพราะฉะนั้น ๑ ขณะจะเล็กน้อยสักแค่ไหน แต่เป็นขณะที่เป็นวิถีจิตแรก คือ นึกถึงอารมณ์ที่กระทบทวาร ก่อนเห็น ก่อนได้ยิน แล้วแต่ว่าอารมณ์นั้นเป็นอะไร ถ้าไม่มีปัญจทวาราวัชชนจิตเกิดก่อน เป็นปัจจัย เมื่อดับไปแล้ว จิตเห็นเกิดไม่ได้เลย

        เพราะฉะนั้นก่อนเห็น เพียงแค่ก่อนเห็น ก็ต้องมีจิต ซึ่งเป็นวิถีจิตแรก ที่จากภวังค์ซึ่งไม่รู้เลยว่า มีอะไรที่ไหน เมื่อไร อย่างไร ทั้งสิ้น แต่ปัญจทวาราวัชชนจิตเป็นจิตขณะแรกที่รู้ว่า อารมณ์กระทบทวาร ถ้าเป็นทางตา ก็เป็นจักขุทวาราวัชชนะ เพราะเหตุว่ากระทบทางตา ถ้าเป็นทางหู ก็เปลี่ยนได้เป็นโสตทวาราวัชชนะ สิ่งที่กระทบก็ต้องเป็นเสียง ไม่ใช่รูปธาตุที่กำลังปรากฏทางตา

        นี่คือความเข้าใจ และต้องรู้ด้วย ต่อไปจะรู้ว่า ขณะนี้ไม่ใช่ผลของกรรมแล้ว เป็นกิริยาจิต นี่ค่ะ เร็วมาก จากการที่เป็นภวังค์ที่ต้องรับผลของกรรม ก็จะต้องมีวิถีจิตแรกเกิดขึ้นทำกิจนึกถึงอารมณ์ที่กระทบ แต่ไม่เห็น ไม่ได้ยิน แค่นึก มีไหมคะ จิตนี้ ใครว่าไม่มีบ้าง มีแต่ไม่รู้ แต่มี คือ ต้องมีด้วย เพราะว่าเป็นวิถีจิตแรก และต่อจากนั้นจิตเห็นก็เกิดขึ้นขณะนี้ที่ทำกิจเห็น ปัญจทวาราวัชชนะเป็นชื่อรวมของ ๕ ทวาร ก็แยกไปแต่ละทวารได้ เป็นจักขุทวาราวัชชนะ โสตทวาราวัชชนะ ฆานทวาราวัชชนะ ก็ต่อไป แต่ละทวารไป

        ขณะนี้มีภวังค์ไหมคะ ขณะนี้มีปัญจทวาราวัชชนะไหมคะ มีภวังค์คุปัจเฉทะไหมคะ มีภวังคจลนะไหมคะ ไม่ลืมใช่ไหมคะ

        ที่มา ...

        พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 242


    หมายเลข 11704
    10 ม.ค. 2567