เข้าใจธรรมไม่มีปัญหา


        ความเข้าใจธรรมเท่านั้น ที่ทำให้แก้ไขได้ทุกปัญหา และค่อยๆ เปลี่ยนจิตใจให้เป็นไปในทางที่ดีเพิ่มขึ้น


        ท่านอาจารย์ ทุกข์ทั้งหลายจะหมดไปได้ ก็ต่อเมื่อมีความเข้าใจที่ถูกต้อง ถ้าเราไม่เข้าใจก็ต้องเป็นทุกข์อย่างนี้ในสังสารวัฎ ไม่ใช่เพียงแค่นี้ ชาตินี้ ก่อนๆ นี้อาจจะยิ่งกว่านี้ ชาติต่อไปก็ไม่รู้ว่าจะมากน้อยเท่าไหร่ ทั้งหมดเพราะไม่รู้ธรรม ไม่เข้าใจธรรม เข้าใจว่าเป็นเรา แต่ถ้าเรามีความเข้าใจที่ถูกต้อง มีเราไหม แต่ละหนึ่งที่นั่งอยู่ที่นี่ หรือว่าทั้งหมดเป็นธรรม เราเริ่มที่จะไม่มีเรา ซึ่งจะเป็นทุกข์มากเพราะว่า เขาไม่ได้เป็นอย่างที่เราต้องการ เราอยากให้เป็นอย่างนั้น เราอยากให้เป็นอย่างนี้ แต่ไม่มีอะไรอยู่ในอำนาจบังคับบัญชาเลย เราเองก็ไม่อยากโกรธ ไม่อยากแข็งกระด้างใช่ไหม แต่ใครบังคับธรรมได้ ธรรมแต่ละหนึ่ง เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่มีใครบังคับเลย อย่างเมื่อกี้นี้ชัดเจน ไม่อยากโกรธ ไม่อยากกระด้าง แต่โกรธเพราะมีปัจจัยที่จะโกรธ เพราะมีความไม่เข้าใจธรรม เข้าใจว่าเป็นเรา เข้าใจว่าเป็นเขา แต่ความจริงถ้ารู้ว่าเป็นจิต ซึ่งแต่ละหนึ่งสะสมมา ในชาตินึงก็หลากหลายมากเป็นแต่ละคน และกี่ชาติมาแล้ว จนกระทั่งถึงวันนี้ก็ต้องเป็นอย่างที่เป็น ตามที่ได้สะสมมา

        เพราะฉะนั้นถ้าได้เข้าใจธรรม จะโกรธอะไร โกรธเขาใช่ไหม โกรธเห็นของเขา หรือโกรธได้ยินของเขา หรือโกรธอะไรของเขา ซึ่งเกิด และก็ดับไปไม่เหลือเลย เพราะฉะนั้นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดก็คือ เป็นคนดี ไม่หวั่นไหว เพราะเหตุว่าความดีเป็นกุศล ซึ่งจะนำแต่ผลที่ดีมาให้ และในบรรดาสิ่งที่ดีทั้งหมด ไม่มีอะไรดีเท่า หรือประเสริฐเท่ากับปัญญา ความเข้าใจที่ถูกต้อง

        เพราะฉะนั้นเราจะเห็นได้ ว่ามีปัญหาของประเทศ มีปัญหาของบ้าน ของครอบครัว เพื่อนฝูงมิตรสหาย ถ้าไม่เข้าใจธรรมแก้ไม่ได้ ไม่มีทางเลย แต่ถ้าเข้าใจธรรมไม่มีปัญหาเลย ถ้าทุกคนเข้าใจธรรม เพราะฉะนั้นปัญหามาจากคนที่ไม่รู้จักธรรม และก็ไม่เข้าใจธรรม ถ้ารู้จักธรรมเข้าใจธรรม ทุกคนอยู่ในโลกนี้ชั่วคราว จนไม่รู้ว่าวันไหนที่จะจากโลกนี้ไป ชั่ววันนี้ควรจะมีสิ่งที่ดีหรือว่าสิ่งที่ไม่ดี ไม่ต้องไปกังวลถึงอีกหลายร้อยวันข้างหน้า แค่แต่ละวัน แต่ละวัน ถ้ามีความเข้าใจธรรมจริงๆ เราไม่เป็นทุกข์เลย เพราะเรารู้ว่าไม่มีใคร มีแต่ธรรม คือจิตธาตุรู้ เจตสิกสภาพธรรมที่เกิดกับจิต ทำให้จิตหลากหลาย จิตบางขณะก็โกรธ บางขณะก็เมตตา แต่ก็ไม่ใช่เรา ขณะที่เมตตาก็ต้องมีปัจจัยที่จะทำให้ขณะนั้นเกิดเมตตาได้ ถ้าเห็นสิ่งที่น่าพอใจทั้งหมด โกรธไม่เกิด แต่ไม่ว่าที่ไหน ยังไม่ต้องถึงตัวคนอื่น แค่ในบ้านของเรา หรือตัวเรา ถ้าเป็นสิ่งที่ไม่น่าพอใจเราก็โกรธละ ไม่ชอบละ แม้แต่เราเอง แล้วเรายังจะไปบังคับคนอื่นได้ยังไง

        เพราะฉะนั้นหนทางเดียวจริงๆ คือเข้าใจธรรม เข้าใจธรรมหมายความว่ารู้จักคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงว่า นี่เป็นคำของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่คำที่คนอื่นคิด เพราะว่าเขาไม่สามารถที่จะรู้ความจริงของทุกอย่าง และเมื่อเป็นคำของพระพุทธเจ้าแล้ว เป็นสิ่งที่ควรเข้าใจไหม หรือว่าเรารู้ว่า มีคนที่รู้ความจริงถึงที่สุด แล้วก็ทรงแสดงธรรมถึง ๔๕ พรรษา ก็ไม่เห็นประโยชน์ ไม่สนใจ เพราะฉะนั้นจะแก้ปัญหาต้องแก้ที่ตัวเราก่อน ด้วยความเข้าใจธรรม ถ้าเราสบายดี แต่คนอื่นก็ไม่เข้าใจธรรม เขาก็เดือดร้อน เราจะทำยังไงเขาได้นอกจากช่วยให้ทุกคนมีความเข้าใจถูก ว่าธรรมมี แต่ไม่ใช่เรา รูปธรรมก็เป็นรูปธรรม ทำไมเราหน้าตาไม่เหมือนกันเลยสักคน รู้ไหมว่าเพราะอะไร กรรมที่ได้กระทำไว้หนึ่งกรรม เป็นปัจจัยทำให้จิตที่ดีประเภทไหนเกิดขึ้น เพราะว่าการเกิดเป็นมนุษย์เป็นผลของกรรมดี แต่กรรมไหนก็ไม่รู้ และระดับดีแค่ไหนก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นทั้งหมดนี้เต็มไปด้วยความไม่รู้ แต่จะค่อยๆ รู้ ค่อยๆ เข้าใจได้ เมื่อได้ฟังพระธรรมอย่างละเอียด เพื่อเข้าใจ แต่ไม่ใช่เพื่อความเป็นเรา ถ้าเพื่อความเป็นเรา ไม่มีหมดความหวังหรือความพอใจ ต้องการให้เป็นอย่างนี้ เป็นอย่างนี้ เป็นอย่างโน้น ก็ต้องการไปเรื่อยๆ แต่ถ้ารู้ว่าความติดข้องนำมาซึ่งความทุกข์ ถ้าเป็นสิ่งที่เราไม่พอใจ สิ่งนั้นจะสูญหายไป เราก็ไม่ได้เดือดร้อน แต่เพราะเหตุว่าเรามีความติดข้อง ไม่ได้สิ่งที่ต้องการก็เป็นทุกข์ เดี๋ยวนี้เป็นทุกข์ใช่ไหม เพราะอะไรรู้ไหม ไม่ได้สิ่งที่ต้องการ แล้วทำได้ไหมที่จะให้เขาเปลี่ยน เราเองเปลี่ยนยังยาก ใครเปลี่ยนเราไม่ได้เลย แม้เราเอง ก็ไม่มีตัวตน เป็นเราที่จะเปลี่ยน แต่ความเข้าใจธรรมที่ถูกต้องนั้นแหล่ะ จะเปลี่ยนจากทุกข์ก็รู้ว่าไม่มีประโยชน์เลย ไม่ใช่เราด้วย แค่เกิดเป็นทุกข์แล้วก็หมดไป ทำไมจะต้องให้เป็นทุกข์ สะสมทุกข์ไว้ทำไม เพราะฉะนั้นความเข้าใจธรรม ก็จะนำมาสู่ซึ่งการแก้ไขทุกปัญหาได้

        ผู้ฟัง แล้วแบบนี้จะทำยังไงให้ใจไม่เป็นทุกข์คะอาจารย์

        ท่านอาจารย์ ค่ะ เพราะคิดว่าเราบังคับได้ เราทำได้ แต่ถ้ารู้ว่าความเข้าใจธรรมต่างหาก ที่จะทำให้รู้ความจริงว่า ทุกข์เกิดจากอะไร รู้เหตุของทุกข์ เพราะฉะนั้นเมื่อรู้เหตุของทุกข์ เหตุที่จะให้เกิดทุกข์ก็น้อยลง แต่ไม่ใช่โดยการบังคับบัญชา หรือพยายาม แต่เพราะความเข้าใจ

        เพราะฉะนั้นความเข้าใจธรรมประเสริฐสุด แก้ไขทุกปัญหาได้ ก่อนอื่นเราจะทำยังไง ก็คือเข้าใจธรรม โดยมากบางคน อยากเข้าใจธรรมเพื่อเราจะได้เป็นสุข ทิ้งเราไม่ได้เลย ผิด เพราะพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ประจักษ์แจ้งความจริงของทุกคำที่เราได้ยิน ขณะนี้ทุกอย่างเกิด ไม่เกิดไม่มี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้สิ่งที่เกิดแต่ละหนึ่ง เกิดแล้วดับไปทันที เราก็ไม่รู้อีก หลงยึดถือว่าเที่ยง หลงยึดถือว่าเป็นเรา แต่เราหลายจิตหลายใจมาตั้งแต่เกิด ทุกวันนี้ก็เดียวใจเป็นอย่างนี้ เดี๋ยวใจเป็นอย่างนั้น ใช่ไหม เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามเหตุตามปัจจัย

        เพราะฉะนั้นอะไรเกิดมาก ถ้าสิ่งที่ดีเกิดมาก เราก็บอกว่าเขาเป็นคนดี แต่ใจต่างหากที่ดี เพราะว่ามีปัจจัยที่จะทำให้ใจที่ดีเกิดขึ้น ไม่มีใครอยากเลว ไม่มีใครอยากชั่ว ไม่มีใครอยากทำไม่ดี เพราะจะต้องได้รับผลของความไม่ดี แต่ทำ เพราะบังคับบัญชาไม่ได้ เพราะไม่เข้าใจความจริง ว่าการทำสิ่งนั้น แหละไม่ใช่คนอื่นเดือดร้อน ตัวเองนั่นแหละเดือดร้อน เพราะธรรมที่ไม่ดีกำลังเกิดขึ้น และเพราะธรรมที่ไม่ดีเกิดขึ้น ก็ทำให้กาย วาจา เป็นไปในทางที่ไม่ดี เราเองไม่ต้องคิดถึงแก้ไขคนอื่นเลย


    หมายเลข 11562
    23 ก.พ. 2567