ค่อยๆ สะสมอนัตตสัญญาและมีความมั่นคงที่จะศึกษาต่อไป


        สุ. ความจำของสัตว์กับความจำของเรา สัตว์ไม่สามารถจะรู้ได้ว่าแข็งเป็นธรรม แต่สามารถจะรู้ลักษณะของแข็งอย่างเรา แต่ว่าจากปฏิสนธิที่ต่างกันก็ไม่เป็นพื้นฐานที่จะทำให้มีความเห็นถูก มีความเข้าใจถูก ไม่สามารถที่จะฟังรู้เรื่องในสิ่งที่มีจริง เพราะฉะนั้นนี่ก็เป็นความต่างของบุคคลซึ่งมีโอกาศที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ มีโอกาสได้ฟังธรรมที่จะทำให้ค่อยๆ สะสมอนัตตสัญญาโดยที่ฟังเข้าใจ และก็มีความมั่นคงที่จะศึกษาต่อไป วันนี้ขณะนี้ไม่เหมือนฝัน แต่พรุ่งนี้เถอะค่ะ วันนี้เดี๋ยวนี้ก็เป็นฝันไปแล้วเพราะว่าไม่มีอะไรเหลือเลย

        ผู้ถาม แต่จริงๆ คิดไม่ได้

        สุ. ไม่ใช่ให้คิด ให้เข้าใจก่อน คุณสุกัญญาอยากคิดได้ ที่ถามนี่บังคับความคิดได้ไหม

        ผู้ถาม ไม่ได้

        สุ. ก็เรื่องอะไรจะต้องไปอยากจะคิดให้ได้ในเมื่อบังคับความคิดไม่ได้ จะบังคับให้คิดให้ได้เป็นไปไม่ได้เลย

        ผู้ถาม เพราะฉะนั้นจะให้เข้าใจว่าในชีวิตประจำวันในขณะที่ตื่นอยู่คือความฝันก็ยังเข้าใจไม่ได้

        สุ. เพราะฉะนั้นถ้าสามารถจะเข้าใจว่าขณะนี้เป็นธรรมที่เกิดดับเร็วจนกระทั่งปรากฏเสมือนว่ามีคน มีสัตว์ตลอดเลยตั้งแต่เกิดจนตาย จะรู้ความจริงว่าอกุศลของเรา และความไม่รู้ของเรามากแค่ไหน อันนี้เป็นประโยชน์หรือไม่เป็นประโยชน์ที่จะรู้ความจริง เพราะฉะนั้นถ้ารู้ความจริงอย่างนี้ก็เป็นผู้ตรงที่จะรู้ว่าไม่ใช่จะให้ใครมาบอกเราให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้แล้วปัญญาจะเกิด ปัญญาอะไร ปัญญาของใคร ปัญญารู้อะไร ไม่เป็นสิ่งที่ถูกต้องเลยในเมื่อไม่รู้ความจริงของสิ่งที่มีจริงๆ ที่กำลังปรากฏจากขั้นฟังเข้าใจ เพราะฉะนั้นเมื่อฟังอย่างนี้แล้ว อีกไกลไหม นี่เป็นหนทางละโลภะที่อยากเร็ว และอยากใกล้ ไม่อย่างนั้นไม่มีทางอื่นเลย สัญญาจำอะไรในเมื่อเกิดกับจิตทุกขณะ จิตต้องมีอารมณ์ใช่ไหม สัญญามีอารมณ์ไหม

        ผู้ถาม มี

        สุ. สัญญาจำอารมณ์อะไร จำอารมณ์ที่จิตกำลังรู้ ไม่ใช่ไปจำอารมณ์ที่จิตไม่ได้รู้เพราะว่าสัญญาเจตสิกเกิดกับจิตทุกขณะ เพราะฉะนั้นจิตขณะนั้นมีอะไรเป็นอารมณ์ สัญญาก็จำอารมณ์นั้น จิตเกิดขึ้นทีละหนึ่งขณะ จิตนั้นมีอารมณ์อะไร สัญญาเจตสิกที่เกิดกับจิตนั้นก็จำอารมณ์นั้น หมดปัญหาไหมคะ

        ผู้ถาม ค่ะ ขอบพระคุณค่ะ

        ที่มา ...

        พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 232


    หมายเลข 11513
    23 ม.ค. 2567