ไม่จริงใจในการบวช


    อ.อรรณพ อาจารย์สงบครับ สิกขาบทเรื่องภิกษุไม่รับ และไม่ยินดีเงิน และทอง มีความสำคัญอย่างไรนะครับ ที่จะเป็นสาเหตุ ที่ทำให้เกิดการล่วงทั้งพระวินัย แล้วก็ผิดทั้งกฎหมาย จนเป็นข่าวอย่างนี้ ก็เรื่องเงินเรื่องทองทั้งสิ้นนะครับ อาจารย์

    อ.สงบ ที่จริง ไม่ใช่เฉพาะในปัจจุบันที่มีภิกษุรับเงิน และรับทอง ในสมัยพุทธกาล พระองค์ก็ทรงบัญญัติสิกขาบทนี้ เพื่อที่จะให้ภิกษุไม่รับเงิน และทอง และไม่ยินดีในเงิน และทอง สาเหตุที่พระองค์ทรงบัญญัติไว้ ก็เพื่อที่จะให้ภิกษุเป็นภิกษุ สมณะเป็นสมณะ พระผู้ประเสริฐเป็นผู้ที่ประเสริฐ สาเหตุที่ทำให้มีปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้น เพราะอะไร ก็เพราะว่า ผู้ที่เข้ามาบวชนั้น ไม่เชื่อพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ตรัสสอนไว้ พระองค์ทรงบัญญัติสิกขาบทไว้ ในโกสิยวรรค สิกขาบทที่ ๘ นั้นว่า ห้ามภิกษุรับเงิน และทอง และยินดีในเงิน และทอง ที่เขาเก็บไว้เพื่อตน ก็พากันบิดพระวินัย เรียกว่า พระวินัยปฏิรูป ก็คือปิดคัมภีร์ในพระวินัยว่า ให้รับเงินรับทองได้ โดยอ้างเหตุต่างๆ เพื่อที่ตัวเองจะได้สะสมเงินทอง

    นี่ก็คือสาเหตุใหญ่ ไม่เชื่อพระพุทธเจ้า ถ้าเชื่อพระพุทธเจ้าแล้ว ภิกษุจะเป็นภิกษุที่เป็นภิกษุ บรรพชิตจะเป็นบรรพชิตที่เป็นบรรพชิต ไม่ใช่ภิกษุประพฤติแบบชาวบ้าน ไม่ใช่บรรพชิตผู้ละเว้นจากบาป แต่ทำบาป นี่คือสาเหตุที่แท้จริงว่า ไม่เชื่อพระพุทธเจ้า แต่เชื่ออวิชชา เกิดความต้องการแสวงหาเหมือนกับชาวบ้าน พระองค์ตรัสไว้ว่า ผู้ที่ยินดีในเงิน และทอง ก็คือผู้ที่ยินดีในกามคุณ ๕ ผู้ที่ยินดีในกามคุณ ๕ ก็คือ ผู้ที่ยินดีในเงิน และทอง และสะสมเงิน และทอง นี่คือเป็นปัจจัยใหญ่ที่สำคัญ ที่ทำให้พระไม่เป็นพระ

    ก็เป็นหน้าที่ของเราชาวพุทธ ที่จะต้องเข้าใจว่า พระวินัยไหนที่พระองค์ทรงห้ามไว้ และพระวินัยไหนที่พระองค์ทรงอนุญาต ก็จะได้ช่วยกันรักษาพระพุทธศาสนา เพราะอะไร อ.อรรณพ ก็เพราะว่า ผู้ที่เข้ามาบวชนั้นก็เป็นลูกชาวบ้าน ก็ยังมีโลภะ โทสะ โมหะอยู่ ยังยินดีในเบญจกามคุณอยู่ ถ้าไม่รักษาพระวินัย ไม่ฟังพระธรรมให้เข้าใจ ไม่ขัดเกลาตัวเองให้โลภะ โทสะ โมหะนั้นเบาบางลง ก็เหมือนกับคฤหัสถ์ ซึ่งปลงผมเสร็จแล้ว ก็เอาจีวรมาห่ม จิตก็เป็นเหมือนเดิม เต็มด้วยโลภะ โทสะ โมหะอยู่ แต่เพศเหมือนภิกษุ ท่าทาง การสำรวมให้คนเห็นเหมือนภิกษุ แต่จิตใจยังเป็นคฤหัสถ์ คำสอนของพระพุทธเจ้าไม่ได้ซึมเข้าไป พระวินัยไม่ได้ขัดเกลา ไม่ได้นำออกซึ่งอกุศล นี่คือสาเหตุใหญ่ นี่เป็นประเด็นที่สำคัญที่สุดว่า ผู้ที่เข้ามาบวชนั้น ได้ชื่อว่าทำลายตัวเองด้วย ได้ชื่อว่าทำลายพระสัทธรรมด้วย ได้ชื่อว่าทำลายบุญของคฤหัสถ์ด้วย ได้ชื่อว่าเป็นบุคคลที่ไม่ซื่อตรงต่อพระพุทธเจ้าด้วย ไม่ซื่อตรงต่อพระธรรมด้วย ไม่ซื่อตรงต่อพระวินัยด้วย ไม่ซื่อตรงต่อคฤหัสถ์ ชาวบ้านที่เคารพกราบไหว้ด้วย เป็นผู้ที่ทรยศต่อพระพุทธศาสนา แล้วก็ทรยศต่อการกราบไหว้บูชาของอุบาสก อุบาสิกา และเป็นผู้ที่ทำลาย ให้พระสัทธรรมนั้นเลือนหายไป นี่คือภัยอย่างแท้จริง

    อ.อรรณพ อันนี้ก็เป็นประโยชน์มากนะครับ เพราะว่าการกล่าวตามความจริง ตามพระธรรม ตามพระวินัยเท่านั้น ที่จะรักษาพระธรรมวินัยไว้ได้ แล้วก็ไม่ต้องเป็นอกุศลเดือดร้อน บางท่านก็เดือดร้อนใจมาก เพราะว่าทำไมถึงเป็นอย่างนี้ บางท่านก็คิดตรงข้ามว่า เราควรจะปกป้องภิกษุไว้ อีกหน่อยก็เลยไม่มีวัด ไม่มีภิกษุ ถ้าภิกษุถูกดำเนินการ อะไรอย่างนี้ ก็คิดไปอย่างนั้น


    หมายเลข 11448
    26 ส.ค. 2567